เวลานี้ทั่วโลกต่างกำลังเฝ้าระวังโรคระบาดเอ็มพอกซ์ (mpox) หรือฝีดาษลิงสายพันธุ์ใหม่ ‘Clade Ib’ ที่กลายพันธุ์จากสายพันธุ์ดั้งเดิมกลุ่ม 1 ‘Clade I’ หลังจากองค์การอนามัยโลก (WHO) เพิ่งประกาศยกระดับสถานการณ์โรคระบาดเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่มีความน่ากังวลระดับโลก (PHEIC) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากไวรัสแพร่กระจายอย่างรวดเร็วทั่วทวีปแอฟริกา และมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ทวีปอื่นๆ
แต่ความกังวลไม่หยุดอยู่แค่นี้หลังพบผู้ป่วยสวีเดนติดเชื้อ mpox สายพันธุ์ ‘Clade Ib’ ในวันที่ 15 ส.ค. ซึ่งถือเป็นผู้ป่วยนอกแอฟริการายแรก ต่อมาในวันที่ 19 ส.ค.ก็พบผู้ป่วยชายชาวฟิลิปปินส์อีก 1 ราย และล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ส.ค. มีรายงานพบผู้ป่วย mpox เป็นชายชาวยุโรปวัย 66 ปีในไทย เดินทางมาจากประเทศแถบแอฟริกา แต่ผลตรวจยังไม่แน่ชัด 100% ว่าเป็นสายพันธุ์ใหม่ ‘Clade Ib’ หรือไม่ ต้องรอวันที่ 23 ส.ค.ถึงจะยืนยันได้
แม้ WHO จะออกมายืนยันว่า mpox จะไม่ระบาดแรงเหมือนโควิด เพราะมีความเสี่ยงที่จะแพร่กระจายต่ำ เนื่องจากเชื้อ mpox ไม่ได้แพร่กระจายทางอากาศ หรือแพร่กระจายได้ง่ายเหมือนไวรัสทางเดินหายใจ
แต่ถึงกระนั้น การระบาดของ mpox อีกครั้งในหลายประเทศทั่วแอฟริกากลับสร้างความวิตกให้กับนักวิทยาศาสตร์
แล้วการระบาดของ ‘Mpox’ จะทำให้เกิดการล็อกดาวน์เหมือน ‘โควิด-19’ หรือไม่?

คำตอบก็คือ
“ไม่น่าจะมีการล็อกดาวน์” เพราะอัตราการแพร่เชื้อต่ำกว่าเมื่อเทียบกับโควิด
“ไม่มีเหตุผลใดๆ เลยที่จะใช้มาตรการแบบนั้น” ดร.แดเนียล คูริทซ์เคส หัวหน้าแผนกโรคติดเชื้อที่โรงพยาบาลบริกแฮมแอนด์วีเมนส์ และศาสตราจารย์ด้านการแพทย์ที่โรงเรียนแพทย์ฮาร์วาร์ด กล่าว
ขณะเดียวกันดร. แอนน์ ริมัว ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยา คณะสาธารณสุขศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในลอสแองเจลิส ก็บอกว่า “คำตอบคือ ‘ไม่’ mpox ไม่ใช่ไวรัสชนิดใหม่เหมือนกับโควิด และ mpox เป็นไวรัสที่เคยระบาดแล้ว แถมเรายังควบคุมได้ รวมถึงมีวัคซีนด้วย... เราเคยควบคุมการระบาดของ mpox ทั่วโลกมาแล้วในปี 2022”
“ความเป็นไปได้ที่โรคนี้จะกลายเป็นโรคระบาดใหญ่แบบโควิด-19 นั้นมีน้อยมาก” นีล มาเนียร์ ผู้อำนวยการหลักสูตรสาธารณสุขศาสตรมหาบัณฑิต สาขาสุขภาพในเมืองของมหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทิร์น กล่าว
นอกจากนี้ ดร.ฮันส์ คลูเก ผู้อำนวยการประจำภูมิภาคยุโรปขององค์การอนามัยโลก ยังเผยด้วยว่า “mpox ‘ไม่ระบาดรุนแรงเหมือนโควิด’ ไม่ว่าจะสายพันธุ์กลุ่ม 1 หรือกลุ่ม 2 ก็ตาม และความเสี่ยงต่อประชากรทั่วไปก็อยู่ในระดับต่ำ...”
“การตระหนักรู้และการเฝ้าระวัง mpox เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริบทของสถานการณ์การระบาดที่เคยเกิดขึ้นในปี 2022 **ผมคิดว่าเราไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกมากเกินไป แต่ก็น่ากังวล...**แพทย์ (ในสหรัฐฯ) กำลังเฝ้าระวังเคสผู้ป่วยที่ดูเหมือนจะเป็นโรค mpox เราจะกำหนดมาตรการแยกตัวและการทดสอบที่เหมาะสม และเรากำลังเพิ่มการฉีดวัคซีนให้กับผู้คนที่มีความเสี่ยง” ดร.โอนเยมา โอกบัวกู ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเยล กล่าว
แต่ถึงกระนั้น mpox สายพันธุ์ ‘Clade I’ ก็ยังคงน่ากังวล เนื่องจากแพร่กระจายเร็วกว่าและมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ ‘Clade II’ ที่มีความรุนแรงน้อยกว่าซึ่งมักพบผู้ป่วยในยุโรป ออสเตรเลีย สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ อีกหลายประเทศเมื่อปี 2022
สถานการณ์น่ากังวลแค่ไหน?

อัตราการเสียชีวิตนั้นแตกต่างกันไป (ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาผู้ป่วยที่อาการหนักที่สุด) ทั้งนี้พบว่าอัตราการเสียชีวิตในคองโกครั้งนี้จากสายพันธุ์ ‘Clade I’ และสายพันธุ์ ‘Clade Ib’ อยู่ที่ประมาณ 4% ส่วนสายพันธุ์ ‘Clade II’ ซึ่งแพร่ระบาดไปทั่วโลก มีผู้เสียชีวิตน้อยกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม mpox ไม่ใช่โควิด-19 และได้รับการพิสูจน์แล้วว่า เราสามารถหยุดการแพร่ระบาดและช่วยเหลือผู้คนที่มีความเสี่ยงได้ และเชื้อไม่ได้แพร่กระจายได้ง่ายนัก
“ผมไม่คิดว่านี่จะเป็นสาเหตุให้เกิดความตื่นตระหนกหรือก่อให้เกิดความกังวลอย่างกว้างขวางในหมู่ประชาชน” มาเนียร์ กล่าว
นั่นก็เพราะว่า mpox มีวัคซีนป้องกัน ตามข้อมูลของ CDC ที่ระบุเมื่อเร็วๆ นี้ว่า วัคซีน ‘Jynneos’ ทั้ง 2 โดส ซึ่งใช้ฉีดป้องกันสายพันธุ์ ‘Clade II’ ยังสามารถป้องกันเชื้อ mpox สายพันธุ์ ‘Clade I’ ที่รุนแรงกว่าได้
“มันไม่เหมือนโควิด-19 ที่เราไม่มีวัคซีนในช่วงแรกของการระบาดใหญ่ แต่สำหรับ mpox เรารู้วิธีการรักษา เรามีวัคซีนสำหรับรักษาโรค ดังนั้น การฉีดวัคซีนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เกิดการระบาด เพื่อที่เราจะสามารถจำกัดการแพร่ระบาดได้”
มาเนียร์ กล่าวเสริม
มาเนียร์ กล่าวอีกว่า “ผู้คนควรทำสิ่งที่พวกเขาทำอยู่เสมอเพื่อบรรเทาการแพร่ระบาดของโรค เช่น ล้างมือเป็นประจำ สังเกตอาการ และไปพบแพทย์หากคุณสงสัยว่าคุณเป็นโรค์ mpox หรือเคยสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นโรค mpox”
ทั้งนี้ การที่ WHO ประกาศยกระดับ mpox ให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขนั้นไม่ได้ต้องการประชาชนตื่นตระหนก แต่เป็นการส่งสัญญาณให้บุคลากรทางการแพทย์เฝ้าระวัง mpox และระดมอุปกรณ์การแพทย์ทั่วโลก เพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องมือการแพทย์ต่างๆ รวมถึงวัคซีนจะถูกส่งไปยังพื้นที่ที่ต้องการมากที่สุุดทั้งในคองโก และประเทศเพื่อนบ้าน