ทรัมป์เปิดตัวแผนสร้าง ‘โดมทอง’ ระบบป้องกันขีปนาวุธทุ่มงบ 1.7 แสนล้านดอลลาร์

21 พ.ค. 2568 - 04:54

  • โดมทองจะทำหน้าที่ป้องกัน ‘การโจมตีร้ายแรง’ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นวาระการดำรงตำแหน่งของทรัมป์ ถึงกระนั้นผู้เชี่ยวชาญก็กล่าวว่า “โดมแห่งนี้ยังเผชิญกับอุปสรรคทั้งด้านการขนส่งและการเงิน”

  • แม้ทรัมป์จะบอกว่าโครงการนี้มีค่าใช้จ่าย 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่สำนักงานงบประมาณรัฐสภาคาดว่าน่าจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้นมากโดยอาจสูงถึง 542,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยแผนการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธ ‘โดมทอง’ (Golden Dome) เมื่อวันอังคาร (21 พ.ค.) โดยคาดว่าโครงการนี้ซึ่งมีเป้าหมายขยายระบบป้องกันภัยทางอากาศของสหรัฐฯ จะแล้วเสร็จภายในสิ้นวาระการดำรงตำแหน่งของทรัมป์ 

 

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่า “โดมทองจะทำหน้าที่ป้องกัน ‘การโจมตีร้ายแรง’” แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า  “โดมแห่งนี้ยังเผชิญกับอุปสรรคทั้งด้านการขนส่งและการเงิน” 

 

โครงการดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในความสำคัญสูงสุดของทรัมป์ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งเขาได้สัญญาไว้ในช่วงหาเสียงว่าจะ “สร้างระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีความสามารถคล้ายกับระบบ ‘Iron Dome’ ของอิสราเอล” ที่สามารถสกัดกั้นจรวดและขีปนาวุธได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

 

ทรัมป์เผยว่าโครงการนี้จะมีค่าใช้จ่าย 175,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.73 ล้านล้านบาท) โดยได้ขอรับเงินทุน 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 8.1 แสนล้านบาท) จากร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีและงบประมาณที่ยังต้องผ่านรัฐสภา อีกทั้งแคนาดายังแสดงความสนใจที่จะมีส่วนร่วมในโครงการนี้ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย   

 

แต่สำนักงานงบประมาณรัฐสภาจะระบุว่าโครงการโดมทองน่าจะมีค่าใช้จ่ายมากกว่านั้นมากโดยอาจสูงถึง 542,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 17 ล้านล้านบาท)  

 

ทรัมป์มั่นใจว่าโครงการจะแล้วเสร็จภายใน 3 ปี และพร้อมใช้งานเต็มรูปแบบก่อนสิ้นวาระการดำรงตำแหน่งของเขา ระบบดังกล่าวจะสามารถสกัดกั้นขีปนาวุธได้แม้ยิงมาจากอีกซีกโลก หรือจากอวกาศ “เราจะมีระบบที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” ทรัมป์ กล่าว   

 

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ตั้งชื่อโครงการของทรัมป์ว่า ‘โดมสีทอง’ เพื่อเป็นเกียรติแก่สีและโลหะที่ทรัมป์ชื่นชอบ ระบบป้องกันทางอากาศโดมทองจะเป็นโครงการระบบทหารรุ่นต่อไปที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกล ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง และขีปนาวุธร่อนหลากหลายชนิด ซึ่งประเทศคู่แข่งอย่างรัสเซียนำไปใช้อย่างประสบความสำเร็จ 

 

คำสั่งของทรัมป์ระบุว่า “ความเป็นไปได้ของการโจมตีทางอากาศขั้นสูงเหล่านี้ ‘ยังคงเป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงที่สุด’ ที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญ” ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พีท เฮกเซธ เรียกโครงการดังกล่าวว่าเป็น ‘ตัวเปลี่ยนเกม’ และเป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงของชาติในระดับยุคสมัย

“ในขณะที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับสันติภาพในต่างประเทศ แต่ศัตรูก็ได้ปรับปรุงกองกำลังนิวเคลียร์ของตัวเอง และสร้างขีดความสามารถด้านขีปนาวุธของตัวเองขึ้นมา รวมถึงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงที่สามารถโจมตีสหรัฐฯ ได้ภายใน 1 ชั่วโมงและเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 6,000 ไมล์ต่อชั่วโมง...ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเปลี่ยนแปลงสมการนั้นและเริ่มทุ่มเทให้กับระบบปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนมากขึ้น”

พลเอกไมเคิล กูเอตเลน รองหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการอวกาศของกองทัพอวกาศ ผู้ซึ่งทรัมป์แต่งตั้งให้ดูแลโครงการ กล่าว 


อย่างไรก็ตาม การปกป้องสหรัฐฯ จากการโจมตีดังกล่าวเป็นความท้าทายทางเทคนิคสูง เพราะการป้องกันพื้นที่ขนาดใหญ่ของสหรัฐฯ จากขีปนาวุธข้ามทวีปซับซ้อนกว่าการปกป้องอิสราเอลจากการโจมตีด้วยจรวดขนาดเล็กอย่างมาก 

 

ผู้เชี่ยวชาญยังเตือนว่า ค่าใช้จ่ายในการสร้างระบบนี้อาจเป็นภาระทางการเงินอย่างหนัก แม้ทรัมป์จะพยายามขอเงินทุน 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่กำลังพิจารณาในรัฐสภา แต่สำนักงานงบประมาณรัฐสภากลับประมาณการว่าค่าใช้จ่ายในการสร้างระบบดังกล่าวอาจสูงถึง 161,000-542,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5.2-17 ล้านล้านบาท) 

 

โครงการโดมทองของทรัมป์ถือเป็นโอกาสในการสานต่อวิสัยทัศน์ของอดีตประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ซึ่งในช่วงทศวรรษ 1980 เรแกนได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธที่เรียกว่า ‘Strategic Defense Initiative’ (SDI) หรือที่รู้จักในอีกชื่อว่า ‘Star Wars’ เพื่อป้องกันการโจมตีด้วยนิวเคลียร์ แต่สุดท้ายแล้วโครงการนี้ก็ล้มเหลวเนื่องจากความท้าทายด้านเทคโนโลยีและงบประมาณ 

 

ทรัมป์เชื่อว่าโครงการโดมทองจะไม่ประสบชะตากรรมเดียวกับ SDI เพราะในยุคนี้มีเทคโนโลยีที่พร้อมมากขึ้น และเขาตั้งใจให้ระบบนี้เป็น ‘ระดับสูงสุด’ ของการป้องกันภัยทางอากาศ 

 

(Photo by Jim WATSON / AFP) 

 

 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์