ในเวลานี้ปัญหาน่านน้ำไทยกำลังเป็นประเด็นร้อนให้รัฐบาลถึงกับต้องกุมขมับ หลัง ‘ปลาหมอคางดำ’ เอเลี่ยนสปีชีส์ตัวร้ายแพร่กระจายไปทั่วจนต้องออกมาตรการกำจัดเพราะมันทำลายระบบนิเวศในน้ำ
รัฐบาลจึงออกมาตรการกำจัดปลาหมอคางดำ ดังนี้ :
- ห้ามปล่อยลงแหล่งน้ำ
- ปล่อยปลานักล่าปลาหมอคางดำ
- สนับสนุนให้จับปลาหมอคางดำ
- พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากปลาหมอคางดำ
- CPF ประกาศรับซื้อปลาหมอคางดำ
- วิจัยหาแนวทางควบคุมประชากรปลาหมอคางดำในระยะยาว
จะได้ผลหรือไม่คงต้องรอดูกันอีกที
ที่บาฮามาสก็เจอปัญหาเอเลี่ยนสปีชีส์ ‘ปลาสิงโต’ เหมือนกัน...
แน่นอนว่าปัญหาปลาเอเลี่ยนสปีชีส์มีอยู่แทบทุกแหล่งน้ำทั่วโลก แต่ที่นี่ ‘บาฮามาส’ ผุดแนวคิดสุดเจ๋งประดิษฐ์หุ่นยนต์มาใช้ในการกำจัด ‘ปลาสิงโต’ (lionfish) โดยเฉพาะ ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องปลาวายร้ายที่คุกคามชีวิตสัตว์ทะเลท้องถิ่น
แม้ทางการจะออกมาตรการกำจัดปลาสิงโต แต่เหมือนจะไม่เป็นผล เช่น :
- อนุญาตให้จับปลาสิงโตโดยใช้อุปกรณ์ดำน้ำ ฉมวก และตาข่าย
- ส่งเสริมการจับและขายปลาสิงโต (เพื่อบริโภค) ในเชิงพาณิชย์
- ห้ามเลี้ยงปลาสิงโตเป็นสัตว์เลี้ยงในตู้ปลา
- จำกัดการครอบครองหรือการขนส่งปลาสิงโตที่มีชีวิต
สายพันธุ์ปลาชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในอินโด-แปซิฟิกและทะเลแดง ซึ่งไม่มีปลานักล่าท้องถิ่นในมหาสมุทรแอตแลนติก ปลาชนิดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องครีบยาวที่มีพิษและความอยากอาหารที่ไม่รู้จักพอ ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ปลาสิงโตอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร แถมยังเป็นภัยคุกคามต่อระบบแนวปะการังที่เปราะบางอยู่แล้วด้วย
“ที่นี่ไม่มีอะไรหยุดยั้งพวกมันได้ ปลาท้องถิ่นไม่ได้มองว่าปลาสิงโตเป็นภัยคุกคาม จึงมักจะว่ายน้ำเข้าใกล้พวกมันและถูกกินเข้าไปอย่างง่ายดาย ไม่มีปลานักล่าตัวไหนเต็มใจที่จะกินพวกมัน ไม่มีปลาตัวไหนที่ไม่ถูกพิษของพวกมัน พวกมันกินทุกสิ่งทุกอย่างที่มีขนาดถึงครึ่งหนึ่งของขนาดตัวมันเอง”
อดัม แคนเตอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมของ ‘RSE’ (Robots in Service of the Environment) องค์กรไม่แสวงหากำไรที่แองเกิลก่อตั้งขึ้นเพื่อทำงานในโครงการนี้ กล่าว
ในบาฮามาสเพียงแห่งเดียว ปลาสิงโตจะกินปลาชนิดอื่นๆ ถึง 72 สายพันธุ์ ซึ่งมากกว่าปลานักล่าในท้องถิ่นอื่นๆ มาก ปลาสิงโตเพียงตัวเดียวในแนวปะการังสามารถลดจำนวนปลาแนวปะการังพื้นเมืองลงได้ถึง 79%
ปัจจุบันร้านอาหารบางแห่งจะนำปลาสิงโตออกมาขายเพื่อกระตุ้นให้เกิดการจับปลา แต่ปลาสิงโตไม่ตอบสนองต่อเหยื่อล่อและใช้ตาข่ายจับได้ยากมาก
หุ่นยนต์จับ ‘ปลาสิงโต’ ของบาฮามาส
โคลิน แองเกิล ประธานกรรมการบริหารของไอโรบอท (iRobot) และผู้ประดิษฐ์หุ่นยนต์ดูดฝุ่นรูมบา (Roomba) แองเกิลจึงพัฒนา ‘หุ่นยนต์จับปลาสิงโต’ ขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินวีรกรรมการทำลายล้างของปลาสิงโตในระบบนิเวศท้องถิ่น
หุ่นยนต์ของ RSE ตัวนี้ถูกควบคุมจากแล็ปท็อปและตัวควบคุมเกม จากนั้นหุ่นยนต์จะดำน้ำลงไป แล้วช็อตปลาด้วยไฟฟ้าก่อนที่จะดูดปลาเข้าไปในเครื่องผ่านท่อ แต่ก่อนหุ่นยนต์รุ่นเก่าซึ่งใช้พลังงานผ่านสายโยงจะไม่สามารถลงไปบริเวณน้ำลึกได้
แต่ตอนนี้หุ่นยนต์จับปลาสามารถลงไปได้ลึกกว่าที่นักดำน้ำจะว่ายได้อย่างปลอดภัยไปจนถึงระดับความลึกที่ปลาสิงโตจะเพาะพันธุ์ได้ ซึ่งอยู่ระหว่าง 200-500 ฟุตใต้ผิวน้ำ นอกจากนี้ หุ่นยนต์รุ่นใหม่พัฒนามีที่จับแล้วทำให้ง่ายต่อการจับปลา และจับได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งรุ่นเก่าไม่มีจึงเป็นปัญหาต่อการจับปลาขึ้นมา
“ตอนนี้หุ่นยนต์ของเราดำน้ำได้ลึกกว่านี้แล้ว แน่นอนว่าคุณต้องจับปลาได้มากขึ้นก่อนที่หุ่นยนต์จะต้องกลับไปที่เรือ” แคนเตอร์กล่าว
นอกจากนี้ หุ่นยนต์ยังช่วยแก้ปัญหาการใช้งานบางประการได้ เช่น ตอนนี้หุ่นยนต์มีที่จับแล้ว แต่รุ่นเก่าไม่มี ซึ่งปัญหาก็คือหุ่นยนต์เต็มไปด้วยปลามีพิษและไม่มีวิธีง่ายๆ ที่จะจับมันขึ้นมา
ในเวลานี้ หุ่นยนต์ต้องถูกควบคุมจากมนุษย์เพื่อให้แน่ใจว่าหุ่นยนต์จะจับปลาสิงโตเท่านั้น ไม่ใช่ปลาที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น ปลาหมาป่า (อย่างไรก็ตาม หุ่นยนต์ควรจะสามารถระบุปลาสิงโตได้เอง) “เราคาดหวังว่าหุ่นยนต์เพียงไม่กี่ตัวในจุดสำคัญๆ จะสามารถปกป้องแนวปะการังรอบๆ ได้” แคนเตอร์กล่าว