ความลึกลับยังไม่สิ้นสุด! นักโบราณคดีอียิปต์พบโครงสร้างปริศนาใกล้พีระมิดกิซา

14 พ.ค. 2567 - 08:32

  • โครงสร้างดังกล่าวต่างจากพีระมิดที่ตั้งตระหง่านเหนือพื้นดินตรงที่โครงสร้างเต็มไปด้วยทราย ทำให้นักวิจัยเชื่อว่ามันอาจถูกถมหลังจากที่ถูกสร้างขึ้น

  • นักวิจัยเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องมีการสำรวจโดยละเอียดเพิ่มเติม

unknown_structure_discovered_under_sand_near_great_pyramid_of_giza_SPACEBAR_Hero_cd358e3645.jpg

หลายศตวรรษหลังจากมหาพีระมิดแห่งกิซาถูกสร้างขึ้นครั้งแรก การค้นพบโครงสร้างแปลกตาที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นดินใกล้กับมหาพีระมิดโดยผู้ที่ทำงานในสถานที่แห่งนี้ยังคงมีมาเรื่อยๆ ซึ่งอาจนำไปสู่ความก้าวหน้าในการวิจัยของนักโบราณคดีในอียิปต์ 

การค้นพบล่าสุดมีรายละเอียดในรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคมโดยนักวิจัยจากสถาบันวิจัยดาราศาสตร์และธรณีฟิสิกส์แห่งชาติของอียิปต์ รวมถึงมหาวิทยาลัยนานาชาติฮิกาชิ นิปปอน ของญี่ปุ่น และมหาวิทยาลัยโทโฮกุ 

นักวิจัยค้นพบโครงสร้างรูปตัว L ซึ่งมีรูปร่างและขนาดประมาณ 33 x 49 ฟุต ตั้งอยู่ใต้พื้นผิวของสุสานตะวันตกระหว่าง 1 ฟุตครึ่งถึง 6 ฟุตครึ่ง ติดกับมหาพีระมิดคูฟู หรือที่รู้จักกันในชื่อมหาพีระมิดแห่งกิซา  

โครงสร้างดังกล่าวต่างจากพีระมิดที่ตั้งตระหง่านเหนือพื้นดินตรงที่โครงสร้างเต็มไปด้วยทราย ทำให้นักวิจัยเชื่อว่ามันอาจถูกถมหลังจากที่ถูกสร้างขึ้น แต่ความลึกลับไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะนักวิจัยยังพบว่า ใต้โครงสร้างที่ระดับความลึกระหว่าง 16-33 ฟุต ซึ่งวัดขนาดได้ประมาณ 33 x 33 ฟุตเป็นสิ่งที่ทีมอธิบายว่าเป็น ‘ความผิดปกติที่มีความต้านทานไฟฟ้าสูง’  

นักวิจัยระบุว่า “วัสดุต้านทานไฟฟ้าในเนินทรายอาจเป็นส่วนผสมของทรายและกรวด รวมถึงโพรงอากาศภายใน” 

การวางโครงสร้างในสุสานตะวันตกกำลังช่วยสร้างทฤษฎีบางอย่างเกี่ยวกับสุสานแห่งนี้ เนื่องจากบริเวณนี้เป็นที่ตั้งสุสานของสมาชิกในครอบครัวของกษัตริย์คูฟู ซึ่งถูกฝังอยู่เหนือหลุมศพแบบปล่อง (burial shafts) 

“ไม่มีซากที่สำคัญเหนือพื้นดินในบริเวณนี้ ไม่มีอะไรอยู่ใต้พื้นดินจริงๆ หรือ ก่อนหน้านี้ไม่มีการตรวจสอบใต้ดินเลย” ทีมงานตั้งคำถามในรายงาน 

นักวิจัยได้ใช้เรดาร์เจาะพื้นดิน (GPR) และการตรวจเอกซเรย์ต้านทานไฟฟ้า (ERT) พร้อมทั้งตั้งสมมติฐานว่าโครงสร้างด้านบนอาจเป็นผนังแนวตั้งของหินปูนหรือปล่อง ส่วนด้านล่างนี้ นักโบราณคดีเชื่อว่าอาจมีหลุมฝังศพ แม้ว่าพวกเขาจะเน้นย้ำว่า “จำเป็นต้องมีการสำรวจโดยละเอียดเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเป็นไปได้นี้” 

การวิจัยดังกล่าวเริ่มต้นในปี 2021 และได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร ‘Archaeological Prospection’ ซึ่งทีมงานได้แสดงความคิดเกี่ยวกับความสำคัญของการค้นพบนี้ “เราเชื่อว่าความต่อเนื่องของโครงสร้างตื้นและโครงสร้างขนาดใหญ่ที่ลึกเป็นสิ่งสำคัญ” พวกเขาเขียน 

อย่างไรก็ตาม ความสำคัญที่แท้จริงจะไม่ถูกเปิดเผยจนกว่าจะมีการวิจัยเพิ่มเติม 

Photo by MARWAN NAAMANI / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์