นักวิทยาศาสตร์ของนาซา (NASA) กล่าวในการแถลงข่าวว่า เดือนกรกฎาคมปี 2023 มีแนวโน้มที่จะเป็นเดือนที่ ‘ร้อน’ ที่สุดเป็น ‘ประวัติการณ์ในรอบหลายร้อยหรือหลายพันปี’ พร้อมเตือนว่าความร้อนมีแต่จะเลวร้ายลง
“เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อนทั่วโลก คลื่นความร้อนที่เราเห็นในสหรัฐฯ ยุโรป จีน และร้อนจนทำลายสถิติก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ” กวิน ชมิดห์ ผู้อำนวยการสถาบัน NASA Goddard Institute for Space Studies กล่าว
เคท คาลวิน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์และที่ปรึกษาอาวุโสด้านสภาพอากาศของ NASA กล่าวว่า เดือนมิถุนายนปี 2023 เป็นเดือนมิถุนายนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว และเดือนกรกฎาคมน่าจะเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด เรารู้จากวิทยาศาสตร์ว่ากิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นสาเหตุที่ชัดเจนของภาวะโลกร้อนที่เราเห็นบนโลก
หน่วยงานด้านอวกาศของสหรัฐฯ พบอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขนาดนี้ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมปี 2016 เนื่องจากเหตุการณ์ซูเปอร์เอลนีโญในฤดูหนาวปี 2015-2016 ขณะที่มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งเรายังไปไม่ถึงเหตุการณ์เอลนีโญในปัจจุบัน เนื่องจากมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
คลื่นความร้อนที่เห็นในปัจจุบันเกิดจากความร้อนโดยรวมทั่วโลก โดยเฉพาะในมหาสมุทร
“เราได้เห็นอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลสูงเป็นประวัติการณ์ แม้เกิดขึ้นนอกเขตร้อนเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และเราจะคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะดำเนินต่อไป และเหตุผลที่เราคิดว่าจะดำเนินต่อไป เป็นเพราะเรายังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ” ชมิดห์กล่าว
นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำได้กำหนดความเป็นไปได้ 50-50 ว่าปี 2023 จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่จะถูกทำลายสถิติในปี 2024 ซึ่งจะร้อนยิ่งกว่าเดิมเพราะปรากฏการณ์เอลนีโญ ขณะที่นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ กำหนดความเป็นไปได้ถึง 80% ของปี 2023 เป็นปีที่ร้อนที่สุด
“เรากำลังเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ไม่เคยมีมาก่อนทั่วโลก คลื่นความร้อนที่เราเห็นในสหรัฐฯ ยุโรป จีน และร้อนจนทำลายสถิติก็ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ” กวิน ชมิดห์ ผู้อำนวยการสถาบัน NASA Goddard Institute for Space Studies กล่าว
เคท คาลวิน หัวหน้านักวิทยาศาสตร์และที่ปรึกษาอาวุโสด้านสภาพอากาศของ NASA กล่าวว่า เดือนมิถุนายนปี 2023 เป็นเดือนมิถุนายนที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว และเดือนกรกฎาคมน่าจะเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด เรารู้จากวิทยาศาสตร์ว่ากิจกรรมของมนุษย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นสาเหตุที่ชัดเจนของภาวะโลกร้อนที่เราเห็นบนโลก
แค่จุดเริ่มต้น
นักวิทยาศาสตร์ของ NASA ชี้แจงว่าข้อมูลที่รวบรวมและวิเคราะห์โดยสถาบันได้ชี้ไปที่อุณหภูมิ ที่เพิ่มขึ้นหลายสิบปีในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมาหน่วยงานด้านอวกาศของสหรัฐฯ พบอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขนาดนี้ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคมและสิงหาคมปี 2016 เนื่องจากเหตุการณ์ซูเปอร์เอลนีโญในฤดูหนาวปี 2015-2016 ขณะที่มีอีกเหตุการณ์หนึ่งที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งเรายังไปไม่ถึงเหตุการณ์เอลนีโญในปัจจุบัน เนื่องจากมันเพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
คลื่นความร้อนที่เห็นในปัจจุบันเกิดจากความร้อนโดยรวมทั่วโลก โดยเฉพาะในมหาสมุทร
“เราได้เห็นอุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเลสูงเป็นประวัติการณ์ แม้เกิดขึ้นนอกเขตร้อนเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว และเราจะคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะดำเนินต่อไป และเหตุผลที่เราคิดว่าจะดำเนินต่อไป เป็นเพราะเรายังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจกเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ” ชมิดห์กล่าว
นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำได้กำหนดความเป็นไปได้ 50-50 ว่าปี 2023 จะเป็นปีที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่จะถูกทำลายสถิติในปี 2024 ซึ่งจะร้อนยิ่งกว่าเดิมเพราะปรากฏการณ์เอลนีโญ ขณะที่นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ กำหนดความเป็นไปได้ถึง 80% ของปี 2023 เป็นปีที่ร้อนที่สุด
