ทำเนียบขาวของสหรัฐฯ ประกศชัด “การโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายในอิรักและซีเรียที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเป็นเพียง ‘จุดเริ่มต้น ไม่ใช่จุดสิ้นสุด’ ของการตอบโต้ต่ออิหร่าน”
สหรัฐฯ กำลังตอบโต้ต่อการเสียชีวิตของทหาร 3 นายจากการโจมตีด้วยโดรนของศัตรูที่ฐานทัพทหารในจอร์แดนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าอิหร่านจะปฏิเสธการมีส่วนร่วม แต่สหรัฐฯ กล่าวหาอิหร่านว่ามี ‘ลายนิ้วมือ’ ในการโจมตี และโดรนลำดังกล่าวผลิตโดยอิหร่าน
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวว่า “การโจมตีตอบโต้เมื่อวันศุกร์ (2 ก.พ.) ได้มุ่งเป้าไปยังกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (IRGC) และกลุ่มอาสาสมัครที่เชื่อมโยงกับ IRGC ซึ่งเชื่อกันว่า IRGC ได้ติดอาวุธ ให้ทุน และฝึกอบรมกลุ่มต่อต้านอิสลามในอิรัก รวมถึงสถานที่ที่ใช้สำหรับสั่งการและควบคุม คลังอาวุธ การฝึกอบรม การสนับสนุนด้านลอจิสติกส์ และวัตถุประสงค์อื่นๆ”
“การโจมตีดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อขัดขวางกลุ่มเหล่านี้จากการโจมตีเพิ่มเติม และการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นในลักษณะ ‘เพื่อจำกัดความเสี่ยงที่จะบานปลาย’ และ ‘หลีกเลี่ยงการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน’”
นอกจากนี้ไบเดนยังกล่าวด้วยว่า เขาจะกำหนดมาตรการเพิ่มเติม รวมถึงต่อต้านบุคลากรและสิ่งอำนวยความสะดวกของเครือข่าย IRGC และกองกำลัง IRGC ตามความเหมาะสม”
“สหรัฐฯ ตั้งใจ่จะโจมตีกลุ่มต่างๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านในตะวันออกกลางเพิ่มเติม หลังจากโจมตีกลุ่มต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับอิหร่านในอิรัก ซีเรีย และเยเมนในช่วง 2 วันที่ผ่านมา…เราตั้งใจจะโจมตีเพิ่มเติม เพื่อส่งสารที่ชัดเจนว่าสหรัฐฯ จะตอบสนองเมื่อกองกำลังของเราถูกโจมตี เมื่อคนของเราถูกสังหาร”
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ (4 ก.พ.)
กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านกล่าวว่า “การโจมตีเยเมนครั้งล่าสุดเป็น ‘การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ’ อย่างชัดแจ้งโดยสหรัฐฯ และอังกฤษ” พร้อมเตือนว่า “การโจมตีที่ยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องถือเป็น ‘ภัยคุกคาม’ ที่น่าเป็นห่วงต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ”
อย่างไรก็ดี การตอบโต้ของสหรัฐฯ ทำให้เกิดเสียงประณามเพิ่มมากขึ้นจากกลุ่มอื่นๆ ในภูมิภาค รวมถึงจากรัฐบาลอิรักและซีเรียด้วย ฝูงชนรวมตัวกันในกรุงแบกแดดเมืองหลวงของอิรักเมื่อวันอาทิตย์เพื่อไว้อาลัยต่อการเสียชีวิตของสมาชิกติดอาวุธที่สนับสนุนอิหร่าน 17 รายในการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ โดยฝูงชนกลุ่มนี้ตะโกนว่า ‘อเมริกาคือปีศาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด’ พร้อมทั้งชูภาพเหยื่อขึ้นสูง
ซัลลิแวนเสริมว่า “สหรัฐฯ พร้อมที่จะจัดการกับทุกสิ่งที่เข้ามาโจมตีพวกเขา” แต่ซัลลิแวนปฏิเสธที่จะบอกว่าสหรัฐฯ ระงับการโจมตีในอิหร่านหรือไม่
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กลาโหมของสหรัฐฯ ก็ได้กล่าวด้วยว่า “นับตั้งแต่การโจมตีในอิรักและซีเรียเมื่อวันศุกร์ มีการโจมตีกองกำลังอเมริกันหนึ่งครั้ง การโจมตีดังกล่าวใช้จรวดมุ่งเป้าไปที่กองกำลังสหรัฐฯ ซึ่งประจำอยู่ที่ยูเฟรติสในซีเรีย แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายเกิดขึ้น
ขณะนี้ แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กำลังเดินทางไปยังภูมิภาคนี้ในการเยือนอิสราเอล อียิปต์ กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และเวสต์แบงก์
“ข้อตกลงตัวประกันกับกลุ่มฮามาส ซึ่งจะทำให้การสู้รบในฉนวนกาซาหยุดชะงักลง จะเป็นความสำคัญสูงสุดของสหรัฐฯ…เราจะกดดันมันอย่างไม่ลดละ แต่บอลอยู่ในสนามของฮามาส” ซัลลิแวนกล่าวเมื่อวันอาทิตย์
Photo by Aaron Lau / US NAVY / AFP
