พบหลักฐานใหม่ชี้ตัว ‘แจ็ค เดอะ ริปเปอร์’ ฆาตกรต่อเนื่องสุดสยองในตำนานอังกฤษ

18 ก.ค. 2566 - 06:44

  • ‘ไฮแอม ไฮแอมส์’ (Hyam Hyams) ฆาตกรต่อเนื่องในศตวรรษที่ 19 ถูกอ้างว่าเป็นตัวตนของผู้ร้ายที่หายไปอย่างไร้ร่องรอยในยุคนั้น

  • จากประวัติทางการแพทย์พบว่า ไฮแอมส์มีทักษะการใช้มีด เป็นโรคลมบ้าหมูขั้นรุนแรงและติดสุราจนเข้าออกจากโรงพยาบาลจิตเวชเป็นว่าเล่น

  • ขณะที่บันทึกทางการแพทย์หลายแห่งเปิดเผยว่าสภาพจิตใจและร่างกายของเขาตกต่ำลงซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่ แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ลงมือฆาตกรรม

medical-records-reveal-identity-jack-the-ripper-SPACEBAR-Hero

รู้ตัวฆาตกรในตำนาน ‘แจ็ค เดอะ ริปเปอร์’ แล้ว

หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อของชายคนนี้ ‘แจ็ค เดอะ ริปเปอร์’ (Jack the Ripper) ฆาตกรต่อเนื่องในตำนานย่านคนจนไวต์ชาเปล เขตอีสต์เอนด์ กรุงลอนดอนในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 โดยเหยื่อทุกรายมักจะถูกหั่นศพ หรือเอาอวัยวะภายในออกมา แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ตำรวจปิดคดีไปทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าฆาตกรรายนี้เป็น ‘ใคร’ ด้วยซ้ำ 

ทว่าล่าสุด ซาราห์ แบกซ์ ฮอร์ตัน อดีตตำรวจอาสาสมัครซึ่งเป็นทายาทของตำรวจที่สืบคดีแจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ได้ค้นพบหลักฐานทางการแพทย์ใหม่ที่เธอเชื่อว่าสามารถระบุตัวตนของ แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ได้ 

‘ไฮแอม ไฮแอมส์’ (Hyam Hyams) เป็นชื่อที่ฮอร์ตันอ้างว่าเป็นชายผู้ก่อเหตุฆาตกรรมผู้หญิงอย่างน้อย 6 รายในย่านไวต์ชาเปลทางตะวันออกของลอนดอนช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน 1888 

เหยื่อทั้ง 6 รายดังกล่าวได้แก่ มาร์ธา ทาแบรม, พอลลี่ นิโคลส์, แอนนี่ แชปแมน, เอลิซาเบธ สไตรด์, เคท เอ็ดโดวส์ และ แมรี่ เจน เคลลี่ ต่างก็เป็นคนยากไร้หรือเป็นโสเภณีซึ่งถูกเชือดคอและชำแหละศพอันน่าสยดสยองที่ทำให้ทั้งประเทศต้องตกตะลึง 

ทั้งนี้ ปู่ของฮอร์ตันเคยทำงานในแผนกสืบสวนคดีของ เดอะ ริปเปอร์ ประกอบกับเธอเองก็ได้ตรวจสอบประวัติทางการแพทย์ รวมถึงคำอธิบายของพยานชายที่พบเห็นเหยื่อผู้หญิงก่อนที่พวกเขาจะถูกแทงจนเสียชีวิต ซึ่งนั่นทำให้ฮอร์ตันเชื่อมโยงประติดประต่อเรื่องราวไปถึง ‘ไฮแอมส์’ 

ประวัติทางการแพทย์โยงไปสู่ตัวตน ‘ฆาตกร’

จากประวัติทางการแพทย์พบว่า ไฮแอมส์วัย 35 ปีเป็นผู้ผลิตซิการ์ ซึ่งนั่นหมายความว่าเขามีทักษะการใช้มีดนั่นเอง นอกจากนี้เขายังเป็นโรคลมบ้าหมูขั้นรุนแรงและมีอาการชักเป็นประจำ รวมทั้งติดสุราจนเข้าออกจากโรงพยาบาลจิตเวชเป็นว่าเล่นอีกด้วย ในประวัติบอกอีกว่าเขาชอบทำร้ายภรรยาซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะกลัวว่าเธอจะนอกใจเขา  

พยานที่เคยพบเจอฆาตกรรายนี้เล่าว่า ไฮแอมส์เป็นชายวัย 30 กลางๆ มีแขนที่แข็งทื่อโดยเฉพาะแขนซ้ายที่ไม่สามารถงอหรือยืดออกได้และเดินผิดปกติ (irregular gait) เพราะมีภาวะเข่าแอ่น 

ขณะเดียวกันก็พบว่าบันทึกทางการแพทย์ที่นำมาจากสถานพยาบาลและโรงพยาบาลจิตเวชหลายแห่งเปิดเผยว่าสภาพจิตใจและร่างกายของเขาตกต่ำลงซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาที่เดอะ ริปเปอร์ลงมือฆาตกรรม ประกอบกับแขนซ้ายของเขาที่มีปัญหาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 1888 

“เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เราสามารถระบุตัวตนของฆาตกรต่อเนื่อง แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ได้ว่าเป็น ‘ไฮแอมส์’ โดยใช้ลักษณะทางกายภาพ” ฮอร์ตันกล่าวกับ The Telegraph 

เพราะที่ผ่านมา ตำรวจปิดคดีไปทั้งๆ ที่ไม่สามารถระบุตัวตนฆาตกรได้ด้วยซ้ำ ทำให้ในภายหลังจากนั้นเรื่องราวดังกล่าวกลายเป็นเรื่องที่เล่าต่อๆ กันมาจนหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องหลอกลวง 

อย่างไรก็ดี เหยื่อ 3 รายของ แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ ถูกควักอวัยวะภายในออกมา ซึ่งนำไปสู่ทฤษฎีของตำรวจก่อนหน้านี้ที่สันนิษฐานว่าผู้ร้ายอาจเป็นศัลยแพทย์เพราะมีพื้นฐานทางกายวิภาคศาสตร์ของมนุษย์ ขณะที่ตำรวจเองก็ไม่เคยระบุแน่ชัดว่ามีเหยื่อทั้งหมดกี่คน ประกอบกับผู้สอบสวนที่ตรวจสอบคดีฆาตกรรม 11 คดีในไวต์ชาเปลและสปิตทัลฟิลด์ระหว่างปี 1888-1891 ก็ไม่สามารถเชื่อมโยงถึงเดอะ ริปเปอร์กับ 5 คดีในปี 1888 ได้เลย 

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาการระบุตัวตนของฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังที่สุดในสหราชอาณาจักรได้ครอบงำความคิดของนักประวัติศาสตร์และนักทฤษฎีสมคบคิดมานานหลายทศวรรษ รวมถึงผู้คลั่งไคล้ก็ได้ค้นหาหลักฐานต่างๆ เพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ลงมือฆ่าที่เป็นไปได้ ซึ่งมีทั้งที่น่าเชื่อถือไปจนถึงน่าเหลือเชื่อ 

ไม่ว่าจะเป็นนักต้มตุ๋นชาวรัสเซีย ช่างตัดผมชาวโปแลนด์ นักต้มตุ๋นชาวไอริช-อเมริกัน หรือแม้แต่ลูกชายคนโตของสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7 ซึ่งต่างก็ถูกกล่าวหาว่าเป็นชายฆาตกรผู้นำความหวาดกลัวมาสู่ใจกลางเขตอีสต์เอนด์ของลอนดอนช่วงฤดูร้อนปี 1888 ก่อนที่จะหายตัวปริศนาไปอย่างไร้ร่องรอย 

ขณะที่ในปี 2009 นักประวัติศาสตร์ก็อ้างว่าได้เปิดเผยผู้ต้องสงสัยที่อาจเป็นไปได้อีกคนหนึ่งโดยสืบหาจากลักษณะทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยซึ่งคล้ายกับเดอะ ริปเปอร์ แต่จนกระทั่งถึงตอนนี้ข้อกล่าวอ้างนั้นก็ไม่ได้รับการยอมรับและถูกปัดตกไป 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์