จับตาดูคดีความของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จะเป็นอย่างไรต่อไป? หลังขึ้นศาล!

4 เม.ย. 2566 - 08:42

  • หลังจากการปรากฏตัวขึ้นศาลในนครนิวยอร์กวันอังคารนี้ (4 เม.ย.) ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ต้องจับตาดูว่าคดีความทางอาญาจะเป็นไปในทิศทางใดต่อไป

  • หากทรัมป์ถูกดำเนินคดีและถูกตัดสินว่าผิดจริง เขาจะติดคุกหรือไม่?

The-things-watch-for-in-Trump-indictment-charges-SPACEBAR-Thumbnail
โลกจารึกเป็นประวัติศาสตร์ไปแล้วสำหรับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งกลายเป็นอดีตผู้นำสหรัฐฯ คนแรกที่ถูกดำเนินคดีอาญา หลังคณะลูกขุนใหญ่ของแมนฮัตตันตั้งข้อหาเกี่ยวกับกรณีที่เขาจ่ายเงินปิดปากการมีสัมพันธ์กับนักแสดงหนังผู้ใหญ่ก่อนการลงสนามชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปี 2016  

ทรัมป์มีกำหนดการในการปรากฏตัวที่ศาลในนครนิวยอร์กวันอังคารนี้ (4 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น และนี่จะเป็นช่วงเวลาที่ข้อกล่าวหาทางอาญาถูกเปิดเผยต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก ขณะที่ตัวเขาเองก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาด้วยเช่นเดียวกัน
 

ต่อไปนี้เป็นสิ่งที่ต้องจับตามองในคดีอาญาของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’
 
ข้อกล่าวหาที่แท้จริงของทรัมป์คืออะไร?

 
อัลวิน แบรกก์ อัยการเขตแมนฮัตตันกำลังสอบสวนการจ่ายเงิน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.4 ล้านบาท) ที่ ไมเคิล โคเฮน อดีตทนายความของทรัมป์จ่ายให้กับ สตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังผู้ใหญ่เพื่อปิดปากไม่ให้เธอพูดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ 


การดำเนินการนี้ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย และทรัมป์ยอมรับว่าจะคืนเงินให้นายโคเฮนสำหรับการชำระเงินดังกล่าวด้วย 

อย่างไรก็ตาม เมื่อทรัมป์คืนเงินให้โคเฮน บันทึกการจ่ายเงินนี้กลับระบุว่าเป็นค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย ซึ่งอัยการกล่าวว่า เท่ากับว่าทรัมป์ปลอมบันทึกทางธุรกิจ ซึ่งเป็นความผิดทางอาญาในนิวยอร์ก และคาดว่าข้อกล่าวหาจะเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวด้วย 

ในขณะที่ โจ ทาโคปินา หนึ่งในทนายความของทรัมป์กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีจะไม่สารภาพผิดและไม่ถูกใส่กุญแจมือ พร้อมเสริมว่าเขาจะพยายามให้ข้อกล่าวหานั้นถูกยกฟ้องโดยไม่ต้องขึ้นศาล “มีโอกาสเป็นศูนย์ที่อดีตประธานาธิบดีจะทำข้อตกลงรับสารภาพกับอัยการ” 

“ประธานาธิบดีทรัมป์จะไม่ทำข้อตกลงในกรณีนี้” ทาโคปินาบอกกับรายการทูเดย์โชว์ของเอ็นบีซี “มันจะไม่เกิดขึ้น ไม่มีอาชญากรรม” 

หนึ่งในข้อกล่าวหาของทรัมป์จะเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง (felony) หรือไม่? 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/4yVcKl3sDLqIE44QRnmagJ/4a567310ea8220c6e8ce5c6c2be769ef/The-things-watch-for-in-Trump-indictment-charges-SPACEBAR-Photo01
Photo: ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / AFP
ในนิวยอร์ก การฉ้อโกงอาจเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรงได้หากการโกหกนั้นทำขึ้นโดยมีเจตนาปกปิดหรือเพื่อก่ออาชญากรรมอื่น แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับคดีนี้กล่าวกับสื่อสหรัฐฯ ว่า “ข้อกล่าวหาอย่างน้อย 1 คดีของทรัมป์อาจเป็นความผิดทางอาญาร้ายแรง” 

สัญญาณส่วนใหญ่ชี้ไปที่การละเมิดกฎทางการเงินของการหาเสียง ซึ่งโคเฮนถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหาละเมิดกฎทางการเงินในการหาเสียงและการหลีกเลี่ยงภาษีที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินปิดปากดังกล่าว 

นั่นหมายความว่าอัยการเชื่อว่าทรัมป์พยายามปกปิดการจ่ายเงินให้กับแดเนียลส์ เพราะทรัมป์ไม่ต้องการให้ผู้ลงคะแนนรู้ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กัน โดยคาดว่าการจ่ายเงินดังกล่าวนั้นเกิดขึ้นในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งปี 2016  

ทั้งนี้ คดีฉ้อโกงทางอาญาส่วนใหญ่มีโทษจำคุกสูงสุดประมาณ 5 ปี แต่ส่วนใหญ่นักโทษจะถูกตัดสินให้ถูกคุมประพฤติหรือปรับ และหากทรัมป์ถูกตัดสินว่ามีความผิดก็มีความเป็นไปได้น้อยมากที่ทรัมป์จะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้ลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี ซึ่งทรัมป์เองก็แสดงจุดยืนอย่างชัดเจนว่าเขาจะไม่พลาดการชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวปี 2024 

จะมีการตั้งข้อหาเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับคดีอื่นหรือไม่? 

อัยการได้ถามคำถามพยานอย่างน้อยหนึ่งคำถามเกี่ยวกับการจ่ายเงินจำนวน 150,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.1 ล้านบาท) ให้กับ คาเรน แมคโดกาล อดีตเจ้าของตำแหน่ง Playmate of the Tear ของนิตยสาร Playboy ปี 1998 (ก่อนจะถูกกล่าวหาว่าคบหาดูใจกับทรัมป์)  โดยแมคโดกาลอ้างว่าเธอมีความสัมพันธ์กับทรัมป์ในปี 2006 

เงินดังกล่าวถูกจ่ายโดย National Enquirer หนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ชื่อดัง ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นความพยายามที่จะปกปิดไม่ให้เรื่องราวของเธอถูกเผยแพร่โดยสื่ออื่นๆ นั่นเอง 

แต่ยังไม่ชัดเจนว่าแมคโดกาลถูกสอบสวนเพื่อตั้งข้อหาแยกต่างหากหรือไม่  

คดีความของทรัมป์จะเป็นอย่างไรต่อไป? 

https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/1mTlTp5TBJ1FuQfk2t0xA5/85b23ba2fc3e6de4f88a1fb6c4b10df8/The-things-watch-for-in-Trump-indictment-charges-SPACEBAR-Photo02
Photo: Giorgio Viera / AFP
“สำนักงานอัยการเขตแมนฮัตตันดำเนินคดีกับผู้คนเป็นประจำในข้อหาปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ แต่การตัดสินความผิดทางอาญาร้ายแรงอาจเป็นเรื่องที่ท้าทายมากกว่า” นอร์แมน ไอเซน ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย จริยธรรม และการต่อต้านการทุจริตแห่งสถาบัน Brookings Institution กล่าว 

อัลวิน แบรกก์ อัยการเขตแมนฮัตตันจะต้องพิสูจน์์ให้ได้ว่าทรัมป์กำลังทำผิดกฎหมายและปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจโดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยในการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี 

“แบรกก์อาจอ้างถึงกฎหมายการเลือกตั้งเฉพาะของนิวยอร์กที่ห้ามผู้สมัครสมรู้ร่วมคิด ‘ด้วยวิธีการที่ผิดกฎหมาย’ เพื่อรณรงค์หาเสียง” เจอร์รี โกลด์เฟเดอร์ ทนายความฝ่ายการเงินและการเลือกตั้งในนิวยอร์กกล่าว 

รายงานของ The Washington Post ระบุว่า ทนายความของทรัมป์กล่าวว่า การจ่ายเงินให้กับแดเนียลส์นั้นทำขึ้นก็เพื่อปกป้องครอบครัวของเขาจากข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จ และไม่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงของเขา เนื่องจากแดเนียลส์ขู่ว่าจะยกเลิกข้อตกลงไม่เปิดเผยข้อมูลก่อนหน้านี้เพื่อเก็บเรื่องที่ถูกกล่าวหาเป็นความลับ  

“เขาต้องจ่ายเงินเพราะข้อกล่าวหาที่ทำให้เขาอับอายต่อสาธารณะ” ทาโคปินากล่าว 

อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มที่ทีมทนายของทรัมป์จะใช้ข้อโต้แย้งนี้ต่อไป “นั่นอาจบอกเป็นนัยว่าแรงจูงใจดังกล่าว ไม่ใช่ความปรารถนาที่จะป้องกันไม่ให้แดเนียลส์ทำให้เขาอับอาย” เดวิด ซูเปอร์ ศาสตราจารย์แห่งศูนย์กฎหมายมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์กล่าว 

ทว่า แม้ว่าทรัมป์จะอยู่ในคดีความและถูกตั้งข้อหาทางอาญาก็ตาม แต่ดูเหมือนว่าเขาจะยังสามารถดำเนินการหาเสียงในทำเนียบขาวปี 2024 อย่างไม่ต้องสงสัย (อ่านบทความ ‘แม้จะถูกตั้งข้อหาหรือถูกตัดสินว่ามีความผิดก็เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้’ ที่ลิงก์นี้) แทรกลิ้งแล้วค่ะ 

ไม่มีสิ่งใดในรัฐธรรมนูญที่ป้องกันไม่ให้ใครลงสมัครรับตำแหน่งสูงสุดของประเทศในขณะที่ถูกตั้งข้อหา แม้ว่าจะถูกตัดสินว่าผิด แต่ทรัมป์ก็ยังสามารถหาเสียงต่อไปได้และไม่ถูกห้ามไม่ให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้ 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์