ผู้คนจำนวนมากลาออกจากงานหลังจากเกิดโรคระบาด เนื่องจากคนงานต้องการเงินมากขึ้นและความรู้สึกที่เติมเต็มมากขึ้น มีนายจ้างจำนวนมากพยายามปรับตัวให้เข้ากับการแห่ลาออกของพนักงาน และกว่า 1 ใน 5 ของคนงานกล่าวว่า ในปี 2022 พวกเขาวางแผนที่จะลาออกจากงาน
แต่สำหรับบริษัทหนึ่งการลาออกที่เพิ่มขึ้นกลับทำให้ธุรกิจของพวกเขาเฟื่องฟู
‘Exit’ สตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่นมีไว้เพื่อทำให้การลาออกเป็นประสบการณ์ที่ปราศจากความเครียดสำหรับพนักงาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท ซึ่งบริษัทนี้บอกว่าพวกเขาช่วยผู้คนให้ลาออกจากงานมากกว่า 10,000 คนในแต่ละปีเลยทีเดียว
Exit จะติดต่อนายจ้างของลูกค้า เพื่อยื่นใบลาออกในนามของพวกเขาเอง และยังสามารถจัดการให้พนักงานลาออกจากงานโดยไม่ต้องกลับไปทำงานอีก ซึ่งมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 20,000 เยน หรือราวๆ 5,000 บาท
และนี่คือสิ่งที่ ‘ลูกค้า’ หันกลับมาใช้บริการพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผู้ใช้คนหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาจ้าง Exit เพราะพวกเขารู้สึกแย่ที่ต้องออกจากบริษัทที่เพิ่งจะเข้าร่วม ขณะที่อีกคนหนึ่งก็จิตใจอ่อนล้ามากจนไม่สามารถไปทำงานได้อีกต่อไป [แต่] กังวลว่าจะตอบสื่อสารอย่างไรจึงจะดี
โทชิยูกิ นิอิโนะ ผู้ก่อตั้ง Exit กล่าวว่า นายจ้างจำนวนมากในญี่ปุ่น ชอบทำให้ ‘คุณรู้สึกผิด’ และพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนงานอยู่ต่อเมื่อยื่นหนังสือแจ้งลาออก ซึ่งเขาก่อตั้งบริษัทนี้ในปี 2017 หลังจากที่เขาต้อง ‘ดิ้นรน’ กับการลาออกของตัวเอง
“พวกเขาพยายามทำให้คุณอับอาย และรู้สึกผิดที่คุณลาออกจากงานภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี และผมเองก็เคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก (ซึ่งก็คือการลาออกจากงาน)” นิอิโนะกล่าว
นิอิโนะ กล่าวว่า สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด 2 ประการที่ผู้คนจ้างบริษัทของเขาคือพวกเขากลัวเจ้านายของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่มั่นใจที่จะเผชิญหน้ากับนายจ้างเพื่อบอกว่าพวกเขาต้องการลาออก หรือพวกเขารู้สึกผิดที่จะต้องออกมา
นับตั้งแต่ Exit ก่อตั้งขึ้น รูปแบบธุรกิจของบริษัทก็ถูกนำมาใช้โดยคู่แข่งหลายราย ทำให้เกิดอุตสาหกรรมเฉพาะกลุ่มที่ดึงดูดพนักงานที่ต้องการหลีกเลี่ยงความอึดอัด ความกังวล หรือความอับอาย และย้ายออกจากงานอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม นิอิโนะโต้แย้งว่า บริษัทของเขาจะช่วยให้ผู้คนได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อนายจ้างของตน โดยไม่ต้องใช้ข้อแก้ตัวที่ฟังแล้วดูอ่อนแอ เช่น ต้องออกไปดูแลครอบครัว แต่บริการนี้จะทำให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงๆ ว่าทำไมถึงต้องการลาออก
แต่สำหรับบริษัทหนึ่งการลาออกที่เพิ่มขึ้นกลับทำให้ธุรกิจของพวกเขาเฟื่องฟู
‘Exit’ สตาร์ทอัพสัญชาติญี่ปุ่นมีไว้เพื่อทำให้การลาออกเป็นประสบการณ์ที่ปราศจากความเครียดสำหรับพนักงาน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ประมาณ 7,000 บาท ซึ่งบริษัทนี้บอกว่าพวกเขาช่วยผู้คนให้ลาออกจากงานมากกว่า 10,000 คนในแต่ละปีเลยทีเดียว
Exit จะติดต่อนายจ้างของลูกค้า เพื่อยื่นใบลาออกในนามของพวกเขาเอง และยังสามารถจัดการให้พนักงานลาออกจากงานโดยไม่ต้องกลับไปทำงานอีก ซึ่งมีค่าธรรมเนียมอยู่ที่ 20,000 เยน หรือราวๆ 5,000 บาท
และนี่คือสิ่งที่ ‘ลูกค้า’ หันกลับมาใช้บริการพวกเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ผู้ใช้คนหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาจ้าง Exit เพราะพวกเขารู้สึกแย่ที่ต้องออกจากบริษัทที่เพิ่งจะเข้าร่วม ขณะที่อีกคนหนึ่งก็จิตใจอ่อนล้ามากจนไม่สามารถไปทำงานได้อีกต่อไป [แต่] กังวลว่าจะตอบสื่อสารอย่างไรจึงจะดี
โทชิยูกิ นิอิโนะ ผู้ก่อตั้ง Exit กล่าวว่า นายจ้างจำนวนมากในญี่ปุ่น ชอบทำให้ ‘คุณรู้สึกผิด’ และพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนงานอยู่ต่อเมื่อยื่นหนังสือแจ้งลาออก ซึ่งเขาก่อตั้งบริษัทนี้ในปี 2017 หลังจากที่เขาต้อง ‘ดิ้นรน’ กับการลาออกของตัวเอง
“พวกเขาพยายามทำให้คุณอับอาย และรู้สึกผิดที่คุณลาออกจากงานภายในเวลาไม่ถึง 3 ปี และผมเองก็เคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบากมาก (ซึ่งก็คือการลาออกจากงาน)” นิอิโนะกล่าว
นิอิโนะ กล่าวว่า สาเหตุที่พบบ่อยที่สุด 2 ประการที่ผู้คนจ้างบริษัทของเขาคือพวกเขากลัวเจ้านายของตัวเอง ดังนั้นจึงไม่มั่นใจที่จะเผชิญหน้ากับนายจ้างเพื่อบอกว่าพวกเขาต้องการลาออก หรือพวกเขารู้สึกผิดที่จะต้องออกมา
นับตั้งแต่ Exit ก่อตั้งขึ้น รูปแบบธุรกิจของบริษัทก็ถูกนำมาใช้โดยคู่แข่งหลายราย ทำให้เกิดอุตสาหกรรมเฉพาะกลุ่มที่ดึงดูดพนักงานที่ต้องการหลีกเลี่ยงความอึดอัด ความกังวล หรือความอับอาย และย้ายออกจากงานอย่างราบรื่นที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
อย่างไรก็ตาม นิอิโนะโต้แย้งว่า บริษัทของเขาจะช่วยให้ผู้คนได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อนายจ้างของตน โดยไม่ต้องใช้ข้อแก้ตัวที่ฟังแล้วดูอ่อนแอ เช่น ต้องออกไปดูแลครอบครัว แต่บริการนี้จะทำให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นอย่างตรงๆ ว่าทำไมถึงต้องการลาออก