รายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางทหารของจีนระบุว่า “กองทัพสหรัฐฯ เชื่อว่าจีนมีหัวรบนิวเคลียร์ที่ใช้งานได้มากกว่า 500 หัวรบ โดยเหนือกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ และอาจกำลังสำรวจการพัฒนาขีปนาวุธพิสัยไกลแบบติดอาวุธซึ่งสามารถยิงไกลถึงสหรัฐฯ ได้”
จีนกำลังปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยอย่างรวดเร็ว และใช้มันเป็นช่องทางในการกระจายอำนาจทั่วภูมิภาคแปซิฟิกและทั่วโลกในการปรับปรุงความสามารถปฏิบัติการในทุกขอบเขตของสงคราม รวมถึงทางบก อากาศ และทางทะเลแบบดั้งเดิม ตลอดจนนิวเคลียร์ ไซเบอร์และอวกาศ
รายงานกำลังทหารของจีนปี 2023 ซึ่งเผยแพร่เป็นประจำทุกปีโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า “จีนสร้างคลังเก็บขีปนาวุธพิสัยไกล 3 แห่งใหม่เสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งดำเนินการไปพร้อมๆ กับการขยายช่องทางการปล่อยหัวรบนิวเคลียร์จากเครื่องยิงหลายๆ แบบ”
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กลาโหมอาวุโสของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธ (18 ต.ค.) ที่ผ่านมา “เห็นได้ชัดว่าสิ่งนี้ทำให้เกิดข้อกังวลมากมายสำหรับเรา สิ่งที่เราอยากเห็นจริงๆ ก็คือให้พวกเขามีความโปร่งใสมากขึ้นเกี่ยวกับการสะสมนิวเคลียร์ และเห็นความตั้งใจของพวกเขาที่จะหารือเกี่ยวกับเสถียรภาพเชิงกลยุทธ์และการลดความเสี่ยงกับเรามากขึ้น”
“จีนกำลังใช้เครื่องปฏิกรณ์และโรงงานแปรรูปรุ่นใหม่เพื่อผลิตพลูโทเนียมสำหรับโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของตัวเอง แม้ว่าจีนจะยืนยันต่อสาธารณะว่าเทคโนโลยีดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อสันติเท่านั้น” รายงานระบุ
จีนเป็นความท้าทาย…
สหรัฐฯ ชี้ว่า ‘จีนเป็นความท้าทายด้านความเร็ว’ ที่สามารถแข่งขันกับอเมริกาได้ในแง่ของกำลังทหาร อำนาจทางเศรษฐกิจ และการเข้าถึงระหว่างประเทศ จีนมีกองทัพประจำการอยู่แล้วมากกว่าหนึ่งล้านนาย เป็นกองทัพเรือที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อพิจารณาจากจำนวนเรือ และเป็นกองทัพอากาศที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอีด้วย
นอกจากนี้ จีนใช้กำลังทหารเพื่อยืนยันการอ้างอำนาจอธิปไตยในทะเลจีนใต้และที่อื่นๆ รวมถึงไต้หวันด้วย โดยในปี 2022 กองทัพจีนได้เพิ่มปฏิบัติการเชิงรุกต่อดินแดนเกาะเอกราช ซึ่งรวมถึงการบินด้วยขีปนาวุธ เครื่องบินทหารที่บินเข้าสู่เขตทางอากาศของไต้หวัน และการซ้อมรบหลักใกล้กับไต้หวัน แม้ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนจะบอกว่า ‘เขากำลังมองหาการรวมไต้หวันอย่างสันติกับจีน แต่เขากลับไม่ได้ละทิ้งการใช้กำลังทหารเพื่อบรรลุเป้าหมายของเขา’
แต่ความก้าวร้าวที่เพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่ชี้ไปที่ไต้หวันหรือประเทศเพื่อนบ้านของจีนเท่านั้น
นักบินทหารจีนกำลังเพิ่มพฤติกรรมบีบบังคับและเสี่ยงต่อเครื่องบินของสหรัฐฯ ที่บินอยู่เหนือจีนตะวันออกและจีนตอนใต้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งโดยรวมแล้วมีเหตุการณ์ดังกล่าวมากกว่า 180 เหตุการณ์ รวมถึงเหตุการณ์ที่เครื่องบินไอพ่นของจีนเข้าใกล้เครื่องบินทหารสหรัฐฯ ในระยะ 20 ฟุตอีกด้วย
Photo by KCNA VIA KNS / AFP