ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงในอิสราเอล-ฉนวนกาซายังคงคุกรุ่น นอกจากจะเกิดปรากฏการณ์ที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศออกมาจุดเทียนและวางดอกไม้เพื่อแสดงความเสียใจต่อผู้ที่จากไป และความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงครามแล้ว อีกฝั่งหนึ่งของความขัดแย้งยังก่อให้เกิดกลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ (Pro-Palestinian) ที่พากันออกมาฉลองอีกด้วย

นิวยอร์ก
กลุ่มผู้สนับสนุนชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคนรวมตัวกันที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ (9 ต.ค.) ที่ผ่านมา เพื่อ ‘ประณามอิสราเอล’ และเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดการสนับสนุนรัฐยิว โดยผู้ประท้วงถือป้ายที่มีข้อความระบุว่า ‘อิสราเอลไปตกนรกซะ!’ และ ‘NYC ยืนหยัดเคียงข้างฉนวนกาซา’ ขณะที่ผู้คนทุกวัยออกมารวมตัวกันอยู่หน้าสถานกงสุลใหญ่อิสราเอล พร้อมกับโบกธงปาเลสไตน์
ขณะที่อีกด้านหนึ่งของถนน กลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนอิสราเอลหลายสิบคน รวมทั้งชาวอิสราเอลจำนวนมาก รวมตัวกันที่ฝั่งตรงข้ามถนน พวกเขาร้องเพลงสรรเสริญอิสราเอล ‘Hatikvah’ พร้อมโบกธงชาติอิสราเอล
ความตึงเครียดในพื้นที่เพิ่มสูงขึ้น โดยกลุ่มอิสราเอลตะโกนว่า ‘ชาวอิสราเอลมีชีวิต’ เป็นภาษาฮีบรู และกลุ่มสนับสนุนปาเลสไตน์ก็ตะโกนกลับว่า ‘ปลดปล่อยปาเลสไตน์’ ขณะที่บางคนทำท่าทางเยาะเย้ยชาวอิสราเอลด้วย

ทันย่า ฟาติ-อัลมาน หนึ่งในผู้ประท้วงชาวอิสราเอล กล่าวว่า ทั้งโลกควรรู้ว่ามีการสังหารหมู่ในอิสราเอล และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ กลับกันถ้าเธอเป็นพวกเขา (ผู้สนับสนุนปาเลสไตน์) เธอคงจะละอายใจมากที่มาอยู่ตรงนี้ หลังจากที่เมื่อวานพวกเขาสังหารเด็ก คนชรา และผู้หญิงชาวอิสราเอล ซึ่งนอกจากความละอายใจแล้ว เธอคงจะพูดคำว่า ‘ขอโทษ’ ด้วย
ผู้ประท้วงที่สนับสนุนชาวปาเลสไตน์เดินขบวนจากจัตุรัสไทม์สแควร์ข้ามไปยังฝั่งแมนฮัตตันและเดินไปตามหัวมุมถนนใกล้กับกลุ่มอิสราเอล และทั้ง 2 ฝ่ายก็อยู่ตรงข้ามกันระหว่างถนน 2 เลน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางเครื่องกีดขวางโลหะ พร้อมตรึงกำลังหลายร้อยนายเพื่อแยกทั้ง 2 กลุ่มออกจากกัน โดยมีเฮลิคอปเตอร์และมีโดรนบินอยู่เหนือศีรษะ

ออสเตรเลีย
ทางฝั่งออสเตรเลียเองก็มีกลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนชาวปาเลสไตน์เริ่มจุดพลุและตะโกนคำขวัญต่อต้านอิสราเอลที่ด้านนอกโรงโอเปร่าซิดนีย์

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า มีผู้คนมากกว่า 1,000 คนรวมตัวกันหน้าโรงละครโอเปร่าเฮาส์ พร้อมตะโกนว่า “ปลดปล่อยปาเลสไตน์” และ “อิสราเอลหน้าไม่อาย” มีการจุดพลุดอกไม้ไฟอย่างน้อย 1 ดวงที่อาคารหลังการจุดพลุด้วยธงชาติอิสราเอลสีน้ำเงินขาว
โทนี่ คุก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจนิวเซาท์เวลส์ กล่าวว่า ชาวยิวในออสเตรเลียเลี่ยงที่จะเข้าใกล้กับโรงโอเปร่าเนื่องจากมีความกังวลเรื่องความปลอดภัยของพวกเขา อย่างไรก็ตามเรา (ตำรวจ) ก็พร้อมที่จะตั้งข้อหากับผู้ประท้วงหากพวกเขากระทำความผิด สิ่งนี้เป็นประเด็นทางอารมณ์อย่างชัดเจน เราไม่คาดหวังให้ผู้คนนำความขัดแย้งจากที่อื่นมาสู่ท้องถนนซิดนีย์ และจะไม่ยอมให้เกิดความรุนแรงขึ้น

นายกรัฐมนตรี แอนโธนี อัลบานีส และนายกรัฐมนตรีคริส มินส์ แห่งนิวเซาท์เวลส์ ประณามการประท้วงโดยบอกว่า สิ่งนี้เป็นการกระทำที่ ‘น่ารังเกียจ’ ออสเตรเลียสนับสนุนสิทธิของอิสราเอลในการปกป้องตนเองภายหลังการโจมตีของกลุ่มติดอาวุธฮามาส
แคนาดา
สายการบินแห่งชาติแคนาดา สั่งห้ามนักบินท่านหนึ่งขึ้นบิน หลังจากที่มีความกังวลเกี่ยวกับการแสดงออกว่าสนับสนุนปาเลสไตน์ ในรูปแบบโพสต์บนโซเชียลมีเดียที่มีเนื้อหาหยาบคายเกี่ยวกับอิสราเอล
มอสตาฟา เอซโซ นักบินรายนี้ถูกระบุว่า แสดงความคิดเห็นที่ดูหมิ่นอิสราเอลบนโซเชียลมีเดียของเขา โดยเขาโพสต์อินสตาแกรมสตอรีสนับสนุนปาเลสไตน์พร้อมข้อความว่า ‘ตายในนรกไปซะอิสราเอล’ ขณะที่อีกสตอรีหนึ่งเขาเขียนว่า ‘อิสราเอลเป็นรัฐก่อการร้าย’

แอร์แคนาดา (Air Canada) กล่าวในโพสต์บนโซเชียลมีเดียในภายหลังว่า ‘เราได้รับทราบเกี่ยวกับโพสต์ของนักบินแอร์ แคนาดา ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ เราจริงจังกับเรื่องนี้มาก และเขาถูกถอดจากการปฏิบัติงานทันที เราขอประณามความรุนแรงทุกรูปแบบ
ขณะเดียวกัน แอร์แคนาดา ได้ระงับเส้นทางบินของตนที่จะเดินทางไปยังเทลอาวีฟชั่วคราว ภายหลังการโจมตีของกลุ่มฮามาส ด้านรัฐมนตรีต่างประเทศของแคนาดากล่าวเมื่อวันอังคารว่า พลเมืองแคนาดาจะได้ออกเดินทางจากสนามบินเทลอาวีฟในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
สหราชอาณาจักร
กลุ่มผู้สนับสนุนอิสราเอล และกลุ่มผู้สนับสนุนปาเลสไตน์ปะทะกันที่ศาลาว่าการเมืองเคมบริดจ์ สหราชอาณาจักร หลังจากผู้คนหลายร้อยคนรวมตัวกัน ขณะที่ความตึงเครียดในฝั่งตรงข้ามของถนนในเมืองเคมบริดจ์ สะท้อนให้เห็นถึงความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกและยาวนานหลายทศวรรษระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์
เจ้าหน้าที่ตำรวจทำหน้าที่รักษาความสงบ แม้ว่าจะมีการทะเลาะกันเป็นช่วงๆ บ้างก็ตาม ผู้ชุมนุมหลายร้อยคนที่เดินขบวนพร้อมโบกธงปาเลสไตน์ เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ โดยบอกว่า ‘ปาเลสไตน์จงเจริญ’

ไดนา อัล คาทิป หนึ่งในผู้ประท้วงชาวปาเลสไตน์ กล่าวว่า เธอประณามการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์จากทุกฝ่าย แต่เธอกำลังต่อสู้เพื่อเสรีภาพ และความเสมอภาคสำหรับประชาชนที่ต้องไร้บ้านมาตั้งแต่ปี 1948
“เพื่อต่อสู้เพื่อสันติภาพและหยุดการนองเลือด เราต้องกลับไปยังดินแดนของเราแต่พวกเขา (อิสราเอล) ยังคงกล่าวหาว่าพวกเราเป็นผู้ก่อการร้าย พวกเขาเริ่มฆ่าเรา และยังฆ่าผู้คนที่อยู่ที่นั่น” อัล คาทิปกล่าว
ในอีกด้านหนึ่ง ผู้ประท้วงที่สนับสนุนอิสราเอลก็ท้าทายผู้กลุ่มประท้วงปาเลสไตน์ โดยถือป้ายแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับอิสราเอล และรูปถ่ายของครอบครัวที่ถูกสังหารในการโจมตี
“นี่คือการโฆษณาชวนเชื่อ พวกเขาเผยแพร่เรื่องโกหก พวกเขาพยายามหาเหตุผลมาพิสูจน์การกระทำของพวกเขา แต่ก็ไม่มีอะไรสามารถพิสูจน์ความโหดร้ายที่ฮามาสกระทำต่อผู้บริสุทธิ์ได้” ซวี ชาปิโร ผู้ประท้วงฝั่งอิสราเอลที่มีครอบครัวอยู่ในอิสราเอลกล่าว
ไม่มีใครรู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไรและจะมีทางแก้ไขหรือไม่ แต่คนส่วนใหญ่ทั้งสองฝ่ายไม่ต้องการเห็นการนองเลือดอีกต่อไป