หลังจากที่พระราชวังบักกิงแฮมประกาศว่าคิงชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเป็นมะเร็งและกำลังเข้ารับการรักษาตัว แม้จะไม่ระบุชนิดและระยะของมะเร็ง แต่ท่ามกลางการคาดการณ์ไปต่างๆ นานาซึ่งหนึ่งในนั้นมีการหยิบยกคำทำนายของ ‘นอสตราดามุส’ นักปรัชญาชื่อดังแห่งศตวรรษที่ 16 ที่เขียนคำทำนาย ‘อนาคต’ ไว้ 942 ข้อในหนังสือ ‘เล พรอเฟซี’ (Les Propheties) เมื่อปี 1555 ซึ่งหลายคนเชื่อว่าแม่นยำจนน่าเหลือเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ 9/11 และวิกฤตค่าครองชีพที่เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว
คำทำนายที่ว่านี้ระบุว่า “ราชาแห่งหมู่เกาะอาจถูก ‘ขับไล่’ ด้วยกำลัง…และถูกแทนที่โดยผู้ที่ไม่มีเครื่องหมายของกษัตริย์ หรือบุคคลที่ใครๆ ก็คาดไม่ถึง” ซึ่งอาจตีความได้ว่า “รัชสมัยของคิงชาร์ลส์อาจถึงจุดสิ้นสุดก่อนเวลาอันควรในปีนี้ภายหลังจากการวินิจฉัยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็ง”
มาริโอ รีดดิง ผู้เชี่ยวชาญได้วิเคราะห์ข้อความนี้และตีความว่า “เพราะประชาชนไม่เห็นด้วยกับการหย่าร้างของราชา ซึ่งพวกเขามองว่าไม่คู่ควร พวกเขาจึงขับไล่ราชาแห่งหมู่เกาะออกไป โดยชายผู้หนึ่งที่ไม่เคยถูกคาดหวังว่าจะได้เป็นราชาจะเข้ามาแทนที่”
แต่ถึงกระนั้นคำทำนายเกี่ยวกับราชวงศ์ของนอสตราดามุสก็เคยได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่า ‘เกิดขึ้นจริง’ ซึ่งเขาทำนายการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ในปี 2022 และยังคาดเดาอายุของพระองค์ได้อย่างถูกต้องอีกด้วย “สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะเสด็จสวรรคตราวปี 2022 ด้วยพระชนมายุประมาณ 96 พรรษา”
นอกจากนี้ นอสตราดามุสยังทำนายด้วยว่า “กษัตริย์อาจจะสละราชสมบัติ โดยที่เจ้าชายแฮร์รีอาจขึ้นครองบัลลังก์ แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ในลำดับที่ 5 ก็ตาม”
อย่างไรก็ดี พระราชวังปฏิเสธที่จะยืนยันประเภทของมะเร็ง แต่เผยว่าทั้งคิงชาร์ลส์และแพทย์ของพระองค์ยังคง ‘มีทัศนคติเชิงบวกอย่างมาก’ หลังจากเริ่มการรักษา ขณะที่สมเด็จพระราชินีคามิลลาก็ทรงตรัสระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในงาน ณ อาสนวิหารซอลท์สบรีเมื่อเย็นวันพฤหัสบดี (8 ก.พ.) ว่า “พระอาการของคิงชาร์ลส์นั้น ‘ดีขึ้นมาก’ ภายหลังเข้ารับการรักษา พระองค์ทรงประทับใจมากกับจดหมายและข้อความทั้งหมดที่สาธารณชนส่งมาจากทุกที่ มันน่ายินดีมาก”
ในระหว่างนี้คิงชาร์ลส์จะทรงงดเว้นจากการปฏิบัติหน้าที่สักระยะหนึ่ง แต่พระราชวังบักกิงแฮมก็ยืนกรานว่าคิงจะไม่ทรงแต่งตั้งที่ปรึกษาแห่งรัฐเพื่อรับภาระงานใดๆ ทั้งสิ้น
