นักวิทย์พบปะการังอายุ 300 ปีทุบสถิติใหญ่ที่สุดในโลกจนมองเห็นได้จากอวกาศ

15 พ.ย. 2567 - 08:34

  • ปะการังชนิดนี้มีความยาวมากกว่า 100 ฟุตอายุอย่างน้อย 300 ปี และเป็นปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เพิ่งถูกค้นพบในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้

  • มีขนาดใหญ่กว่าปะการังที่เคยทำลายสถิติครั้งก่อนในอเมริกันซามัวถึง 3 เท่า และยาวกว่าวาฬสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย

  • เมื่อตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมพบว่าปะการังมีขนาดใหญ่มากจนสามารถมองเห็นได้จากอวกาศ

scientists_discover_worlds_largest_coral_so_big_can_be_seen_from_space_SPACEBAR_Hero_e74bfb8791.jpg

นักวิทยาศาสตร์พบปะการังขนาดใหญ่ที่สุดในโลกใกล้หมู่เกาะโซโลมอนในมหาสมุทรแปซิฟิก พร้อมประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (14 พ.ย.) ว่า เป็นการค้นพบครั้งสำคัญที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน ปะการังมีขนาดใหญ่มากจนนักวิจัยที่ล่องเรืออยู่ในน่านน้ำใสราวกับคริสตัลของหมู่เกาะโซโลมอนคิดในตอนแรกว่าปะการังเหล่านั้นเป็นซากเรืออับปางขนาดใหญ่ 

ปะการังชนิดนี้มีความยาวมากกว่า 100 ฟุตอายุอย่างน้อย 300 ปี และเป็นปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เพิ่งถูกค้นพบในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกเฉียงใต้ ระหว่างการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ของโครงการ ‘National Geographic Pristine Seas’ เมื่อเดือนตุลาคมเพื่อศึกษาสุขภาพของมหาสมุทรในหมู่เกาะโซโลมอน 

จากข้อมูลของ Pristine Seas ระบุว่าปะการังยักษ์นี้มีขนาดใหญ่กว่าปะการังที่เคยทำลายสถิติครั้งก่อนในอเมริกันซามัวถึง 3 เท่า และยาวกว่าวาฬสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย 

ปะการังชนิดนี้ต่างจากแนวปะการังที่ประกอบด้วยกลุ่มปะการังจำนวนมาก เนื่องจากเป็นปะการังเดี่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมานานหลายศตวรรษ

“พอเราคิดว่าไม่มีอะไรเหลือให้ค้นพบอีกแล้วบนโลกใบนี้ เรากลับพบปะการังขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยโพลิปปะการังเล็กๆ (กลุ่มสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจิ๋วอยู่รวมกันเป็นโคโลนี) เกือบ 1 พันล้านตัวที่กำลังมีชีวิตชีวา” เอ็นริก สาลา นักสำรวจประจำของนิตยสารสารคดี National Geographic และผู้ก่อตั้งโครงการ Pristine Seas กล่าว 

เมื่อมองจากมุมสูง จะเห็นปะการังดูเหมือนหินสีน้ำตาลขนาดใหญ่มีลักษณะเป็นคลื่น บางคนในคณะสำรวจถึงกับเข้าใจผิดในตอนแรกว่าเป็นเรืออับปาง “ในวินาทีแรก ผมรู้ว่าผมกำลังมองดูอะไรบางอย่างที่แปลกตา มันมีขนาดใกล้เคียงกับอาสนวิหาร” มานู ซาน เฟลิกซ์ นักชีววิทยาทางทะเลและช่างภาพใต้น้ำ เผยหลังจากได้ดำน้ำลงไปดู 

ในเวลาต่อมานักวิทยาศาสตร์ได้ตรวจสอบภาพถ่ายดาวเทียมและพบว่าปะการังมีขนาดใหญ่มากจนสามารถมองเห็นได้จากอวกาศ 

เมื่อมองใกล้ๆ ปะการังจะกลายร่างเป็นสิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจ เพราะมีเครือข่ายโพลิปที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่เติบโตมาหลายศตวรรษจนกลายมาเป็นปะการังขนาดใหญ่ และยังมีสีม่วง เหลือง น้ำเงิน และแดงสดใสตัดกับสีน้ำตาลของปะการัง 

แต่ขนาดที่ใหญ่โตของมันทำให้เกิดปัญหาบางประการ เนื่องจากสายวัดของนักวิทยาศาสตร์ไม่ยาวพอ ทำให้พวกเขาต้องทำงานเป็นทีมละ 2 คน โดยยืดสายวัดระหว่างกัน เมื่อยืดสายวัดจนสุดแล้ว คนหนึ่งจะยืนอยู่ที่จุดนั้น ส่วนอีกคนจะม้วนสายวัดขึ้นมา แล้วทำต่อเรื่อยๆ จนวัดเสร็จ 

แม้ปะการังจะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล แต่ก็ไม่ปลอดภัยจากภาวะโลกร้อนและภัยคุกคามจากมนุษย์

scientists_discover_worlds_largest_coral_so_big_can_be_seen_from_space_SPACEBAR_Photo01_8caf5544d2.jpg
Photo by MANU SAN FELIX / NATIONAL GEOGRAPHIC PRISTINE SEAS / AFP

ปะการังมีความเสี่ยงจากปัจจัยในท้องถิ่นหลายประการ เช่น การทำประมงมากเกินไป ซึ่งอาจสร้างความเสียหายและกระทบต่อสมดุลอันบอบบางของระบบนิเวศ มลพิษทางอุตสาหกรรม และน้ำเสีย แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีอะไรเลวร้ายเท่ากับภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุด นั่นก็คือ ‘วิกฤตสภาพอากาศที่เกิดจากเชื้อเพลิงฟอสซิล’  

เมื่อเดือนที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์จากองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ได้ยืนยันว่า การฟอกขาวของแนวปะการังทั่วโลกถือเป็นเหตุการณ์ที่รุนแรงที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ เนื่องมาจากอุณหภูมิของมหาสมุทรที่สูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน 

ตามข้อมูลของบัญชีแดง IUCN Red List (บัญชีแดงของชนิดพันธุ์สัตว์ที่ถูกคุกคามของสหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ) ระบุเมื่อวันพุธ (13 พ.ย.) ว่า ปัจจุบัน ปะการังที่สร้างแนวปะการังน้ำอุ่นมากกว่า 40% กำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์ โดยสาเหตุหลักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

“การอยู่รอดอย่างต่อเนื่องของปะการังกำลังตกอยู่ในอันตราย” เดเร็ค แมนเซลโล ผู้ประสานงานโครงการ ‘Coral Reef Watch’ ของ NOAA กล่าว 

แม้ว่าปะการังขนาดใหญ่นี้จะเปราะบาง แต่เขาเชื่อว่าสุขภาพและอายุที่ยืนยาวของปะการังทำให้มีความหวังอยู่บ้าง “การอยู่รอดของปะการังที่มีอายุหลายร้อยปีนี้แสดงให้เห็นว่าแนวปะการังยังไม่สูญสิ้น...นี่เป็นการค้นพบที่น่าทึ่งมาก!” แมนเซลโล บอกกับสำนักข่าว CNN  

Photo by MANU SAN FELIX / NATIONAL GEOGRAPHIC PRISTINE SEAS / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์