คนไทยในอิสราเอลบอกเล่าสถานการณ์ตัวเองลงเอ็กซ์ (ชื่อเดิมทวิตเตอร์) หลังจากที่โดนนำตัวจากศูนย์อพยพมาไว้ในแคมป์ และใช้แรงงาน โดยบอกว่า คนไทยส่วนใหญ่ต้องจำใจทำงานต่อไปในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่หลังจากที่ต้องหนีตายจากสงครามในพื้นที่ โมชาฟ มิฟทาฮิม ซึ่งอยู่ใกล้กับฉนวนกาซา ซึ่งถ้าใครที่ต่อต้านไม่ยอมทำงานก็จะไม่มีที่พักพิงและไม่มีเงินซื้ออาหารกระป๋องประทังชีวิต
เจ้าของบัญชี @SuperBallAI เล่าว่า “ตอนนี้ผมจะอธิบายเหตุการณ์เมื่อเช้าให้ฟังนะครับ คือเริ่มจากเมื่อวานช่วงตอนเย็น ผมได้หนีออกมาแคมป์เพื่อที่จะไปหาทหารที่อยู่ในโมชาฟในหมู่บ้าน หรือศูนย์หลบภัยครับ พอช่วงประมาณ 3 ทุ่ม ก็มีทหารอีกชุดหนึ่งมารับผม ให้ออกจากศูนย์หลบภัยชั่วคราวตรงนั้น ให้มาที่ศูนย์อพยพที่มีอาหารและเสื้อผ้าให้”
“พอตื่นเช้ามาก็มีทหารเขาเดินมาบอกว่า จะอพยพลงไปโซฟา หรือภาคใต้ของอิสราเอล ตอนนั้นมีกลุ่มผู้หญิงจะไปก่อน แต่ทหารกลุ่มนั้นบอกว่าไม่ให้ผู้หญิงขึ้นรถ บอกว่าให้ผู้ชายไปกัน ก็เลือก 6 คน พอขึ้นรถก็มีการถามหาพาสปอร์ตเพื่อเอาไปถ่ายรูป ผมก็ได้ดูแผนที่เรื่อยๆ มันไม่ได้ลงใต้ไปที่โซฟา แต่กลับพาขึ้นเหนือมา”
“พอกำลังลงรถก็มีพี่อีกคนเห็น คือมีการจ่ายเงินให้กับคนขับรถ เราก็เลยสงสัยและได้ถามออกไป เขาก็ตอบว่าเป็นค่าแท็กซี่ ก็คือเอาเรามาทำงานต่อ ตอนนี้พวกผมอยู่ด้วยกัน 6 คน ซึ่งเราหนีตายกันมา เราเหลือแค่เป้ใบเดียว ของก็ไม่ได้เอามาเลย พวกทรัพย์สินมีค่าอย่างจักรยาน ตู้เย็น ที่ผมได้ซื้อกันไว้ เราได้ทิ้งไว้ที่นั้นกันหมดเลย เพราะเราหนีตายอยากกลับไทย แต่ดูครับ เขาเอาเรามาขายทำงานต่อ คือตอนนี้เราต้องการขอความช่วยเหลือมาก เอาผมไปไว้ที่ปลอดภัยตรงไหนก็ได้ครับ”
คนไทยรายนี้ได้โพสต์ข้อความเพิ่มเติมว่า “ใครบอกว่าน่านฟ้าปิด นั่งรถผ่านสนามบินก็ยังเห็นเครื่องบิน บินขึ้นลงอยู่เลย ตั๋วใน app ก็ยังมีขายตลอด ผมเลยตัดสินใจไม่รอทางการมาช่วยเหลือแล้ว กำลังหาทางจะซื้อตั๋วเครื่องบินกลับไทยเอง ใครมีเที่ยวบินราคาดีๆ แนะนำผมด้วยครับ”
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ระบุว่า ได้รับแจ้งแล้ว และขณะนี้กำลังสอบสวนรายงานว่าสัญญาจ้างแรงงานไทยที่หลบหนีจากเขตความขัดแย้งใกล้ฉนวนกาซา กำลังถูกขายจากนายจ้างรายหนึ่งไปยังอีกรายหนึ่งเพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานในประเทศต่อไปได้
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตได้รับการแจ้งเตือนต่อรายงานเหล่านี้เมื่อเช้านี้ ขณะเดียวกันแรงงานไทยบางส่วนที่ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ความขัดแย้งได้แสดงความปรารถนาที่จะทำงานในประเทศต่อไป เนื่องจากปัญหาทางการเงิน และกลัวว่าจะไม่สามารถกลับมาทำงานในภายหลังได้หากออกไป
พิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงฯ กำลังหารือกับนายจ้างในอิสราเอลเพื่อเจรจารับประกันว่าคนงานเหล่านี้จะสามารถกลับมาทำงานได้อีกครั้งเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงกำลังค้นหาสถานที่ทำงานใหม่สำหรับคนงานที่ได้รับผลกระทบ และจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเดินทางสำหรับเที่ยวบินขากลับของพวกเขา
