‘เศรษฐา’ ให้สัมภาษณ์บลูมเบิร์ก ว่าด้วยกัญชา ทักษิณ ยันดึงเทสลามาไทย

22 ก.ย. 2566 - 07:10

  • เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทย เดินทางไปเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญครั้งที่ 78 (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก สหรัฐฯ

  • นอกจากการอัปเดตเรื่องราวลงบนสตอรีในแพลตฟอร์มส่วนตัวแล้ว เศรษฐายังให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวทางเศรษฐกิจ และการลงทุนในอนาคต

new-thai-leader-srettha-newyork-SPACEBAR-Hero.jpg

ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Bloomberg นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยให้การประเมินอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความจำเป็นของประเทศไทยในการไล่ตามประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค ภายหลังจากไทยถูกปกครองโดยทหารมานานหลายปี และความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

กัญชา(ไม่)เสรี
เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของไทยให้คำมั่นว่าจะจำกัดการใช้ ‘กัญชา’ เพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ หลังจากร้านจำหน่ายกัญชาหลายพันแห่งเปิดทำการทั่วประเทศ นับตั้งแต่ไทยกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ยกเลิกโทษทางอาญาจากกัญชาเมื่อปีที่แล้ว 

นอกจากนี้ เศรษฐากล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพยายาม ‘แก้ไข’ นโยบายกัญชา และการขยายตัวของร้านขายยาที่จำหน่ายยาอย่างเสรีภายในกรอบระยะเวลา 6 เดือน  

ยังตามหลัง ‘เวียดนาม’
เศรษฐากล่าวว่า ประเทศไทยกำลังตามหลัง ‘เวียดนาม’ เมื่อพูดถึงข้อตกลงการค้าเสรี และรัฐบาลชุดก่อน ซึ่งสมาชิกหลายคนสนับสนุนแนวร่วมของเขาว่าควรจะออกไปพูดคุยกับพันธมิตรที่มีศักยภาพเพื่อนำการลงทุนมาให้มากขึ้น 

“เราถูกปิดในฐานะ ‘ประเทศ’ มาระยะหนึ่งแล้ว ผมจะต้องทำให้โลกรู้ว่าประเทศไทยเปิดกว้างสำหรับธุรกิจ” เศรษฐาบอกกับฮาสลินดา อามิน จาก Bloomberg ในวันพุธ (20 ก.ย.ตามเวลาท้องถิ่น) ก่อนจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ 

เศรษฐากล่าวว่า เราไม่ได้บอกเล่าเรื่องราวพวกเขา (โลก) เกี่ยวกับเศรษฐกิจไทย การไหลออกของเงินทุนมีสาเหตุมาจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯ เข้มงวดมากขึ้นในเชิงนโยบาย ผมขอเวลา 6 เดือน ผมหวังว่าจะเปลี่ยนใจพวกเขา (นักลงทุน) ได้  

รัฐบาลชุดใหม่จะสนับสนุนการอุดหนุนพลังงาน การระงับหนี้ 3 ปี สำหรับเกษตรกรและธุรกิจขนาดเล็ก การยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวจีน และแผนการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ โดยรัฐบาลใหม่มีเป้าหมายที่จะทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นไปตามเป้าหมายประจำปี 5% ซึ่งจะเริ่มในปีหน้า  

เศรษฐากล่าวว่า เขามองเห็นเครื่องมือสำคัญอีก 2 อย่างในการบรรลุเป้าหมายการเติบโตนั้น ได้แก่ การลงทุนจากต่างประเทศและการใช้จ่ายภาครัฐ เขาจึงจำเป็นต้องทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น เพื่อให้แน่ใจว่าประชาชนจะมีเงินในกระเป๋า โดยมองว่าเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรืองเป็นหนทางหนึ่งในการรักษาความแตกแยกทางสังคมและการเมืองที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ 

เศรษฐากล่าวว่า เศรษฐกิจมีศักยภาพที่จะเติบโตถึง 6% หรือ 7% ภายในปีที่ 3 ของวาระ แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นตัวเลขที่ท้าทาย และมองว่าค่าเงินบาทซึ่งร่วงลงประมาณ 4.5% ในปีนี้เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นสินทรัพย์ในความพยายามครั้งนั้น ซึ่งจะเป็นผลดีในการส่งออก 

การผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของนายกรัฐมนตรี ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับวินัยทางการคลังและความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ ในเดือนนี้ เศรษฐบุตร สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ออกคำเตือนอีกครั้งเกี่ยวกับความประมาททางการคลัง โดยระบุว่า สิ่งที่เศรษฐกิจต้องการคือมาตรการเพื่อกระตุ้นการลงทุนไม่ใช่การบริโภค 

“ถ้าคุณไม่ใช้จ่าย คุณก็จะไม่เติบโต” เศรษฐากล่าว
นายกรัฐมนตรีบอกกับผู้สื่อข่าวท้องถิ่นว่า เขากำลังติดต่อกับผู้ว่าการธนาคารกลางเกี่ยวกับการปรับนโยบาย และปฏิเสธข่าวลือว่าเขากำลังวางแผนที่จะดันเศรษฐบุตรออกจากตำแหน่งผู้ว่าการธนาคาร 

เทสลา
ในการให้สัมภาษณ์ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ เศรษฐากล่าวว่า เป้าหมายของเขาคือการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจประจำปีให้เติบโตโดยเฉลี่ย 5% ตลอดระยะเวลาการทำงาน ส่วนหนึ่งโดยการส่งเสริมการผลิตและการลงทุนในสหรัฐฯ จากบริษัทต่างๆ รวมถึงเทสลา (Tesla Inc.) ซึ่งจะเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 1.8 % ที่บันทึกไว้ในไตรมาสที่ 2 จากปีก่อนหน้า 

เทสลาเป็นหนึ่งในบริษัทของสหรัฐฯ ที่เศรษฐากล่าวว่าเขาได้ไปเยี่ยมชมด้วยขณะอยู่ในสหรัฐฯ พร้อมบอกว่าเขาวางแผนที่จะกลับไปที่นั่นอีกครั้ง เมื่อเขาเดินทางมาสหรัฐฯ อีกครั้งในเดือนพฤศจิกายนสำหรับการประชุมสุดยอดเอเปคในซานฟรานซิสโก ซึ่งจัดโดยประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ซึ่งเขาหวังว่าจะได้กระชับความสัมพันธ์มากขึ้น 

“บางทีเราอาจไม่ได้มาที่นี่บ่อยเท่าที่ควรแต่ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหลังจากประชุมทวิภาคี ผมคิดว่าเราควรจะสนิทสนมและใกล้ชิดยิ่งขึ้น” เขากล่าว 

สหรัฐฯ - จีน
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นระหว่างสหรัฐฯ และจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เศรษฐากล่าวว่า นี่เป็นหนึ่งในความกลัวที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาว่าชาติเล็กๆ จะถูกบังคับให้เลือกข้าง 

เขาให้เครดิตการลงทุนขนาดใหญ่กับจีนในประเทศไทยจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันก็อ้างถึงสหรัฐฯ ในฐานะคู่ค้าที่เก่าแก่ที่สุดของไทย 

“ผมต้องการให้ทั้งชาวจีนและชาวอเมริกันได้รับประโยชน์จากการที่ประเทศไทยเปิดกว้างทางธุรกิจให้กับทั้ง 2 ประเทศ” เขากล่าว 

การกลับมาของ ‘ทักษิณ’
ความมั่นคงของแนวร่วมของเขา ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างพรรคประชานิยมและอนุรักษนิยม และสนับสนุนการทหาร ซึ่งมารวมตัวกันแม้จะมีความแตกต่างทางอุดมการณ์ จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญที่นักลงทุนต่างชาติติดตาม 

อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ทอดเงายาวเหนือรัฐบาลใหม่ ชัยชนะของเศรษฐา ประจวบกับการกลับมาอย่างน่าทึ่งของทักษิณหลังจากการลี้ภัยในต่างประเทศนานถึง 15 ปี 

การขึ้นสู่อำนาจของเศรษฐาถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างกลุ่มสนับสนุนทหารที่สนับสนุนกษัตริย์และทักษิณ ซึ่งมีความพยายามที่จะเดินทางกลับประเทศไทยนับตั้งแต่หลบหนีออกนอกประเทศในปี 2008 เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาเรื่องการทุจริต 

“ผมเชื่อว่าเขา (ทักษิณ) มีคุณค่าที่จะเพิ่มให้กับรัฐบาลและประชาชนชาวไทย เขาอาจจะยังคงเป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองไทย” เศรษฐากล่าวและเสริมว่า หากเขาถูกปล่อยตัว ผมคงโง่มากถ้าจะไม่ไปขอความเห็นจากเขาและนายกฯ คนอื่นๆ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์