การปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่างกองทัพเมียนมาและกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ยังคงดำเนินต่อไปใกล้ชายแดนไทยในเมืองเมียวดีของรัฐกะเหรี่ยงเมื่อวันพุธ (10 เม.ย.) ซึ่งเป็นการเปิดฉากโจมตีวันที่ 2 ของทหารกะเหรี่ยงและกองกำลังพันธมิตรเพื่อเอาชนะกองทัพเผด็จการทหารกองสุดท้ายที่เหลืออยู่ในเมืองเมียวดี
กองทัพปลดแอกแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และพันธมิตรจากกองกำลังป้องกันประชาชน (PDFs) ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ เริ่มโจมตีกองบัญชาการกองพันทหารราบที่ 275 เมื่อบ่ายวันอังคาร (9 เม.ย.) หลังจากเอาชนะกองกำลังทหารเผด็จการอื่นๆ ทุกกองกำลังในเมืองเมียวดีของรัฐกะเหรี่ยงเหนือ หลายวันที่ผ่านมา
กองทัพปลดแอกแห่งชาติกะเหรี่ยงและพันธมิตรเริ่มโจมตีที่ทำการของกองพันซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าเมืองเมียวดี หลังจากที่ผู้บังคับบัญชาปฏิเสธที่จะยอมจำนนในระหว่างการเจรจากับกองกำลังต่อต้าน
เมียวดีเป็นพื้นที่ที่พลุกพล่านที่สุดเป็นอันดับ 3 ระหว่างเมียนมาและไทยที่ตั้งอยู่ตรงข้ามอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ที่ควบคุมโดยรัฐบาลเผด็จการทหารระบุว่า “สินค้าประมาณ 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4 หมื่นล้านบาท) ส่งผ่านเมียวดีในช่วงปีที่ผ่านมา”
ความรุนแรงของการสู้รบใกล้เมียวดีทำให้รัฐบาลไทยต้องส่งทหารไปยังชายแดนที่อำเภอแม่สอดเพื่อความปลอดภัย
โก ซอว์ เค ชาวเมียวดีบอกกับสำนักข่าวอิรวดี (Irrawaddy) เมื่อเช้าวันพุธว่า “การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปในเช้าวันนี้ และเครื่องบินลำเลียง Y12 ของรัฐบาลทหารได้ทิ้งระเบิดบริเวณรอบๆ กองบัญชาการของกองพันสุดท้ายที่เหลืออยู่ในเมืองเมียวดี…ไม่มีการปะทะกันในเมืองนี้ แต่ชาวบ้านยังคงตื่นตระหนก”
“อาจได้ยินเสียงระเบิดอย่างหนักในเมียนมาจากอำเภอแม่สอดในช่วงดึกของวันพุธ และชาวเมืองเมียวดีกำลังหลบหนีเข้าประเทศไทยผ่านทางประตูชายแดนแม่สอด” นักข่าวอิรวดีในพื้นที่กล่าว
พันตรีนายหม่องซอ จากกองกำลังรักษาชายแดน (BFG) ของรัฐกะเหรี่ยงบอกกับสำนักข่าวอิระวดีเมื่อวันอังคารว่า “ทหารจากกองกำลังได้เข้ายึดที่มั่นในเมืองเมียวดี และจะพยายามป้องกันการปะทะในเมือง”
BGF ตัดความสัมพันธ์กับรัฐบาลทหารเมื่อเดือนมกราคม และประกาศว่าพวกเขาจะทำหน้าที่เป็นกองทัพอิสระ แทนที่จะเป็นกองทัพที่รับใช้รัฐบาลเผด็จการทหาร
ชาวเมียนมาอพยพเข้าแม่สอดจำนวนมาก
พลเรือนมากกว่า 1,000 คนจากเมืองเมียวดีของรัฐกะเหรี่ยงหลบหนีเดินข้ามสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาความยาว 420 เมตร ไปยังแม่สอดในขณะที่มีการต่อสู้เพื่อยึดครองเมืองเมียวดี และเดินทางอย่างปลอดภัยในประเทศไทยในวันอังคารและวันพุธที่ผ่านมา
ขณะที่ชาวแม่สอดกล่าวว่า “อำเภอนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้ลี้ภัยจากเมียนมา”
“อพาร์ทเมนท์เกือบทั้งหมดในแม่สอดถูกเช่าไปแล้ว แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา จำนวนผู้มาใหม่จากฝั่งเมียนมา (ชายแดน) เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด” แหล่งข่าวกล่าวเสริม
จำนวนผู้ลี้ภัยใหม่เริ่มเพิ่มขึ้นหลังจากที่กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และกองกำลังพันธมิตรจากกองกำลังป้องกันประชาชน (PDF) เริ่มขับไล่กองกำลังทหารออกจากเมืองเมียวดีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ขององค์กรสิทธิมนุษยชนของเมียนมาที่ถูกเนรเทศไปแม่สอด ประเมินว่าอำเภอนี้ได้รับผู้ลี้ภัยจากเมียนมาประมาณ 30,000 คน นับตั้งแต่รัฐประหารเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2021
“ไทยเตรียมรับผู้ลี้ภัยเมียนมา 100,000 คน” รมว.ต่างประเทศระบุ
ทั้งนี้ ไม่มีรายงานการปะทะกันในเมืองนี้ แต่การต่อสู้อย่างดุเดือดยังคงดำเนินต่อไปใกล้กับเมืองนี้เมื่อวันพุธ โดยเครื่องบินไอพ่นของรัฐบาลทหารได้ทิ้งระเบิดในเมืองเมียนิโกน ชานเมืองเมียวดี และไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตในบ่ายวันพุธได้
Photo by MANAN VATSYAYANA / AFP