ความพยายามลงจอดบนดวงจันทร์ของสหรัฐฯ ครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปีดูเหมือนจะพังทลายลงหลังจากยานอวกาศของบริษัทเอกชนรายหนึ่งมีปัญหาเชื้อเพลิงรั่วอย่างร้ายแรง เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังการปล่อยเมื่อวันจันทร์ (8 ม.ค.)
เทคโนโลยีแอสโทรโบติก (Astrobotic Technology) จากเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐฯ สามารถกำหนดทิศทางการลงจอดไปทางดวงอาทิตย์เพื่อให้แผงโซลาร์เซลล์สามารถรวบรวมแสงแดดและชาร์จแบตเตอรี่ได้ ในขณะที่ทีมพิเศษได้ประเมินสถานะของระบบว่ามี ‘ความล้มเหลวในระบบขับเคลื่อน’
ในไม่ช้าก็เห็นได้ชัดว่ามี ‘การสูญเสียเชื้อเพลิงอย่างร้ายแรง’ ซึ่งทำให้ความหวังลดลงไปอีกสำหรับสิ่งที่วางแผนไว้ว่าจะลงจอดบนดวงจันทร์ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ “ขณะนี้เรากำลังประเมินภารกิจทางเลือกที่อาจเป็นไปได้ในเวลานี้” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์
ปัญหาดังกล่าวได้รับรายงานประมาณ 7 ชั่วโมงหลังจากการปล่อย ‘จรวดวัลแคน’ (Vulcan) ของบริษัท ‘United Launch Alliance’ ช่วงก่อนรุ่งสางจากสถานีกองทัพอวกาศเคปคานาเวอรัล ‘Cape Canaveral Space Force’ เมื่อวันจันทร์ซึ่งเป็นการทดสอบการบินเบื้องต้น “ปัญหาระบบขับเคลื่อนคุกคามความสามารถของยานอวกาศในการลงจอดอย่างนุ่มนวลบนดวงจันทร์” บริษัทกล่าว
แอสโทรโบติกตั้งเป้าจะเป็นธุรกิจเอกชนแห่งแรกที่ประสบความสำเร็จในการลงจอดบนดวงจันทร์ ซึ่งมีเพียง 4 ประเทศเท่านั้นที่ทำได้สำเร็จ ส่วนยานลงจอดลำที่ 2 จากบริษัทในฮิวสตันมีกำหนดเปิดตัวในเดือนหน้า โดย NASA มอบเงินหลายล้านให้กับทั้ง 2 บริษัทเพื่อสร้างและปล่อยยานลงจอดบนดวงจันทร์
ก่อนออกเดินทาง โจเอล เคิร์นส์ รองผู้อำนวยการฝ่ายสำรวจของ NASA ระบุว่า “แม้ว่าการใช้บริษัทเอกชนเพื่อส่งยานไปดวงจันทร์จะมีราคาถูกกว่าและเร็วกว่าการไปในเส้นทางปกติของรัฐบาล แต่ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย” เขาเน้นย้ำว่าหน่วยงานอวกาศยินดียอมรับความเสี่ยงดังกล่าว โดยบอกอีกว่า “ความสำเร็จและความพ่ายแพ้แต่ละครั้งเป็นโอกาสในการเรียนรู้และเติบโต”
ครั้งสุดท้ายที่สหรัฐฯ ส่งภารกิจลงจอดบนดวงจันทร์คือ ยาน Apollo 17 ในเดือนธันวาคม 1972 โดยมี ยูจีน เคอร์แนน และ แฮร์ริสัน ชมิทท์ เป็นชายคนที่ 11 และ 12 ที่ได้เดินบนดวงจันทร์ ถือเป็นการปิดยุคสมัยที่ยังคงเป็นจุดสูงสุดของ NASA
