เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และอิรักเผยถึงการโจมตีครั้งล่าสุดว่า การโจมตีด้วยโดรนเมื่อวันจันทร์ (25 ธ.ค.) มุ่งเป้าไปที่ฐานทัพทหารของสหรัฐฯ และกองกำลังพันธมิตรต่อต้านญิฮาด ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของอิรัก
“ในเหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ ได้มีการปล่อยโดรนไปยังฐานทัพใกล้กับสนามบินเออร์บิลในเคอร์ดิสถาน ของอิรัก…การโจมตีดังกล่าวทำให้เกิดการบาดเจ็บ” เยเฮีย ราซูล โฆษกกระทรวงกิจการทหารกล่าวในแถลงการณ์โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
เจ้าหน้าที่ทหารสหรัฐฯ รายหนึ่งซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ ยืนยันกับ AFP ว่า “การโจมตีด้วยโดรนเกิดขึ้นที่กองกำลังสหรัฐฯ และกองกำลังพันธมิตรที่ฐานทัพอากาศ…เรายังคงรอการประเมินการบาดเจ็บและความเสียหาย (ถ้ามี)”
ไม่นานหลังจากการโจมตีด้วยโดรน กลุ่มต่อต้านอิสลามในอิรักก็อ้างว่าได้ปล่อยโดรนโจมตีฐานทัพอื่นใกล้กับฮารีร์ ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเออร์บิล
ฐานทัพดังกล่าวยังเป็นที่ตั้งของกองกำลังสหรัฐฯ และกองกำลังผสมอีกด้วย
กลุ่มต่อต้านอิสลามในอิรักซึ่งต่อต้านการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่ออิสราเอลในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการโจมตีส่วนใหญ่ดังกล่าว
ในช่วงต้นเดือนธันวาคม สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงแบกแดดตกเป็นเป้าหมายการยิงจรวด โดยการโจมตีดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการโจมตีครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มสงครามในฉนวนกาซา
สำนักงานนายกรัฐมนตรี โมฮัมเหม็ด ชีอา อัล-ซูดานี ประกาศการจับกุมหลายครั้ง และกล่าวว่า บางส่วนมีความเชื่อมโยงกับหน่วยงานรักษาความปลอดภัย
ทั้งนี้ สหรัฐฯ มีทหารประมาณ 2,500 นายประจำการในอิรัก และประมาณ 900 นายในซีเรีย โดยแนวร่วมระหว่างประเทศต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลามมาตั้งแต่ปี 2014
ด้านสหรัฐฯ ไม่ยอมตกเป็นเป้าฝ่ายเดียว ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า “กองทัพสหรัฐฯ ได้ปฏิบัติการโจมตีในสถานที่ 3 แห่ง หลังจากเหตุโจมตีดังกล่าวทำให้บุคลากรอเมริกันได้รับบาดเจ็บเมื่อวันจันทร์…การโจมตีที่แม่นยำเหล่านี้เป็นการตอบสนองต่อการโจมตีหลายครั้งต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในอิรักและซีเรียโดยกองกำลังติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน รวมถึงการโจมตีโดยกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเครือของอิหร่าน และกลุ่มพันธมิตรในฐานทัพอากาศเออร์บิลเมื่อเช้าวันนี้”
ออสตินกล่าวเสริมอีกว่า “วอชิงตันจะไม่ลังเลใจที่จะดำเนินการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสหรัฐฯ กองทหารของเรา และผลประโยชน์ของเรา ไม่มีลำดับความสำคัญสูงกว่า แม้ว่าเราจะไม่พยายามเพิ่มความขัดแย้งในภูมิภาค แต่เราก็มีความมุ่งมั่นและเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพิ่มเติมเพื่อปกป้องผู้คนและสิ่งอำนวยความสะดวกของเรา”
Photo by AFP