ทุจริตไปติดคุกบนเกาะ! ปธน.อินโดฯ เล็งสร้างคุกกลางทะเลใช้ขังนักโทษคอร์รัปชัน

17 มี.ค. 2568 - 09:46

  • ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียนโต ประกาศแผนการสร้างเรือนจำบนเกาะห่างไกลเพื่อลงโทษผู้ทุจริตสำหรับความผิดร้ายแรงต่อประเทศอินโดนีเซีย

  • ปราโบโวประกาศว่า “เราจะกำจัดพวกเขาออกไปจากดินแดนของเรา หากจำเป็น ผมจะจัดสรรงบประมาณพิเศษเพื่อสร้างคุกในพื้นที่ห่างไกลที่พวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้ เราจะหาเกาะ ใครหลบหนีจะต้องเจอฉลาม”

prabowo-shares-plan-to-build-corruptor-prison-on-remote-island-SPACEBAR-Hero.jpg

ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ปราโบโว ซูเบียนโต ประกาศแผนการสร้างเรือนจำบนเกาะห่างไกลเพื่อลงโทษผู้ทุจริตสำหรับความผิดร้ายแรงต่อประเทศอินโดนีเซีย

“เราจะกำจัดพวกเขาออกไปจากดินแดนของเรา หากจำเป็น ผมจะจัดสรรงบประมาณพิเศษเพื่อสร้างคุกในพื้นที่ห่างไกลที่พวกเขาไม่สามารถหลบหนีได้ เราจะหาเกาะ ใครหลบหนีจะต้องเจอฉลาม” ปราโบโว กล่าวระหว่างการเยือนกระทรวงศึกษาธิการประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในกรุงจาการ์ตา 

สำนักข่าวของรัฐรายงานว่า ปราโบโวได้หารือถึงผลกระทบอันเลวร้ายของการทุจริตที่มีต่อสังคม และเน้นย้ำว่าผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมดังกล่าวถือเป็นอุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อความพยายามในการพัฒนาประเทศ ปราโบโวย้ำว่า ครู แพทย์ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และเกษตรกรเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการยักยอกเงินของรัฐโดยมิชอบ 

“เราจะพยายามอย่างเต็มที่ด้วยทรัพยากรที่มีทั้งหมด เพื่อให้ได้รัฐบาลที่สะอาด ปราศจากการทุจริต หากเป็นไปได้ ด้วยทรัพยากรและความมั่งคั่งที่มีอยู่มากมาย เราจะลดการรั่วไหลและการทุจริตได้” ปราโบโว กล่าว และย้ำว่า “จะสู้ไม่ถอยเพื่อกำจัดคอร์รัปชั่นในประเทศ...ผมพร้อมที่จะตายเพื่อประเทศนี้ ผมไม่กลัวพวกมาเฟียใดๆ...”

ปราโบโวยังแสดงความหวังอีกด้วยว่าภาคการศึกษาจะมีส่วนสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลในการขจัดการทุจริตเพื่อความก้าวหน้าของประเทศ 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ปราโบโวตำหนิผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า ‘ทุจริต’ อย่างเปิดเผย 

เมื่อเดือนธันวาคม ปราโบโวเรียกร้องให้ผู้พิพากษามีจุดยืนที่แข็งกร้าวมากขึ้นกับผู้ต้องขังคดีทุจริต โดยระบุว่าพวกเขาสมควรได้รับโทษจำคุกเป็นเวลาหลายสิบปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากอาชญากรรมที่พวกเขาได้ก่อขึ้นทำให้รัฐสูญเสียเงินนับร้อยล้านล้านรูเปียห์ 

ที่ผ่านมา อินโดนีเซียพบเห็นคดีทุจริตที่เป็นข่าวโด่งดังมากมายในประเทศ อย่างเช่นเมื่อปีที่แล้วนักธุรกิจชื่อดัง ฮาร์วี่ย์ โมออสส์ ถูกตัดสินจำคุก 6.5 ปีและปรับ 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 437 ล้านบาท) จากการมีส่วนร่วมในคดีทุจริตเหมืองแร่ดีบุกที่มีมูลค่าสูง 

กรณีโด่งดังอีกกรณีเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ผู้บริหารระดับสูงจากบริษัทลูกของ ‘เปอร์ตามิน่า’ (Pertamina) บริษัทน้ำมันและก๊าซของอินโดนีเซีย ก็ถูกจับกุมในคดีทุจริตน้ำมันดิบมูลค่า 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.03 แสนล้านบาท) 

(Photo by Yasuyoshi CHIBA / AFP)

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์