ภาวะไม่เจริญพันธุ์หรือมีบุตรยากในผู้ชายกำลังเป็นปัญหาไปทั่วโลก แต่ก็ยังไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นเพราะปัจจัยใด
จากหลักฐานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับไมโครพลาสติกและนาโนพลาสติกที่พบในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ตั้งแต่เลือด สมอง ถึงปอด นักวิจัยได้ให้ความสนใจในการระบุและทำความเข้าใจถึงผลกระทบที่เป็นไปได้ของไมโครพลาสติกต่อระบบสืบพันธุ์ด้วยเช่นกัน
การศึกษาล่าสุดที่เผยแพร่ในวารสาร Toxicological Sceince นักวิจัยได้ทดสอบหาไมโครพลาสติกในอวัยวะสืบพันธุ์ของผู้ชาย โดยใช้เนื้อเยื่อบางส่วนจากซากศพ 23 คน ซึ่งมีอายุ 16 ถึง 88 ปีในเวลาที่เสียชีวิต ซึ่งนักวิจัยพบไมโครพลาสติก 12 ชนิด ในตัวอย่างเนื้อเยื่ออัณฑะของทั้งคนและสุนัข จากนั้นมาเปรียบเทียบกับระดับปริมาณของพลาสติกที่พบในตัวอย่างของสุนัข 47 ตัว
“ระดับของไมโครพลาสติกและชนิดของพลาสติกในตัวอย่างเนื้อเยื่อของมนุษย์มีมากกว่าที่พบในสุนัขถึงสามเท่า และสุนัขก็กินบนพื้น ดังนั้นควรต้องคิดจริงๆว่าพวกเรากำลังเอาอะไรใส่เข้าไปในร่างกายของเรา”
แมทธิว แคมเปน นักพิษวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก ผู้ร่วมเขียนงานวิจัยกล่าว
“พลาสติกเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีขนาดระดับนาโน ซึ่งยาวน้อยกว่าครึ่งไมครอนและกว้างประมาณ 20 ถึง 200 นาโนเมตร พวกมันเป็นเศษเล็ก ๆ ที่แตกมาจากพลาสติกที่เก่ามาก ๆ” แคมเปน กล่าว
สำหรับของสุนัขนักวิจัยยังพบไมโครพลาสติกปริมาณสูงสัมพันธ์กับจำนวนสเปิร์มลดลง และน้ำหนักของอัณฑะลดลง
ผลกระทบต่อภาวะมีบุตรยากในผู้ชาย
ภาวะมีบุตรยากก็คือการไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ภายหนึ่งปี หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน โดยภาวะมีบุตรยากในผู้ชายคิดเป็น 20% ของกรณีภาวะมีบุตรยาก โดยมีสาเหตุมากมายที่อาจทำให้ผู้ชายประสบภาวะมีบุตรยาก ประกอบด้วย ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ พันธุกรรม และยารักษาโรคบางชนิด นอกจากนี้พิษจากสิ่งแวดล้อมอาจเป็นสาเหตุให้ผู้ชายประสบภาวะมีบุตรยากได้เช่นกัน
ผู้ชายที่มีบุตรยากอาจรู้สึกว่าจะต้องฝ่าฟันอย่างหนักและอาจถึงขั้นมีปัญหาสุขภาพจิตรุนแรงได้
ด้วยขนาดที่เล็กมาก ๆ ของนาโนพลาสติกสามารถเข้าไปในเซลล์และเนื้อเยื่อของอวัยวะสำคัญ ซึ่งจะไปขัดขวางกระบวนการของเซลล์และเป็นไปได้ที่จะสะสมสารเคมีที่ขัดขวางต่อมไร้ท่อ เช่น บิสฟีนอล พทาเลต สารหน่วงไฟ สารเพอร์และโพลีฟลูออโรอัลคิล (PFAS) และโลหะหนัก
ตัวขัดขวางต่อมไร้ท่อนั้นเข้าไปรบกวนระบบสืบพันธุ์ของมนุษย์ ซึ่งนำไปสู่อวัยวะสืบพันธุ์และการสืบพันธุ์ที่ผิดปกติ อย่างภาวะมีบุตรยากในผู้หญิงและจำนวนสเปิร์มลดลง อ้างอิงจากสมาคมต่อมไร้ท่อ (Endocrine Society)
ในเว็บไซต์ของสมาคมยังระบุว่าจำนวนสเปิร์มของผู้ชายในหลายพื้นที่ของโลกได้ลดลงอย่างน้อย 50% ตลอดช่วง 50 ปีที่ผ่านมา
“ตอนนี้พวกเราจะต้องเปิดตาให้กว้าง พวกเราเพิ่งจะได้ตระหนักว่ามีพลาสติกอยู่ในร่างกายของเราเท่าไหร่ พวกเราจำเป็นต้องศึกษาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเกี่ยวกับหัวข้อนี้เพื่อยืนยันหรือปฏิเสธบทบาทของไมโครพลาสติกในการกระตุ้นภาวะมีบุตรยาก มะเร็งอัณฑะ และมะเร็งอื่นๆ”
แคมเปน กล่าว
เจมส์ เคเชเนียน แพทย์และผู้อำนวยการสาขาสุขภาพเพศชายในภาควิชาโรคทางเดินปัสสาวะ โรงเรียนแพทย์เวล คอร์เนล เมดิซีน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องในการศึกษานี้ กล่าวว่า “การศึกษานี้ประเมินชนิดของพลาสติกที่พบในลูกอัณฑะและไม่น่าประหลาดใจที่พลาสติก PE มีมากที่สุด เพราะ PE นำมาใช้ในการผลิตพลาสติกมากที่สุด ซึ่งมีทั้งถุงพลาสติก ขวด บรรจุภัณฑ์อาหาร พรม และอีกมากมาย สุดท้ายแล้วเมื่อยังมีการผลิตอยู่มันก็มีโอกาสสูงที่บางส่วนของมันมาอยู่ที่ตัวเราหรือสัตว์เลี้ยงของเรา สำหรับผลกระทบต่อสุขภาพ นี่เป็นการเพิ่มหลักฐานเข้ามาในงานของพวกเราที่แสดงให้เห็นว่าไมโครพลาสติกถูกสงสัยว่าส่งผลร้ายต่อระบบสืบพันธุ์ของผู้ชาย”
การศึกษานี้โดยภาพรวมได้เพิ่มหลักฐานเกี่ยวกับการมีอยู่ของไมโครพลาสติกในร่างกายมนุษย์ อย่างไรก็ตามจะต้องมีการศึกษาเพิ่มมากขึ้นเพื่อทำความเข้าใจอย่างเต็มที่ถึงผลกระทบของไมโครพลาสติกต่อการสืบพันธุ์
เมื่อการศึกษานี้เน้นไปที่การเจริญพันธุ์โดยใช้ข้อมูลจากสุนัข จำเป็นที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติมว่ามีความเชื่อมโยงกับคนอย่างไร
การศึกษานี้ยังมีข้อจำกัดหลายอย่าง อย่างแรกเป็นการศึกษาตัวอย่างเนื้อเยื่อจำนวนน้อยซึ่งมาจากพื้นที่เดียวของสหรัฐอเมริกา โดยการศึกษาต่อไปต้องทดสอบตัวอย่างมากขึ้นจากแหล่งข้อมูลที่ครอบคลุมมากขึ้นอาจช่วยได้ดีขึ้น
อย่างที่สอง เนื้อเยื่อของคนมาจากปี 2016 ซึ่งอาจกระทบต่อผลที่ได้ โดยนักวิจัยยังยอมรับว่าเนื้อเยื่อนั้นไม่ได้มาจากการเสียชีวิตตามธรรมชาติ ดังนั้นไม่สามารถนำผลนี้ไปใช้กับประชากรทั้งหมดได้
ส่วนการวิเคราะห์เนื้อเยื่อยังต้องการความละเอียดมากขึ้น และนักวิจัยเชื่อว่านาโนพลาสติกที่เล็กกว่าอาจหลงเหลืออยู่ในเครื่องปั่นเหวี่ยงความเร็วสูง นอกจากนี้การศึกษานี้ไม่ได้ประเมินปัจจัยที่แน่ชัดที่สามารถส่งผลต่อจำนวนและชนิดของไมโครพลาสติกที่พวกเขาตรวจพบ
ท้ายที่สุด การศึกษานี้ผู้เขียนได้ให้ความเห็นว่าการศึกษาของพวกเขา “เน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องค้นหาคำตอบเกี่ยวกับปริมาณของไมโครพลาสติกต่อการตอบสนองที่ส่งผลกระทบ และต้องศึกษาโดยการทดลองทางวิทยาศาสตร์จากคนเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์”