OpenAI กล่าวหาบริษัทจีนขโมยโมเดล AI ไปสร้าง DeepSeek

30 ม.ค. 2568 - 08:37

  • บริษัท OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT กล่าวหาว่า คู่แข่ง และบริษัทต่างๆ ในประเทศจีนพยายามลอกเลียนโมเดลของ OpenAI เพื่อพัฒนาเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของตัวเองให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

  • แถลงการณ์ของ OpenAI ออกมาหลังจากที่ DeepSeek สร้างความประหลาดใจไปทั่วโลกหลังมียอดดาวน์โหลดทะยานสู่อันดับสูงสุดในสหรัฐฯ โค่น ChatGPT แถมยังพัฒนาขึ้นด้วยต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของคู่แข่งจากสหรัฐฯ

openai-says-chinese-firms-try-to-copy-us-ai-tech-SPACEBAR-Hero.jpg

บริษัท OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT กล่าวหาว่า คู่แข่ง และบริษัทต่างๆ ในประเทศจีนพยายามลอกเลียนโมเดลของ OpenAI เพื่อพัฒนาเครื่องมือปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของตัวเองให้ก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว 

แถลงการณ์ของ OpenAI ออกมาหลังจากที่ DeepSeek บริษัทสตาร์ทอัพจีนสร้างความประหลาดใจไปทั่วโลกหลังมียอดดาวน์โหลดทะยานสู่อันดับสูงสุดในสหรัฐฯ โค่น ChatGPT แถมยังพัฒนาขึ้นด้วยต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของคู่แข่งจากสหรัฐฯ 

สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่า บริษัท Microsoft และ OpenAI กำลังสืบสวนว่าข้อมูลที่เป็นของ OpenAI ถูกนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยกลุ่มที่มีความเชื่อมโยงกับ DeepSeek ของจีนหรือไม่ 

โฆษกของ OpenAI บอกกับสำนักข่าว AFP ว่า “เรารู้ว่าบริษัทต่างๆ ที่มีฐานอยู่ในจีน และบริษัทอื่นๆ พยายามที่จะกลั่นกรองโมเดลของบริษัท AI ชั้นนำของสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง” พร้อมเน้นย้ำถึงความตึงเครียดเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาด้าน AI ระหว่างสหรัฐฯ และจีน 

นักวิจัยด้านความปลอดภัยของ Microsoft อ้างข้อมูลจากแหล่งข่าวไม่เปิดเผยชื่อโดยพบว่า มีบุคคลที่เชื่อว่าอาจเชื่อมโยงกับ DeepSeek ขโมยข้อมูลจำนวนมากโดยใช้อินเทอร์เฟซการเขียนโปรแกรมแอปพลิเคชัน OpenAI หรือ API เมื่อฤดูใบไม้ร่วงที่ผ่านมา นักพัฒนาซอฟต์แวร์สามารถชำระเงินค่าลิขสิทธิ์เพื่อใช้ API แล้วผสานรวมโมเดลปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ OpenAI เข้ากับแอปพลิเคชันของตัวเองได้ 

แหล่งข่าวระบุว่า Microsoft พันธมิตรด้านเทคโนโลยีของ OpenAI ได้แจ้งให้ OpenAI ทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งอาจละเมิดเงื่อนไขการให้บริการของ OpenAI หรืออาจบ่งชี้ว่ากลุ่มดังกล่าวดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของ OpenAI เกี่ยวกับปริมาณข้อมูลที่สามารถรับได้ 

“มีหลักฐานสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งที่ DeepSeek ทำที่นี่คือการกลั่นกรองความรู้จากโมเดลของ OpenAI และผมไม่คิดว่า OpenAI จะพอใจกับเรื่องนี้มากนัก” เดวิด แซกส์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านปัญญาประดิษฐ์คนใหม่ในรัฐบาลทรัมป์ บอกกับ Fox News 

OpenAI กล่าวว่า “เราตระหนักและกำลังตรวจสอบข้อบ่งชี้ว่า DeepSeek อาจกลั่นกรองโมเดลของเราอย่างไม่เหมาะสม และจะเปิดเผยข้อมูลเมื่อเรารู้มากขึ้น”  

ขณะที่ DeepSeek เผยว่า ได้กลั่นกรองโมเดลจากระบบ ‘R1’ ของตัวเองโดยอ้างอิงจากระบบโอเพ่นซอร์สอื่นๆ ซึ่งแตกต่างจากระบบปิดของ OpenAI โดยโมเดลบางรุ่น เช่น Llama ของ Meta เป็นโอเพ่นซอร์สและเปิดให้ใช้งานได้ฟรี 

สหรัฐฯ กังวลว่า DeepSeek อาจเป็นภัยความมั่นคง...

คาโรลีน เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว เผยว่า “เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ก็กำลังพิจารณาถึงผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติจากการปรากฏตัวของ DeepSeek ด้วยเช่นกัน ฉันได้พูดคุยกับสภาความมั่นคงแห่งชาติเมื่อเช้านี้ พวกเขากำลังพิจารณาว่าผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติอาจเป็นอย่างไร” และย้ำถึงคำกล่าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ ว่า “DeepSeek ควรเป็นการเตือนสติให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหรัฐฯ” 

ประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่ากองทัพเรือสหรัฐฯ สั่งห้ามเจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้แอปฯ DeepSeek เนื่องด้วย ‘ปัญหาความปลอดภัยและจริยธรรมที่อาจเกิดขึ้น’ 

ในขณะเดียวกัน DeepSeek กล่าวว่า บริษัทตกเป็นเป้าหมายการโจมตีทางไซเบอร์ บริษัทได้ประกาศเมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) ที่ผ่านมาว่า บริษัทจะจำกัดการลงทะเบียนชั่วคราวเนื่องจากซอฟต์แวร์ของบริษัทถูกโจมตีด้วย ‘อันตรายร้ายแรง’  

(Photo by Lionel BONAVENTURE / AFP)

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์