สำหรับคนเกาหลีใต้รุ่นใหม่ๆ การประกาศกฎอัยการศึกที่มีผลบังคับใช้เพียง 6 ชั่วโมงของประธานาธิบดี ยุนซอกยอล เมื่อคืนวันอังคาร (3 ธ.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเผชิญกับความวุ่นวายทางการเมืองในลักษณะนี้ แต่สำหรับคนรุ่นเก่า ทุกคนต่างจำได้ดีว่าประเทศเคยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาแล้ว
นับตั้งแต่ประเทศเกาหลีใต้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1948 ประธานาธิบดีจำนวนหนึ่งได้ประกาศภาวะฉุกเฉินทางการทหาร ครั้งล่าสุดและอาจเป็นครั้งที่ดังกระฉ่อนไปทั่วโลกเกิดขึ้นหลังการลอบสังหารประธานาธิบดี พัคชุงฮี เมื่อปี 1961 และอดีตนายพลผู้นี้ก็เคยใช้กฎอัยการศึกเป็นครั้งคราวเพื่อปราบปรามการประท้วงทางการเมืองและฝ่ายตรงข้ามนับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่เก้าอี้ผู้นำเกาหลีใต้ เมื่อปี 1979
ไม่นานหลังจากพัคชุงฮีเสียชีวิต นายพลชุนดูฮวานก็ลงมือรัฐประหารตัวเอง เดือน เม.ย. 1980 ชุนดูฮวานก็ประกาศกฎอัยการศึก ห้ามทำกิจกรรมทางการเมืองทุกอย่าง ปิดโรงรียน รวมทั้งจับกุมผู้เห็นต่าง
ชาวเกาหลีใต้ลุกฮือประท้วงในเมืองควังจู ชุนดูฮวานจึงส่งทั้งรถถังและทหารพลร่มมาปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง เจ้าหน้าที่เผยว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 191 ราย รวมทั้งทหารและตำรวจ 26 นาย แต่ครอบครัวของผู้ประท้วงที่ถูกสังหารบอกว่าตัวเลขมากกว่านั้น

ชุนดูฮวานซึ่งยังอยู่ในอำนาจจนถึงปี 1988 ตีตราว่าการประท้วงที่ควังจูเป็นการต่อต้านที่ขับเคลื่อนโดยปฏิบัติการของเกาหลีเหนือ แต่การลุกฮือนี้กลายเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ประชาธิปไตยของเกาหลีใต้ และชาวเกาหลีใต้ก็สนับสนุนให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อยกย่องการประท้วงที่ควังจู
ปี 1996 ชุนดูฮวานและอดีตนายพลคนอื่นๆ อาทิ โนแทอู เพื่อนสมัยเด็กของชุนดูฮวานที่สนับสนุนการขึ้นสู่อำนาจของเขาจนได้รับเลือกโดยตรงให้เป็นประธานาธิบดีเมื่อปี 1988 ต่างก็ถูกดำเนินคดีข้อหารัฐประหารเมื่อปี 1979 และข้อหามีส่วนร่วมต่อการสั่งปราบการชุมนุม
ประธานาธิบดี คิมย็องซัม ที่นั่งเก้าอี้ตั้งแต่ปี 1993-1998 กล่าวเมื่อครั้งดำเนินคดีกับชุนดูฮวานและพวกว่า ถือเป็นยุคใหม่ของรัฐธรรมนูญนิยมของเกาหลี แต่คิมย็องซัมกลับอภัยโทษให้ทั้งชุนดูฮวานและโนแทอูในปีต่อมาโดยอ้างว่าเพื่อสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในประเทศ
ชินอูแจ โฆษกของคิมย็องซัมเผยว่า อภัยโทษ “เพื่อส่งเสริมการปรองดองในชาติและระดมพลังของประเทศเพื่อเอาชนะความยากลำบากทางเศรษฐกิจในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้ที่ประเทศจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่สะอาดและยุติธรรมที่สุดในประวัติศาสตร์”
ครั้งนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับประธานาธิบดี ยุนซอกยอล คงต้องรอดูกันต่อไป
Photo by YONHAP / AFP