พระราชนัดดาแห่งราชวงศ์เดนมาร์ก
หากพูดถึงราชวงศ์แห่งเดนมาร์ก หลายคนอาจจะยังไม่ค่อยรู้จักในวงกว้างขวางมากนัก แต่ถ้าเอ่ยถึงพระนามของ ‘เจ้าชายนิโคไลแห่งเดนมาร์ก’ หรือ ‘เจ้าชายนิโคไล วิลเลียม อเล็กซานเดอร์ เฟรเดอริกแห่งเดนมาร์ก เคานต์แห่งมงเปอซา’ หลายคนอาจจะต้องร้องอ๋อและรู้จักเป็นอย่างดีในฐานะ “เจ้าชายแห่งรันเวย์”
พระองค์เป็นพระราชนัดดาในสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 พระประมุขแห่งประเทศเดนมาร์กและเป็นพระโอรสพระองค์โตใน เจ้าชายโจอาคิมแห่งเดนมาร์ก กับ อเล็กซันดรา คริสตินา หรือเคาน์เตสอเล็กซันดราแห่งเฟรเดอริกสบอร์ก อดีตพระชายา
นอกจากนี้ เจ้าชายนิโคไลแห่งเดนมาร์ก ยังมีพระอนุชาร่วมพระมารดา คือ เจ้าชายเฟลิกซ์ ซึ่งก็เป็นนายแบบเช่นกัน พร้อมด้วยพระอนุชาและพระขนิษฐาต่างพระมารดา ได้แก่ เจ้าชายเฮนริก และเจ้าหญิงอะธีนา
แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (29 ก.ย.) เจ้าชายนิโคไลแห่งเดนมาร์กพร้อมด้วยพระอนุชาและพระขนิษฐาต่างพระมารดาก็ทรงถูกเรียกคืนพระยศโดยสมเด็จย่า ด้วยเหตุผลที่ว่า พระองค์ทรงต้องการให้พระราชนัดดาทั้ง 4 ไปใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน แบบที่ไม่ต้องถูกตีกรอบการใช้ชีวิตภายใต้ระเบียบของราชสำนักอีก
เจ้าชายผู้ก้าวจากกฎดั้งเดิมของราชวงศ์
หากยังไม่ถูกเรียกคืนพระยศ เจ้าชายนิโคไลจะเป็นรัชทายาทผู้สืบราชสันตติวงศ์ในลำดับที่ 7 แห่งราชวงศ์เดนมาร์กปัจจุบัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่าพระองค์ทรงมีพระปรีชาสามารถหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการเรียน การกีฬาและการดนตรีจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมปลาย เจ้าชายนิโคไลได้เข้าโรงเรียนทหารของกองทัพเดนมาร์ก ซึ่งเป็นประเพณีที่สืบต่อกันมาของราชวงศ์เดนมาร์ก ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างราชวงศ์และกองทัพมีความใกล้ชิดกันมาหลายศตวรรษแล้ว สำหรับราชวงศ์จะใช้เวลาการฝึกทหาร 2 ปี จึงจะจบหลักสูตร
อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านการฝึกไปเพียง 2 เดือนเท่านั้น เจ้าชายนิโคไลก็ตัดสินพระทัยลาออกในปี 2018 เพราะ พระองค์ทรงไม่ต้องการที่จะประกอบอาชีพในกองทัพ
ขณะเดียวกัน เจ้าชายเฟลิกซ์ พระอนุชา ก็ทำแบบเดียวกัน โดยการลาออกจากโรงเรียนหลังจากผ่านการฝึกไปเพียง 2 เดือน ด้วยเหตุผลส่วนพระองค์
เจ้าชายแห่งวงการรันเวย์
เจ้าชายนิโคไลทรงสนพระทัยในวงการแฟชั่นเป็นอย่างมาก หลังจากที่พระองค์ลาออกจากโรงเรียนทหาร พระองค์ได้ไปเดินแบบให้แบรนด์ดังอย่าง ‘Burberry’ ที่งาน ‘London Fashion Week’ ในปี 2018 จากนั้นทรงเซ็นสัญญากับ ‘Scoop Models’ ตัวแทนโมเดลลิงโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก
พระองค์ทรงไปได้ดีกับเส้นทางสายแฟชั่นและเติบโตอย่างรวดเร็วในวงการนี้ ทั้งยังสร้างรายได้มหาศาลสำหรับการเปิดตัวเสื้อผ้าผู้ชายแบรนด์ ‘Dior’ ของ ‘คิม โจนส์’ และทรงร่วมงานเดินแฟชั่นโชว์กับแบรนด์นี้อย่างต่อเนื่องในช่วงก่อนฤดูใบไม้ร่วงในปี 2019 และอีกครั้งในปี 2020 นอกจากนี้ พระองค์ยังได้ขึ้นปกนิตยสารระดับโลกตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยมีผลงานล่าสุดกับนิตยสาร ‘Vogue Scandinavia’ ฉบับเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2022
อย่างไรก็ดี แม้ว่าเจ้าชายจะประสบความสำเร็จ แต่พระองค์ก็มีแผนที่จะทำธุรกิจตามรอยพระมารดาด้วย พระองค์ตรัสกับนิตยสารเดนมาร์กว่า “เราไม่ได้ต้องการยึดอาชีพนายแบบเป็นหลัก เรามองว่ามันเป็นงานอีกเส้นทางหนึ่งที่สร้างสมประสบการณ์ให้กับเรา”
สำหรับการตัดสินพระทัยในวงการสายแฟชั่น พระองค์ทรงได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวอย่างเต็มที่ เจ้าชายตรัสว่า พระบิดาและพระมารดาก็ทรงเป็น “แฟนตัวยง” ของพระองค์ด้วย “ไม่มีใครต่อต้านเรา … ถ้าเราต้องการทำอะไรสักอย่าง เราก็แค่อธิบายเรื่องนี้ให้ครอบครัวของเราฟังด้วย มันไม่ใช่เรื่องแย่เลย”
เรื่องราวของ ‘เจ้าชายนิโคไลแห่งเดนมาร์ก’ เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่สะท้อนสังคมของราชวงศ์เดนมาร์กในอีกแง่มุมหนึ่งสำหรับอิสระในการใช้ชีวิตและการก้าวออกจากกรอบเพื่อเลือกทางเดินของตัวเอง สำหรับราชวงศ์อื่นๆ อาจเป็นธรรมเนียมปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ซึ่งการหาทางออกของแต่ละราชวงศ์ก็มีวิถีทางที่แตกต่างกันออกไป
แต่สำหรับราชวงศ์เดนมาร์กสมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทรงเลือกที่จะเรียกคืนพระยศ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลภายในราชวงศ์ หรือเพื่อความสุขของพระราชนัดดาก็ไม่มีผู้ใดทราบถึงเจตนารมย์ที่แท้จริง เพราะ ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราสามารถเลือกทางเดินของเราได้
