โรคหนึ่งที่คนทำงานมักเป็นกันก็คือลำไส้แปรปรวน เพราะปัจจัยสำคัญมาจากความเครียด แต่งานวิจัยล่าสุดแนะว่า ถ้าคุณมีวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพสามารถลดความเสี่ยงการเป็นโรคนี้ได้
สำหรับผู้ใหญ่วัยกลางคน และสูงอายุที่ออกกำลังกาย นอนหลับเพียงพอ กินอาหารมีประโยชน์ ดื่มแอลกอฮอล์ไม่มากเกินไป หรือไม่สูบบุหรี่ สามารถลดความเสี่ยงเป็นโรคนี้ได้ถึง 42% อ้างอิงจากงานวิจัยที่เพิ่งเผยแพร่ในวารสาร Gut ของ BMJ
ทีมวิจัยจากฮ่องกง พบว่ายิ่งมีพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ก็ยิ่งป้องกันการเป็นโรคไอบีเอส หรือลำไส้แปรปรวนได้มากขึ้น โดยผู้เข้าร่วมที่มีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพหนึ่งอย่างจะลดความเสี่ยงได้ 21% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ทำเลย ขณะที่คนที่มีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพสองอย่าง ลดความเสี่ยงได้ 36% และสามถึงห้าอย่างลดได้ 42%
คนที่เป็นโรคนี้ต่างก็เคยพบกับอาการปวดท้อง ท้องอืด และขับถ่ายผิดปกติ โรคนี้กระทบคน 5-10 % หรือ 1 ใน 10 คนทั่วโลก ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่าโรคเกี่ยวกับกระเพาะและลำไส้มีผลต่อสุขภาพจิตด้วย แต่ก็ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด
“นี่เป็นการแนะนำว่าการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตมีบทบาทสำคัญต่อการป้องกันโรคลำไส้แปรปรวนที่มีประสิทธิภาพอย่างมาก”
ศ.วินเซนต์ ชิ โฮ ชัง ผู้ร่วมทำงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยในเขตบริหารพิเศษฮ่องกอง
ศ. ชัง กล่าวอีกว่า “งานวิจัยของเราเป็นหนึ่งในงานวิจัยที่ใหญ่ที่สุดที่จะยืนยันว่าการผสมผสานพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ดีต่อสุขภาพสามารถลดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคลำไส้ใหญ่ได้อย่างมีนัยสำคัญ”
เขายังเสริมด้วยว่า จนถึงทุกวันนี้ งานวิจัยที่เกี่ยวกับโรคลำไส้แปรปรวนส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การวินิจฉัยและการรักษาแทนที่จะเป็นการป้องกัน
การป้องกันโรคลำไส้แปรปรวน
งานวิจัยก่อนหน้านี้ ที่เผยแพร่เมื่อเดือนมกราคมพบความเชื่อมโยงของปัจจัยในการใช้ชีวิตที่ไม่ดีต่อสุขภาพกับการเพิ่มความเสี่ยงโรคลำไส้แปรปรวน และนักวิจัยต้องการหาว่าปัจจัยที่ดีต่อสุขภาพเมื่อรวมกันแล้วจะช่วยป้องกันการเป็นโรคนี้ได้
สำหรับงานวิจัยฉบับใหม่นี้ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 64,268 คน อายุระหว่าง 37 – 73 ปี ที่ไม่เคยได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้ จากแหล่งข้อมูลชีวการแพทย์ UK Biobank
หลังผ่านไป 12 ปี 6 เดือน มีรายงานการเป็นโรคลำไส้แปรปรวน 961 คน (1.5%) ซึ่งเป็นคนที่ไม่มีพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพเลยสักอย่าง ซึ่งถือว่าเสี่ยงสูงที่สุดในการเป็นโรคนี้
นักวิจัยนิยามคำว่าวิถีชีวิตที่ดีต่อสุขภาพคือการยังคงรักษาการออกกำลังกายที่กระฉับกระเฉงในระดับสูง การกินอาหารคุณภาพสูงอย่างสมดุลในแต่ละวัน ดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวัน (5 – 15 กรัม) นอนหลับ 7 ถึง 9 ชั่วโมงทุกคืน และไม่สูบบุหรี่เลย
ศ.ชัง กล่าวว่า เมื่อวิเคราะห์พฤติกรรมแต่ละอย่าง ทีมวิจัยพบว่าการนอนหลับให้เพียงพอทุกคืนเป็นสิ่งที่ส่งผลมากที่สุดในการลดความเสี่ยงโรคลำไส้แปรปรวน สำหรับใครที่นอนมีคุณภาพดีมากลดความเสี่ยงการเป็นโรคนี้ได้ 27% เมื่อเทียบกับคนที่ไม่ทำ ส่วนการออกกำลังกายที่กระฉับกระเฉงลดความเสี่ยงได้ 17% ขณะที่การไม่สูบบุหรีเลยลดเสี่ยงได้ 14%
นักวิจัยยังพบว่าการดื่มแอลกอฮอล์ไม่มากเกินไป เมื่อรวมกับพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพอื่นๆอีก 4 อย่าง จะช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคลำไส้แปรปรวนได้เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับการละเว้นแอลกอฮอล์โดยสิ้นเชิง ซึ่งพวกเขาพบว่านี่เป็นผลที่น่าประหลาดใจที่ยิ่งทำให้ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม
