‘เทสลา’ เรียกคืนรถยนต์ไฟฟ้ามากกว่า 2 ล้านคัน หลังระบบขับอัตโนมัติขัดข้อง!

14 ธ.ค. 2566 - 03:25

  • หน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ กดดันให้เทสลาทำการอัปเดตซอฟต์แวร์เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ขับขี่ให้ความสนใจขณะที่ใช้ Autopilot

tesla-recalls-autopilot-software-2-million-vehicles-SPACEBAR-Hero.jpg

ชื่อเสียงของเทสลา (Tesla) ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก หลังจากที่บริษัทเรียกคืนรถยนต์มากกว่า 2 ล้านคัน โดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ดังกล่าว ไม่ได้ดำเนินเพื่อให้เกิดความแน่ใจอย่างเพียงพอว่าผู้ขับขี่จะมีความระมัดระวัง แม้ขณะใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ หรือ Autopilot  

เหตุการณ์นี้นับเป็นการเรียกคืนรถครั้งที่ 4 ในรอบไม่ถึง 2 ปี ของเทสลา บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นการเรียกคืนที่ครอบคลุมรถยนต์เกือบทุกคันที่ผลิตในสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2012 โดยเป็นรถยนต์ทุกรุ่น ซึ่งรวมถึง Model Y รุ่นที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของเทสลาด้วย 

เทสลามีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณครึ่งหนึ่งของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่จำหน่ายในสหรัฐฯ แต่ส่วนแบ่งการตลาดกลับลดลง เนื่องจากมีคู่แข่งอย่าง General Motors, Hyundai, Ford Motor และผู้ผลิตรถยนต์อื่นๆ เริ่มทำรถยนต์ไฟฟ้ามาขายแข่ง  

ขณะที่แถลงการณ์ล่าสุดจากอีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา และเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) ได้รับการเผยแพร่และตีความว่าเขาต่อต้านชาวยิว จึงทำให้ลูกค้าบางรายขุ่นเคือง อีกทั้งการเรียกคืนในครั้งนี้ยังสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของบริษัทเข้าไปอีก  

การเรียกคืนครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการสอบสวนระบบ Autopilot ของเทสลา ซึ่งหน่วยงานบริหารความปลอดภัยการจราจรบนทางหลวงแห่งชาติเริ่มดำเนินการในเดือนสิงหาคม ปี 2021 เนื่องจากมีการเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้ ซึ่งบางครั้งมีผู้เสียชีวิต  

ระบบ Autopilot ได้รับการออกแบบมาเพื่อควบคุมยานพาหนะอัตโนมัติเมื่ออยู่บนทางหลวง โดยคู่มือของเทสลาจะมีการแจ้งผู้ขับขี่ว่าเจ้าของรถควรจับพวงมาลัย และคอยควบคุมรถหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น  

การเรียกคืนนี้สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของหน่วยงานกำกับดูแลที่ว่าเทสลาไม่ได้ดำเนินการป้องกันอย่างเพียงพอเพื่อไม่ให้ผู้ขับขี่ใช้ระบบในทางที่ผิด รวมถึงการเปิดใช้ระบบขณะเดินทางตามถนนท้องถิ่น และการเสียสมาธิในการขับรถเพราะคิดว่ารถมันสามารถขับขี่ตัวเองได้  

เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว บริษัทเทสลากล่าวว่า จะอัปเกรดซอฟต์แวร์รถยนต์เพื่อเพิ่มการแจ้งเตือนที่โดดเด่นยิ่งขึ้น และการตรวจสอบเมื่อมีการเปิดใช้งานเพื่อเตือนผู้ขับขี่ให้จับพวงมาลัยและให้ความสนใจกับถนน อย่างไรก็ตาม บริษัทไม่ได้เห็นด้วยกับการประเมินระบบของหน่วยงานฯ และยืนยันว่าระบบ Autopilot ทำให้รถยนต์ปลอดภัยมากกว่าเดิม 

พีท บุตติเจจ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ กล่าวว่า พวกเขาบอกว่าระบบนี้ปลอดภัยกว่า.. นั่นอาจเป็นเรื่องจริง แต่รู้อะไรไหม รถยนต์ที่มีถุงลมนิรภัยนั้นปลอดภัยกว่ารถยนต์ที่ไม่มีถุงลมนิรภัย หากถุงลมระเบิด เราจะยังเรียกคืนมันต่อไป  

Photo by Brandon Bell / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์