กัมพูชาสั่งห้ามสร้างคาสิโนใหม่ในกำปอดหวังกระจายทุนการท่องเที่ยว

25 ก.ค. 2567 - 04:15

  • นายกฯ ฮุนมาเนต ของกัมพูชาสั่งห้ามการจัดตั้งคาสิโนแห่งใหม่ในจังหวัดแกบและกำปอด ยกเว้นบนภูเขาโบกอร์ ซึ่งคาสิโนดังกล่าวเปิดดำเนินการอยู่

  • “การห้ามสร้างคาสิโนแห่งใหม่ในพื้นที่เหล่านี้ก็เพื่อกระจายการลงทุนในโรงแรมและการต้อนรับ การท่องเที่ยว การผลิต อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การค้า และเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ)”

  • คำสั่งห้ามดังกล่าวยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างและส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมและศาสนาให้เกิดความปลอดภัย และปรับปรุงความสงบเรียบร้อยในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว

prime-minister-bans-establishment-of-new-casinos-in-kep-kampot-SPACEBAR-Hero.jpg

นายกรัฐมนตรี ฮุนมาเนต ของกัมพูชาสั่งห้ามการจัดตั้งคาสิโนแห่งใหม่ในจังหวัดแกบและกำปอด  ยกเว้นบนภูเขาโบกอร์ ซึ่งคาสิโนดังกล่าวเปิดดำเนินการอยู่ ในปัจจุบัน กัมพูชามีบ่อนการพนันที่ได้รับใบอนุญาตทั้งหมด 184 แห่งทั่วประเทศ 

ในการตัดสินใจเมื่อไม่นานมานี้ ฮุนมาเนตกล่าวว่า “การห้ามสร้างคาสิโนแห่งใหม่ในพื้นที่เหล่านี้ก็เพื่อกระจายการลงทุนในโรงแรมและการต้อนรับ การท่องเที่ยว การผลิต อุตสาหกรรม เกษตรกรรม การค้า และเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ)” 

แถลงการณ์ระบุอีกว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวยังมีจุดมุ่งหมายเพื่อเสริมสร้างและส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมและศาสนาให้เกิดความปลอดภัย และปรับปรุงความสงบเรียบร้อยในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว 

ตามตัวเลขที่เผยแพร่โดยคณะกรรมการจัดการการพนันเชิงพาณิชย์ของกัมพูชา (CGMC) ระบุว่า ปัจจุบันคาสิโนส่วนใหญ่ของประเทศตั้งอยู่ในบริเวณชายฝั่งทะเล (100 แห่ง รวมถึงคาสิโนบนภูเขาโบกอร์ในกำปอด) มีคาสิโนทั้งหมด 48 แห่งในจังหวัดที่ติดชายแดนไทย และอีก 35 แห่งอยู่ตามแนวชายแดนเวียดนาม ในขณะที่กรุงพนมเปญมีคาสิโนอยู่ 1 แห่ง

มาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติการบริหารจัดการการพนันเชิงพาณิชย์ที่ประกาศใช้เมื่อปี 2020

ห้ามมิให้มีการประกอบกิจการเล่นการพนันในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์บางแห่ง เพื่อการอนุรักษ์ทางวัฒนธรรมและศาสนา หรือเพื่อความจำเป็นอื่นใด

อย่างไรก็ตาม คาสิโนที่สร้างขึ้นในพื้นที่บางแห่งก่อนที่กฎหมายจะบังคับใช้ถือเป็นข้อยกเว้น ดังที่ระบุไว้ในมาตรา 20 

ในปี 2023 พบว่า รายได้ของรัฐจากเกมเสี่ยงโชคเชิงพาณิชย์เกิน 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 722 ล้านบาท) 

ยงกิมเอ็ง ประธานศูนย์ประชาชนเพื่อการพัฒนาและสันติภาพ กล่าวว่า “คาสิโนไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับประเทศมากนัก ตรงกันข้าม คาสิโนอาจทำให้คนบางส่วนเป็นหนี้ แม้ว่ากฎหมายจะห้ามคนในท้องถิ่นไม่ให้ทำกิจกรรมดังกล่าวก็ตาม...รัฐบาลควรคงไว้เพียงคาสิโนที่มีอยู่แล้ว เช่น ที่เมืองสีหนุวิลล์ เมืองบาเว็ต ในจังหวัดสวายเรียง และเมืองปอยเปต ในจังหวัดบันเตียเมียนเจย” 

ชอร์ต บุนทัง เจ้าหน้าที่วิจัยด้านความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม การศึกษาและการท่องเที่ยวแห่งราชบัณฑิตยสถานกัมพูชา เชื่อว่า “การตัดสินใจห้ามสร้างคาสิโนในทั้งสองจังหวัดนั้นเป็นไปได้ว่าเพราะประเทศมีคาสิโนเพียงพอแล้ว” 

บุนทังสังเกตว่าคาสิโนส่วนใหญ่ตั้งอยู่ตามแนวชายแดน ซึ่งแตกต่างจากบางประเทศ เช่น คาสิโนที่สหรัฐฯ มักตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่ากัมพูชาอาจมีคาสิโนมากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน 

เมื่อพูดถึงรายได้จากคาสิโน บุนทังบอกว่ามันช่วยสนับสนุนงบประมาณของประเทศ แต่การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมายและถือเป็นสิ่งนอกรีตในวัฒนธรรมกัมพูชา 

“นอกจากจะสร้างรายได้ให้รัฐแล้ว คาสิโนยังสร้างรายได้ให้กับนักลงทุนและพนักงานด้วย ตามกฎหมายแล้ว พลเมืองกัมพูชาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าคาสิโนได้ แต่คำถามคือ เราจะควบคุมเรื่องนี้ได้หรือไม่ หากบริหารจัดการได้ดี ก็จะไม่กระทบต่อประชาชนของเรา แต่การบริหารจัดการที่ไม่ดีอาจส่งผลเสียได้” บุนทังกล่าวเสริม 

บุนทัง วิเคราะห์ว่า ชาวต่างชาติที่เข้าประเทศเพื่อการพนันนั้นถือเป็น ‘นักท่องเที่ยว’ “สิ่งสำคัญคือต้องบริหารจัดการตามหลักกฎหมายเพื่อไม่ให้ประชาชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน ปัจจุบันนี้เราเห็นการพนันในคาสิโนและเกมออนไลน์ คำถามคือเราจะป้องกันไม่ให้ประชาชนเล่นเกมเหล่านี้ได้อย่างไร โดยต้องตระหนักว่าคาสิโนยังเป็นประโยชน์ต่องบประมาณของประเทศด้วย” บุนทัง กล่าว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์