สันติภาพจะจบตรงไหน? ผบ.กลาโหมเกาหลีใต้สั่ง ‘สังหาร’ คิมจองอึนหากเกิดสงคราม

14 มีนาคม 2567 - 04:55

south-korean-defense-chief-orders-up-plan-to-kill-kim-jong-un-SPACEBAR-Hero.jpg
  • “ในการฝึกซ้อมครั้งล่าสุดของเกาหลีใต้กับกองทหารสหรัฐฯ นั้น กองกำลังพิเศษได้ดำเนินการเพื่อแทรกซึมศูนย์บัญชาการหลักและทำให้ปฏิบัติการของเกาหลีเหนือหยุดชะงัก”

  • กองบัญชาการสงครามพิเศษกองทัพเกาหลีใต้กำลังเตรียมการสำหรับ ‘การยั่วยุต่างๆ’ จากทางเหนือ รวมถึงการโจมตีของผู้ก่อการร้าย

  • “เราจะเข้าไปปราบปรามพวกเขาอย่างแข็งขัน และลงโทษพวกเขาจนกว่าจะถึงที่สุด”

รัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีใต้ ‘ชินวอนซิก’ ออกคำสั่งให้สังหารผู้นำเกาหลีเหนือ ‘คิมจองอึน’ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ในเกาหลีเหนือโดยเร็ว หากเกิดสงครามบนคาบสมุทรอีกครั้ง 

ชินออกคำสั่งเมื่อวันพุธ (13 มี.ค.) โดยแจ้งให้กองบัญชาการสงครามพิเศษกองทัพบกเกาหลีใต้เตรียมการสังหารผู้นำเกาหลีเหนือ “หากคิมจองอึนเริ่มสงคราม ในฐานะหน่วยสำคัญของการลงโทษและการตอบโต้ครั้งใหญ่ของเกาหลี (KMPR) คุณจะต้องกลายเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเพื่อกำจัดผู้นำของศัตรูอย่างรวดเร็ว” ชินกล่าวระหว่างการเยือนหน่วยคอมมานโด ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงโซลในอินชอน 

KMPR เป็นหลักการด้านการป้องกันของเกาหลีใต้ในการโจมตีตอบโต้เพื่อตอบสนองต่อการโจมตีของเกาหลีเหนือ เป็นส่วนหนึ่งของระบบ ‘สามแกน’ (three-axis system) ของโซลในการขัดขวางการทำสงครามครั้งใหม่กับเปียงยาง ซึ่งรวมถึงการกำจัดการยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือและการยิงขีปนาวุธขณะบิน  

คิมจองอึนเรียกการฝึกซ้อมร่วมดังกล่าวว่าเป็น ‘การซ้อมใหญ่’ สำหรับการรุกรานเกาหลีเหนือและการยั่วยุให้เกิดสงคราม ในทางเทคนิคแล้ว ทั้งเกาหลีเหนือและใต้อยู่ในภาวะสงครามกันมานานกว่า 7 ทศวรรษแล้ว หลังจากที่ความขัดแย้งระหว่างปี 1950-1953 จบลงด้วยการสงบศึกชั่วคราวมากกว่าข้อตกลงสันติภาพ 

สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า “ในการฝึกซ้อมครั้งล่าสุดของเกาหลีใต้กับกองทหารสหรัฐฯ นั้น กองกำลังพิเศษได้ดำเนินการเพื่อแทรกซึมศูนย์บัญชาการหลักและทำให้ปฏิบัติการของเกาหลีเหนือหยุดชะงัก” 

ขณะเดียวกันกองบัญชาการสงครามพิเศษกองทัพเกาหลีใต้ก็กล่าวว่ากำลังเตรียมการสำหรับ ‘การยั่วยุต่างๆ’ จากทางเหนือ รวมถึงการโจมตีของผู้ก่อการร้าย “เราจะเข้าไปปราบปรามพวกเขาอย่างแข็งขัน และลงโทษพวกเขาจนกว่าจะถึงที่สุด”  

ทั้งนี้ ชิน ยังได้ไปเยือนบังเกอร์บัญชาการสำคัญในช่วงสงครามในเมืองซองนัม ทางตอนใต้ของกรุงโซลเมื่อวันพุธอีกด้วย โดยเขากล่าวว่า “การฝึกซ้อมร่วมดังกล่าวจะขับเคลื่อนปฏิบัติการเพื่อลบล้างเครือข่ายนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือตั้งแต่ระยะแรก และโจมตีศัตรูในทุกพื้นที่ รวมถึงทางบก ทะเล อากาศ อวกาศ ไซเบอร์ และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เราจำเป็นต้องเสริมสร้างขีดความสามารถของเราเพิ่มเติมเพื่อที่เราจะสามารถเอาชนะพวกเขาได้” 

อย่างไรก็ดี ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเพิ่มสูงขึ้นในปีที่ผ่านมา ท่ามกลางการทดสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือและการตอบโต้จากเกาหลีใต้และสหรัฐฯ 

นอกจากนี้ ชินเคยขู่เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมาด้วยว่า “จะปล่อย ‘ขุมนรกแห่งการทำลายล้าง’ ต่อเกาหลีเหนือ หากเกาหลีเหนือกระทำการอันใดที่ประมาทเลินเล่อซึ่งเป็นอันตรายต่อสันติภาพ” โดยคำปฏิญาณดังกล่าวเกิดขึ้นหลายสัปดาห์หลังจากที่เกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมสอดแนม ซึ่งนำไปสู่การระงับข้อตกลงปี 2018 ที่ลงนามเพื่อลดความตึงเครียดทางทหารรอบเขตปลอดทหาร (DMZ) ของคาบสมุทร 

Photo by Jung Yeon-je / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์