สถานการณ์สู้รบในเมียนมายังคงดำเนินไปอย่างดุเดือดทั่วเมืองเมียวดีในรัฐกะเหรี่ยงหลังกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลสามารถยึดเมียวดีได้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน แต่ความคืบหน้าล่าสุดพบว่าทางกองทัพเองก็ไม่ยอมแพ้ต่อสู้จนสามารถยึดคืนฐานทัพใหญ่ของตัวเองในเมืองเมียวดี บริเวณชายแดนไทยกลับมาได้ ขณะที่กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNLA) และพันธมิตรถอยทัพออกไป
ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น KNLA เผยว่า กองกำลังต่อต้านรัฐบาลเลือกที่จะถอนตัว โดยอ้างถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับพลเรือนในท้องถิ่นและทรัพย์สินของพวกเขาจากการต่อสู้ที่ดำเนินอยู่ การโจมตีทางอากาศและปืนใหญ่จากฝ่ายรัฐบาลส่งผลให้มีผู้คนประมาณ 3,000 คนต้องหลบหนีข้ามชายแดนเข้าสู่ประเทศไทย และมีรายงานพลเรือนเสียชีวิต 7 ราย
“ขณะนี้เราได้ล่าถอยจากบริเวณรอบสะพานหมายเลข 2 เล็กน้อย ซึ่งเป็นที่ที่เราปะทะกับกองกำลังทหาร การโจมตีทางอากาศบ่อยครั้งของรัฐบาลทหารทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของคนในท้องถิ่น การถอยออกไปจะทำให้เราสามารถประเมินสถานการณ์ทางทหารของเราได้รอบคอบมากขึ้น…การถอนกำลังเริ่มขึ้นในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 21 เมษายน ผลก็คือ เมื่อวันอังคาร (23 เม.ย.) กองกำลังทหารรัฐบาลทหารได้เข้ายึดที่ทำการกองพันทหารราบที่ 275 ในเมืองเมียวดีได้”
ปาโดซอตอนี โฆษกสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) บอกกับศูนย์ข้อมูลกะเหรี่ยง ซึ่งเป็นองค์กรสื่อท้องถิ่น
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่ากองทัพปลดปล่อยแห่งชาติกะเหรี่ยงได้ให้ความช่วยเหลือทหารกองทัพกองพันทหารราบที่ 275 (อยู่ห่างจากเมียวดีไปทางตะวันตกประมาณ 4 กิโลเมตร) ซึ่งหลบหนีไปยังจุดริมแม่น้ำเพื่อความปลอดภัย
ตามรายงานบางฉบับระบุว่า การยึดสำนักงานใหญ่คืนโดยรัฐบาลทหารได้รับความช่วยเหลือจากกองกำลังรักษาชายแดนกะเหรี่ยง (BGF) ที่ควบคุมอาณาเขตทางตอนเหนือของเมือง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา BGF ได้ประกาศแยกทางกับกองทัพเมียนมาและเปลี่ยนชื่อเป็น ‘กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง’ (KNA) นำโดย พ.อ.ซอว์ชิตทู ซึ่งแยกตัวออกจาก KNU ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 โดย KNA มีกองกำลังทหารติดอาวุธที่น่าเกรงขามจำนวน 7,000 นาย รวมถึงจรวดต่อสู้รถถังและโดรน
กองทัพ KNLA ตำหนิกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) ว่าปล่อยให้กองทหารรัฐบาลยึดฐานทัพทหารในเมืองเมียวดีบริเวณชายแดนไทยกลับมาได้
“เพื่อหลีกเลี่ยงการตกหลุมพรางในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ กองทหาร KNLA และพันธมิตรของเราจึงถอนตัวออกจากเมียวดีชั่วคราว…KNLA และพันธมิตรจะต่อสู้จนกว่าระบอบการปกครองจะล่มสลาย กองกำลังพันธมิตรมุ่งมั่นที่จะกำจัดกองกำลังทหารที่เข้ามายึดเมืองเมียวดีคืน เราจะสังหารกำลังเสริมของรัฐบาลเผด็จการทหาร และบดขยี้พวกเขาอย่างเด็ดขาด” ปาโดซอตอนีกล่าว
ทั้งนี้ นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุดของการต่อสู้เพื่อเมียวดี ขณะเดียวกันศูนย์กลางของความขัดแย้งก็ดูเหมือนจะขยับไปที่เทือกเขาดาห์นา (Dawna mountains) ซึ่งทอดยาวจากเหนือจรดใต้ แยกเมียวดีและพื้นที่โดยรอบออกจากเมืองกอกะเรก (Kawkareik)
ข้อมูลของสำนักข่าวอิระวดี (The Irrawaddy) เผยว่า กองกำลังทหารมากถึง 1,000 นายกำลังพยายามเดินทางข้ามเทือกเขาดาห์นาจากเมืองกอกะเรกเพื่อยึดเมืองเมียวดี ขณะที่ KNU และพันธมิตรถอนตัวจากเมืองกอกะเรกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และตอนนี้กำลังมุ่งความสนใจไปที่การโจมตีกำลังเสริมของรัฐบาลทหาร เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขามาถึงเมียวดี หรือทำให้พวกเขาอ่อนแอลงก่อนมาถึงที่นั่น
“ตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายกำลังเผชิญหน้ากันใกล้กับภูเขาดาห์นา” สำนักข่าวอ้างคำพูดของ พ.อ.ซอว์นัลดาห์ทู จากกองพลน้อยที่ 6 ของ KNU
Photo by AFP
