เศรษฐาชี้รัฐบาลเมียนมากำลัง ‘สูญเสียความแข็งแกร่ง’ ถึงเวลาเจรจา

9 เมษายน 2567 - 04:17

thai-pm-says-myanmar-regime-losing-strength-SPACEBAR-Hero.jpg
  • เศรษฐาให้สัมภาษณ์ว่า “รัฐบาลเผด็จการเมียนมาเริ่มสูญเสียความแข็งแกร่งไปบ้าง แต่แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ พวกเขาก็มีอำนาจ พวกเขามีอาวุธ บางทีอาจถึงเวลาที่ต้องติดต่อและทำข้อตกลง”

นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ของไทย กล่าวกับสำนักข่าว Reuters ว่า “ขณะนี้เป็นเวลาที่ดีที่จะเปิดการเจรจากับเมียนมา เนื่องจากระบอบทหารที่ยึดอำนาจในการรัฐประหารเมื่อปี 2021 กำลังอ่อนแอลง” 

เมียนมากำลังเผชิญกับการก่อความไม่สงบในหลายแนวรบจากกลุ่มพันธมิตรต่อต้านรัฐบาลทหารที่เข้ายึดฐานทัพและเมืองทหารหลายแห่ง รวมถึงบางส่วนของเมืองสำคัญแห่งหนึ่งบริเวณชายแดนติดกับไทยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา 

การก่อความไม่สงบถือเป็นความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่รัฐบาลเผด็จการทหารเมียนมาเผชิญนับตั้งแต่ทำการรัฐประหารในปี 2021 

“รัฐบาลเผด็จการเริ่มสูญเสียความแข็งแกร่งไปบ้าง แต่แม้ว่าพวกเขาจะพ่ายแพ้ พวกเขาก็มีอำนาจ พวกเขามีอาวุธ บางทีอาจถึงเวลาที่ต้องติดต่อและทำข้อตกลง” เศรษฐาให้สัมภาษณ์บนเกาะสมุยเมื่อวันอาทิตย์ (7 เม.ย.) 

ประเทศไทยดำเนินการตามข้อตกลงหลายครั้งกับเมียนมานับตั้งแต่เศรษฐาขึ้นสู่อำนาจเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว รวมถึงการให้ความช่วยเหลือแก่เมียนมาภายใต้โครงการริเริ่มด้านมนุษยธรรมที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อปูทางสำหรับการเจรจาระหว่างค่ายที่ทำสงคราม 

นอกจากนี้ รัฐสภาไทยยังเป็นเจ้าภาพจัดสัมมนาเมื่อเดือนที่แล้วเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมา ซึ่งรวมถึงการปรากฏตัวของฝ่ายตรงข้ามของกองทัพเมียนมา แม้ว่ารัฐบาลเผด็จการทหารจะคัดค้านก็ตาม 

เศรษฐากล่าวว่าเมียนมามีความสำคัญมากสำหรับประเทศไทย เขาและเจ้าหน้าที่ไทยคนอื่นๆ ได้พูดคุยกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ ในเมียนมาและหุ้นส่วนระหว่างประเทศ รวมถึงจีนและสหรัฐฯ “ประเทศที่จะได้ประโยชน์มากที่สุดหากเมียนมาเป็นเอกภาพ สงบสุข และเจริญรุ่งเรืองก็คือ ‘ประเทศไทย’ ” เศรษฐากล่าว 

“รัฐบาลไทยจะไม่เข้าข้างฝ่ายขัดแย้งระหว่างประเทศ และนโยบายคือการแก้ไขข้อขัดแย้งอย่างสันติ” ชัย วัชรงค์ โฆษกรัฐบาล กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ (8 เม.ย.) หลังถูกถามเกี่ยวกับสถานการณ์ในเมียนมา 

ทั้งนี้ เศรษฐากล่าวว่าเขากำลังวางแผนที่จะพูดคุยกับรัฐมนตรี เจ้าหน้าที่ทหารอาวุโส และเจ้าหน้าที่ความมั่นคงในวันอังคาร (9 เม.ย.) เพื่อปรับปรุงนโยบายของรัฐบาลเกี่ยวกับเมียนมา

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์