
ซูเปอร์ฟูลมูนที่กรุงเบอร์ลิน เยอรมนี เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2024 (Photo by David GANNON / AFP)

ซูเปอร์ฟูลมูนที่หมู่บ้านลินุม เมืองบรานเดนบวร์ก เยอรมนี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2024 (Photo by Ralf Hirschberger / AFP)

ซูเปอร์ฟูลมูนที่เขตชุมชนโมฮาวี รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2024 (Photo by David SWANSON / AFP)

ซูเปอร์ฟูลมูนในกรุงวอร์ซอ โปแลนด์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2024 (Photo by Sergei GAPON / AFP)

ซูเปอร์ฟูลมูนในกรุงโดฮา กาตาร์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2024 (Photo by KARIM JAAFAR / AFP)

ซูเปอร์ฟูลมูนบริเวณหอคอยอะษาน ในกรุงโดฮา กาตาร์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2024 (Photo by KARIM JAAFAR / AFP)

ซูเปอร์ฟูลมูนบริเวณมัสยิดแห่งหนึ่งในกรุงโดฮา กาตาร์ เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2024 (Photo by KARIM JAAFAR / AFP)

ซูเปอร์ฟูลมูนบริเวณหาดบอนได นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2024 (Photo by DAVID GRAY / AFP)

ซูเปอร์ฟูลมูนบริเวณสนามกีฬานานาชาติบัสราในอิรัก เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2024 (Photo by Hussein FALEH / AFP)

ซูเปอร์ฟูลมูนที่กรุงคูเวตซิตี้ คูเวต เมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2024 (Photo by YASSER AL-ZAYYAT / AFP)
SPACEBAR พาชมภาพบรรยากาศซูเปอร์ฟูลมูน (Super Full Moon) หรือปรากฏการณ์พระจันทร์เต็มดวงใหญ่ที่สุดในปี 2024 และใกล้โลกจากทั่วทุกมุมโลก
ในปี 2024 จะมีซูเปอร์มูนเกิดขึ้น 4 ครั้ง ได้แก่ ในเดือนสิงหาคม กันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน แต่ซูเปอร์มูนที่เราเห็นกันเมื่อคืน (17 ต.ค.) ถือเป็นครั้งที่ดวงจันทร์เต็มดวงและโคจรมาใกล้โลกที่สุดในระยะ 90% ซึ่งอยู่ใกล้โลกมากที่สุดถึง 221,938 ไมล์ (357,174 กม.)
ต่างจากในวันที่ 13 เมษายน 2025 เราจะเห็นดวงจันทร์เต็มดวงไกลโลก ถือเป็นจุดที่ดวงจันทร์อยู่ไกลที่สุด หรือที่เรามักเรียกว่า ‘ไมโครมูน’ (micro moon) ในวันนั้น ดวงจันทร์จะอยู่ห่างออกไปประมาณ 31,000 ไมล์ (50,000 กม.) และจะดูเล็กลง 14% เมื่อเทียบกับซูเปอร์ฟูลมูนในช่วงเย็นของวันที่ 16-17 ตุลาคม 2024 (ตามเวลาท้องถิ่นของแต่ละประเทศ)