สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติถอด ‘เควิน แม็กคาร์ธี’ ออกจากตำแหน่งประธานสภาฯ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ ที่ประธานสภาถูกถอดออกในลักษณะนี้
คะแนนเสียงสุดท้ายคือ 216 ต่อ 210 เสียงสนับสนุนญัตติให้ ‘ออก’ โดยมีสมาชิกพรรครีพับลิกัน 8 คนนำโดยตัวแทนฟลอริดา แมตต์ เกตซ์ เข้าร่วมกับพรรคเดโมแครตทั้งหมดที่ลงคะแนนเสียงต่อต้านแม็กคาร์ธี
แม็กคาร์ธี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เขาจะไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานสภาฯ อีก พร้อมทั้งบอกว่าเขาลงจากตำแหน่งด้วยความภาคภูมิใจ และเขาไม่เสียใจกับความขัดแย้งในพรรคของเขาเองที่เป็นเหตุให้เขาหลุดจากเก้าอี้ประธานสภาฯ
ขณะนี้สภาคองเกรสเข้าสู่ภาวะที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
สภาผู้แทนราษฎรจะถูกบังคับให้ลงคะแนนเสียงให้กับประธานสภาคนใหม่ แม้ว่าผู้ที่สนับสนุนแม็กคาร์ธีจะไม่ได้เสนอชื่อรายอื่นก็ตาม อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าพรรครีพับลิกันคนอื่นๆ จะสามารถได้รับคะแนนเสียงมากพอที่จะคว้าเก้าอี้อันทรงเกียรตินี้ไว้ได้หรือไม่
รีพับลิกันแตกออกเป็น 2 ฝ่าย
เกตซ์ซึ่งไม่เคยสนับสนุนการสมัครรับเลือกตั้งของแม็กคาร์ธีเมื่อเดือนมกราคม อ้างถึงการตัดสินใจของแม็กคาร์ธีที่จะผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายระยะสั้น โดยได้รับการสนับสนุนจากพรรคเดโมแครตเพื่อเป็นหลักฐานว่าเขาไม่ได้ ‘ปฏิบัติตามสัญญาของเขา’ ต่อพรรครีพับลิกัน
หลังจากการลงคะแนนเสียงครั้งใหม่ เกตซ์กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การเคลื่อนไหวนี้แสดงถึงการให้ความช่วยเหลือจากพรรค และนั่นคือสิ่งที่เราต้องทำเพื่อกลับเข้าสู่เส้นทางเดิม
“ผมคิดว่าเควิน แม็กคาร์ธีเป็นหนึ่งในคนไร้ศีลธรรมและไม่น่าเชื่อถือที่สุดเท่าที่ผมเคยพบมาตลอดชีวิต และผมคิดว่าเขาสร้างความเสียหายให้กับสถาบันนี้และประชาธิปไตยของเรา” ตัวแทนจากเวอร์จิเนีย อบิเกล สเปนเบอร์เกอร์ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครตกล่าวกับผู้สื่อข่าว
หลังจากการลงคะแนนเสียง คาริน จีน-เพียร์ เลขาธิการสื่อมวลชนทำเนียบขาวกล่าวว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ มีความกระตือรือร้นที่จะทำงานร่วมกับทั้งสองฝ่ายในสภาคองเกรส โดยเขาหวังว่าสภาผู้แทนราษฎรจะเลือกประธานในเร็วๆ นี้ เนื่องจากความท้าทายเร่งด่วนที่ประเทศของเรากำลังเผชิญอยู่นั้นรอไม่ได้ เขาจึงหวังว่าสภาจะเลือกประธานได้โดยเร็ว