แหล่งข่าวกรองยุโรปเตือนรัสเซียอาจโจมตียุโรปช่วงฤดูหนาวปีหน้า

27 ธันวาคม 2566 - 06:24

russia-may-attempt-attack-europe-next-winter-SPACEBAR-Hero.jpg
  • หน่วยข่าวกรองเชื่อว่าการโจมตีของรัสเซียต่อยุโรปอาจเกิดขึ้นได้ภายในช่วงเปลี่ยนผ่านของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในช่วงเลือกตั้งปี 2024

  • ระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงนี้จะครอบคลุมระยะเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ไปจนถึงการเข้ารับตำแหน่งครั้งต่อไปในเดือนมกราคม 2025

 
‘Bild’ หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ของเยอรมนี รายงานเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมโดยอ้างอิงแหล่งข่าวกรองยุโรปไม่เปิดเผยชื่อว่า หน่วยข่าวกรองยุโรปบอกว่ารัสเซียอาจโจมตียุโรปในช่วงฤดูหนาวปี  2024-2025 หากสหรัฐฯ ‘ไร้ผู้นำ’ หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 

หน่วยข่าวกรองเชื่อว่าการโจมตีของรัสเซียต่อยุโรปอาจเกิดขึ้นได้ภายในช่วงเปลี่ยนผ่านของประธานาธิบดี ซึ่งจะเกิดขึ้นหากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ไม่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024 โดยระยะเวลาการเปลี่ยนแปลงนี้จะครอบคลุมระยะเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ไปจนถึงการเข้ารับตำแหน่งครั้งต่อไปในเดือนมกราคม 2025 

ข้อมูลแหล่งข่าวกรองระบุว่า รัสเซียอาจตั้งเป้าโจมตียุโรปในช่วงการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้สมัครตัวเต็งของพรรครีพับลิกัน ซึ่งก็คืออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะมีการให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศต่างๆ ในยุโรป แม้ว่าจะมีความล่าช้าบ้างก็ตาม 

ตลอดการหาเสียงเพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์วิพากษ์วิจารณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึงระดับความช่วยเหลือที่ฝ่ายบริหารของไบเดนมอบให้กับเคียฟ ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนเคยเตือนไว้ก่อนหน้านี้ว่าผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปี 2024 ที่กำลังจะมีขึ้นจะมี ‘อิทธิพลอย่างมาก’ ต่อแนวทางการทำสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน 

‘DGAP’ หน่วยงานคลังสมองของเยอรมนีได้ออกคำเตือนล่วงหน้าไปยังประเทศตะวันตก โดยบอกว่ารัสเซียอาจโจมตี NATO โดยตรงภายในเวลาเพียง 6-10 ปี ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติของโปแลนด์แสดงความกังวลเร่งด่วนกว่า โดยประเมินว่ารัสเซียอาจโจมตี NATO ได้ภายในเวลาไม่ถึง 36 เดือน 

ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่โปแลนด์เคยเสนอแนะว่ารัสเซียอาจกำหนดเป้าหมายไปที่สมาชิกพันธมิตร NATO ในยุโรปตะวันออก รวมถึงประเทศต่างๆ เช่น โปแลนด์ เอสโตเนีย โรมาเนีย และลิทัวเนีย 

Photo by Alexander NEMENOV / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์