ฉาวไม่หยุด! ชาวต่างชาติเล่าประสบการณ์เจอตำรวจไทยรีดไถ-คอร์รัปชัน

30 ม.ค. 2566 - 10:24

  • ข่าวตำรวจไทยกับนักแสดงชาวไต้หวันกลายเป็นข่าวโด่งดังที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ของตำรวจไทย

tourists_experience_corrupt_extortion_thai_police_SPACEBAR_Hero_9cb517e43f.jpeg
หลังกรณีสาวไต้หวัน ชาวเน็ตจีนเริ่มแชร์ประสบการณ์การถูกข่มขู่จากเจ้าหน้าที่ไทย แต่ไม่ใช่แค่คนไต้หวันหรือคนจีน ดูเหมือนว่าคนต่างชาติอื่นๆ ก็เจอเหมือนกัน  

สมาชิกชุมชนออนไลน์ Reddit ที่ใช้ชื่อ ConfusedAndMe ตั้งโพสต์ First time visiting Bangkok. Greeted by Corruption.

(เที่ยวกรุงเทพฯ ครั้งแรก ได้รับการต้องรับด้วยการคอร์รัปชัน) บอกเล่าประสบการณ์ของตัวเองว่า “มาถึงกรุงเทพฯ เช้าวันนี้ กำลังเข้าแถวตรวจเอกสารเดินทาง ตอนผมเดินไปต่อแถว ตำรวจไทยก็เดินเข้ามาแล้วบอกว่าแถวนี้ยาวนะ อาจต้องรอเป็นชั่วโมง จ่ายเพิ่ม 200 บาทแล้วไปต่อแถววีซ่าด่วนได้เลย ตอนผมเช็ค แถวนั้นมันคือแถววีซ่าสำหรับกลุ่มทัวร์ แต่พวกเขาใช้มันชั่วคราวเท่านั้น และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมแถวถึงยาว มันใช้เวลาเป็นชั่วโมงสำหรับแถวธรรมดา มันคือเรื่องปกติของที่นี่ใช่มั้ย” 

“เพิ่มเติม: ผมมาจากอินเดีย 6 ดอลลาร์สหรัฐไม่ใช่เงินน้อยๆ แล้วผมก็รู้ดีว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นที่อินเดียด้วย ผมไม่เคยบอกว่ามันน่าตกใจ ผมแค่คิดว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีที่จะเจอเมื่อคุณก้าวเท้าเข้าไปในประเทศใดประเทศหนึ่ง และแน่นอนว่าผมเลือกจ่าย แต่คำถามคือมันคือเรื่องปกติใช่มั้ย” 

หลังจากนั้นสมาชิกที่ใช้ชื่อว่า Charlargo เข้ามาตอบว่า “200 บาทมันไม่เยอะหรอก แต่ใช่ที่นี่คอร์รัปชันหนักมาก...ประสบการณ์ที่แย่ที่สุด” ของผมคือ การจ่ายภาษีที่ดิน พวกเขาขู่ผมเบาๆ ว่าจะประเมินให้ผมจ่ายปีละ 40,000 ถ้าผมไม่จ่ายภาษีเป็นเงินสดในราคา 25,000 แต่พวกเขาจะออกใบเสร็จให้ผมแค่ 12,000 แล้วบอกผมให้เงียบๆ ผมเพิ่งมารู้ช่วงโควิดว่า ตามกฎหมายภาษีผมแค่ 10,000-12,000 เท่านั้น แล้วตอนนี้พวกเขาก็พยายามทำอีกหลังหมดโควิด ตอนนี้ผมแจ้งเรื่องไปที่ผู้ว่าฯ คนใหม่แล้ว ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นมั้ย ช่องว่างของกฎหมายหลักๆ ที่นี่คือ ไม่มีช่องทางให้จ่ายด้วยวิธีอื่นนอกจากเงินสด มันเป็นแค่บางอำเภอเท่านั้นที่เป็นแบบนี้” 

akshaynexu ตอบว่า “ใช่ ที่เคาน์เตอร์ขวีซ่าปลายทาง (visa on arrival) คนแรกบอกว่าคุณต้องจ่าย 2,200 บาท แล้วโต๊ะที่สองที่อยู่ข้างในที่คุณยื่นแบบฟอร์มก็จะบอกว่าคุณต้องจ่าย 2,400 (จ่ายเพิ่ม 200 อาจเป็นเพราะไม่มีรูปถ่ายติดในแบบฟอร์ม แต่ไม่แน่ใจนะ) แล้วพวกเขาก็จะเก็บเงินสดนั่นไปแล้วให้ใบเสร็จที่เขียนว่า 2,000 บาท แต่ไม่ว่าจะยังไงสุดท้ายฉันต้องจ่ายแพงกว่าเรตปกติของ visa on arrival 20% ที่สนามบินกรุงเทพฯ นอกจากนั้นก็ไม่เห็นการโขกราคาที่อื่นเลยตลอดทริป” 

2sec4you บอกว่า “เคยถูกตำรวจเรียกหลายครั้ง บางครั้งก็ใส่เครื่องแบบสีน้ำเงินแปลกๆ บางครั้งก็สีน้ำตาลตามปกติ ผมปฏิสธทุกอย่างแล้วโต้กลับว่าพวกเขาไม่สามารถทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ โดยเฉพาะตอนที่พวกเขาถามเกี่ยวกับวีซ่า ไม่ต้องโชว์อะไรทั้งนั้นนะ มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก ไอ้พวกคอร์รัปชันนอกคอก” 

สมาชิก Reddit ที่ใช้ชื่อ Gandalf the Ginge โพสต์ถามว่า “Anyone else getting "randomly" stopped and frisked by police?” หรือมีใครเคยถูกตำรวจสุ่มเรียกตรวจและค้นมั้ย? โดยเจ้าตัวเล่าว่า “ผมอาศัยและทำงานในกรุงเทพฯ และวันนี้ระหว่างเดินกลับบ้านจากที่ทำงาน ผมถูกตำรวจ 2 นายเรียก พวกเขาขอดูพาสปอร์ต ซึ่งผมไม่ได้พก (โชคดีที่ผมมีรูปถ่าย) พวกเขาถามคำถามผมหลายคำถามแล้วค้นทุกอย่างที่อยู่ในกระเป๋าทำงานและกระเป๋าออกกำลังกายของผม พวกเขาเปิดดูทุกช่องแล้วเอาของทุกอย่างออกมา พวกเขาดูแม้กระทั่งกระเป๋าสตางค์ ผมสงสัยว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งเดียวหรือเป็นเรื่องปกติที่เกิดกับคนอื่นๆ ด้วย ผมต้องกังวลมั้ยว่ามันจะเกิดขึ้นอีกบ่อยๆ หลังจากนี้ ผมเป็นผู้ชายผิวขาว ถ้านั่นจะทำให้แตกต่าง (ผมมั่นใจว่ามันต่างแน่ๆ) และสำหรับคนที่ถามมา เรื่องนี้เกิดที่ทองหล่อ ซอย 49 ใกล้กับโรงพยาบาลสมิติเวช ราวๆ 5 โมงเย็น” 

สมาชิกชื่อ TPK001 เข้ามาตอบว่า “เมื่อหลายปีก่อนเรื่องนี้เกิดขึ้นจนเป็นปกติ จนกลายเป็นข่าวดัง โดยเฉพาะข่าวนี้ในนิตยสาร TIME เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน 16 สิงหาคม มีคนเขียนไปถึง Stick เล่าว่าถูกเรียกและค้นตัวที่ซอย 16 อีกคนหนึ่งเขียนไปสัปดาห์เดียวกันบอกว่า พวกเขาก็ถูกตำรวจ 2 นายนี้เรียกเหมือนกัน (เป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้)” 

the_waste_of บอกว่า “เอิ่ม จริงๆ พวกเขามองหาเงิน ส่นยาเสพติด ถ้าพวกเขาเจอมันก็แค่เป็นวิธีที่นำไปสู่การได้เงิน พวกเขาไม่สนยาเสพติดหรอก พอได้เงิน พวกเขาก็จะยืนยาเสพติดให้คุณด้วยความยินดี (พูดจากประสบการณ์)” 

cryptening บอกว่า “ตำรวจทองหล่อขึ้นชื่อเรื่องทำแบบนี้กับฝรั่ง มีกลุ่มเฟซบุ๊คที่เอาไว้รายงานเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้อยู่นะ” รายนี้บอกพร้อมกับแนบลิ้งนี้ ซึ่งจากการตรวจสบของ Spacebar พบว่าลิงค์ดังกล่าวปิดไปแล้ว 

brocel บอกว่า “มันเกิดกับผมบ่อยมาก ทั้งกลางวันกลางคืน สุขุมวิท 16/22 ช่วงกลางวันและจุดตรวจใกล้เอ็มควอเทียร์ตอนกลางคืน พวกเขาตรวจยาเสพติด/บุหรี่ไฟฟ้า ครั้งหนึ่งตอนผมเห็นผู้ชายกลุ่มหนึ่งดูเหมือนจะมีปัญหา ผมเดาว่าพวกเขามีกัญชา ผมได้ยินมาว่าตำรวจจะให้คุณฉี่ใส่ขวดต่อหน้าทุกคนเพื่อตรวจสารเสพติด แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับผม กฎข้อเดียวคือ อย่าพกหรือยาเล่นยาในไทยแล้วคุณจะไม่มีปัญหา OP ไม่ใช่คุณคนเดียวรอก และมันจะเกิดขึ้นอีกแน่นอน นี่เป็นพฤติกรรมที่ไม่สุภาพโดยเจ้าหน้าที่ และมันทำให้วันของคุณแย่ลงทุกครั้ง” 

ส่วน Ungcas ตั้งกระทู้ไว้ว่า your experience with major corrupt/abuse of power in Thailand? (ประสบการณ์ของคุณเกี่ยวกับการคอร์รัปชัน/ใช้อำนาจโดยมิชอบหลักๆ ในประเทศไทย) โดย Ungcas ได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองไว้ว่า “...ภรรยาผมถือสองสัญชาติ แคนาดา-ไทย และครอบครัวของเธอมีคอนเนคชันกับตำรวจและรัฐบาล ปี 2007 ผมมาประเทศไทยครั้งที่สอง ก่อนถึงกรุงเทพฯ ผมกับภรรยาแวะที่ฮ่องกงแล้วเจอกับพี่ชาย 2 คนของเธอและเพื่อนของพวกเขาอีก 1 คน ตอนมาถึงกรุงเทพฯ ผมก็พบว่าเราไม่ต้องหยุดที่ ตม. เพื่อนของภรรยาผม (เขาเป็นล็อบบี้ยิสต์) กับเจ้าหน้าที่ ตม. คนหนึ่ง มาพบกับพวกเราที่จุดรับกระเป๋าแล้วพาเราไปที่รถ” 

“ผมรู้ที่หลังว่าเพื่อนของพี่เขยซื้อเพชรมาเพียบเลยจากฮ่องกง มากขนาดที่ว่าเราจะเจอปัญหาใหญ่ได้เลยถ้าถูกจับ ผมเลยมาคิดกับตัวเองว่า มันอาจเป็นยาเสพติดหรืออาวุธก็ได้ แล้วก็จะไม่มีใครรู้ด้วย อีก 1 ปีต่อมาผมย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ แต่ไม่ได้วางแผนให้ดี ผมมีวีซ่า 90 วัน แต่ผมอยู่ 1 ปี อยู่เกินวีซ่ามา 9 เดือน เจ้าหน้าที่ ตม.ที่สนามบินถามผมซ้ำๆ ว่าทำไมผมไม่วางแผนให้ดี แล้วก็เป็นอีกครั้ง เพื่อนที่เป็นล็อบบี้ยิสต์ของภรรยาผมอยู่ที่นั่นกับเจ้าหน้าที่ ตม. อีกคนหนึ่ง พวกเขาเอาพาสปอร์ตผมไป แล้วบอกคนอื่นว่าเรื่องนี้ไม่ต้องห่วงแล้วพาผมเดินผ่านไป มันบ้ามากเลยนะที่มานั่งคิดถึงเรื่องแบบนี้ที่คุณรอดมาได้หากคุณรู้จักถูกคน” 

สมาชิกชื่อ Lashay Sombra เข้ามาตอบว่า “เคยเห็นฆาตกรรอดมาแล้ว (ต้องจ่าย 2,000,000-3,000,000 บาท)...เคยเห็นคนจ่ายเงินเพื่อให้หลุดคดียาเสพติด เมาแล้วขับ ทำร้ายร่างกาย...เจ้าของธุรกิจหลายคนจ่ายเงินให้คนบางคนเพื่อจะได้ไม่ต้องถูกประเมินภาษี หรือคนบางคนใช้ตำรวจมาข่มขู่คนอื่น ทุกคนรู้ว่าใครเป็นพ่อค้ายารายใหญ่ในพื้นที่ แต่ก็ไม่มีใครกล้าแตะพวกเขา เห็นคนพวกนี้อยู่กับตำรวจและข้าราชการบ่อยๆ...” 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์