NASA เผยยังไม่มีหลักฐานว่า ‘มนุษย์ต่างดาว’ มีอยู่จริง แต่ (อาจ) มีก็ได้?

15 กันยายน 2566 - 06:36

nasa-ufo-report-what-we-learned-from-uap-study-SPACEBAR-Thumbnail
  • เปิดแถลงการณ์ของ NASA ว่า ‘จริงๆ แล้ว UFO และมนุษย์ต่างดาวมีจริงๆ ไหม?’

ไม่มีหลักฐานว่ามี ‘มนุษย์ต่างดาว’…แต่ (อาจ) มีก็ได้

เป็นประเด็นให้สงสัยกันมาอย่างยาวนานท่ามกลางการตั้งคำถามมาโดยตลอดว่า ‘มนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือ?’ เพราะที่ผ่านๆ มามีผู้พบเห็น UFO นับหลายร้อยครั้ง และ NASA เองก็ติดตามสืบสวนเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน จนกระทั่งได้ฤกษ์แถลงการณ์เมื่อคืนวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมาซึ่งพบว่า ‘ไม่มีหลักฐานว่ามนุษย์ต่างดาวอยู่เบื้องหลังปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ แต่ NASA ก็ไม่ได้ปฏิเสธความเป็นไปได้ดังกล่าว’ 

บิล เนลสัน ผู้บริหาร NASA เผยว่า “หน่วยงานอวกาศของสหรัฐฯ ไม่เพียงแต่จะเป็นผู้นำในการค้นคว้า ‘ปรากฏการณ์ไม่สามารถระบุได้ หรือปรากฏหลักฐาน’ (Unidentified Anomalous Phenomena - UAP) ที่เป็นไปได้เท่านั้น แต่จะแบ่งปันข้อมูลด้วยความโปร่งใสมากขึ้น 

และต่อไปนี้คือประเด็นสำคัญบางส่วนที่ NASA แถลงการณ์เมื่อคืนนี้ 

ไม่มีหลักฐานว่า ‘มนุษย์ต่างดาว’ มีอยู่จริง แต่ (อาจ) มีก็ได้  
จากรายงานระบุว่า “‘ไม่มีเหตุผลที่จะสรุป’ ว่า สิ่งมีชีวิตนอกโลกอยู่เบื้องหลังการพบเห็น UAP หลายร้อยครั้งที่ NASA สืบสวนหรือไม่?...อย่างไรก็ตาม วัตถุเหล่านั้นต้องเดินทางผ่านระบบสุริยะของเราก่อนจะมาถึงที่นี่” 
แม้ว่ารายงานดังกล่าวจะไม่ได้สรุปว่าสิ่งมีชีวิตนอกโลกมีอยู่จริง แต่ NASA ก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ว่าอาจมี ‘เทคโนโลยีของมนุษย์ต่างดาวที่อาจไม่ทราบถึงศักยภาพซึ่งปฏิบัติการในชั้นบรรยากาศโลก’ 

ข้อมูล ‘ปรากฏการณ์ UAP’ ที่มีอย่างจำกัด 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/W4j6aeSRaLyBnjaFxzpct/70cbf6e916f2bde97c60065b79651ed9/nasa-ufo-report-what-we-learned-from-uap-study-SPACEBAR-Photo01
Photo: Kevin Dietsch / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP
นิโคลา ฟ็อกซ์ ผู้ช่วยผู้บริหารของคณะกรรมการภารกิจวิทยาศาสตร์ของ NASA กล่าวว่า “UAP เป็นหนึ่งในปริศนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของเรา และสาเหตุหลักมาจากการขาดข้อมูลคุณภาพสูง…แม้จะมีรายงานการพบเห็น UAP หลายครั้ง แต่มีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะหาข้อสรุปทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับธรรมชาติและต้นกำเนิดของ UAP ได้” 

นอกจากนี้ NASA จะใช้ AI และการเรียนรู้ของระบบคอมพิวเตอร์ (machine learning) ในกระบวนการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้วย 

‘ร่างเอเลี่ยน' ที่เป็นไวรัลจากเม็กซิโกอยู่ตอนนี้
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1FBGr6VLrjoBgKREFq10YN/f778b057cda2e6ce2d0181cea91b5011/nasa-ufo-report-what-we-learned-from-uap-study-SPACEBAR-Photo02
Photo: AFP
สำหรับประเด็นชุดภาพถ่าย ‘ร่างเอเลี่ยน’ ในเม็กซิโกที่อ้างว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวซึ่งเป็นกระแสฮือฮาเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา และ NASA ยังคงชั่งน้ำหนักประเด็นนี้อยู่ 

แต่ เจมี่ เมาสซัน ผู้ที่อ้างว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน UFO บอกว่า “มันไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นศพมนุษย์ต่างดาว โบราณ 2 ร่าง” เมาสซันอ้างว่าศพเหล่านี้ถูกพบในเมืองกุสโก ประเทศเปรูเมื่อปี 2017 ประกอบกับการทดสอบคาร์บอนกัมมันตภาพรังสีซึ่งระบุวันที่วัตถุเหล่านี้นั้นมีอายุไม่เกิน 1,800 ปี 

ทว่าคำกล่าวอ้างเหล่านั้นกลับได้รับการตอบรับด้วยความกังขาอย่างหนักในแวดวงวิทยาศาสตร์ ขณะที่ ดร. เดวิด สแปร์เกล นักวิทยาศาสตร์ของ NASA เผยกับ BBC ว่า “เราส่งตัวอย่างไปให้ชุมชนวิทยาศาสตร์โลก (world scientific community) แล้ว และเราจะดูว่ามีอะไรอยู่ที่นั่น” 

NASA จะใช้เครื่องมือ AI ร่วมด้วย 
จากรายงานของ NASA ระบุว่า “เทคโนโลยี AI และการเรียนรู้ของเครื่องจักรจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการระบุหลักฐาน UAP” 

“หนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดในการทำความเข้าใจและระบุ UAP ก็คือ ‘การขาดข้อมูล’ และเรามีเป้าหมายเพื่ออุดช่องว่างนั้นด้วยเทคนิคการระดมข้อมูลจากมวลชน ซึ่งรวมถึงแอปฯ ที่ใช้สมาร์ทโฟนแบบโอเพ่นซอร์สด้วย (open-source smartphone-based apps) และคำอธิบายข้อมูล (metadata) ของสมาร์ทโฟนอื่นๆ จากผู้สังเกตการณ์พลเมืองหลายคนทั่วโลก” 

“แต่ขณะนี้ยังไม่มีระบบมาตรฐานสำหรับการรวบรวมและจัดระเบียบรายงานปรากฏการณ์ UAP ของ พลเรือน ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อมูลกระจัดกระจายและไม่สมบูรณ์” รายงานระบุ 

มนุษย์ต่างดาวยังคงเป็น ‘ปริศนา’

เนลสันเน้นย้ำว่า”การค้นหาสิ่งมีชีวิตนอกโลกเป็นหลักการสำคัญของ NASA อยู่แล้ว หน่วยงานของเรามีส่วนร่วมในการวิจัยดังกล่าวมานานหลายทศวรรษ และยังคงใช้กล้องโทรทรรศน์ขั้นสูงเพื่อค้นหาดาวเคราะห์ที่อยู่ในเขตซึ่งเอื้อต่อการอาศัยอยู่ได้” 

ถ้าถามว่าผมเชื่อไหมว่ามีสิ่งชีวิตในจักรวาลที่กว้างใหญ่ (จนยากที่จะเข้าใจว่ามันใหญ่แค่ไหน)? คำตอบของผมคือ ‘ใช่’ ถึงกระนั้นนั่นไม่ได้หมายความว่า UAP เป็นหลักฐานของชีวิตเหล่านั้น…หากสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมีอยู่จริง ก็คงต้องเดินทางหลายล้านหรือหลายพันล้านปีแสงเพื่อมายังโลกและยังคงไม่ถูกตรวจจับอีกด้วย” เนลสันกล่าว 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์