บ็อบ เมเนนเดซ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ มั่นใจว่าเขาจะ ‘พ้นความผิด’ หลังจากอัยการฟ้องเขาจากข้อกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่พรรคเดโมแครตระดับสูงรายนี้ใช้อิทธิพลของเขาเอื้อประโยชน์ต่อรัฐบาลอียิปต์เพื่อแลกกับสินบน
เมเนนเดซให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า นี่จะเป็นการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาวางแผนที่จะรักษาที่นั่งในรัฐสภาคองเกรสแห่งสหรัฐฯ ไว้ให้ได้
“ผมเชื่อมั่นว่าเมื่อมีการนำเสนอข้อเท็จจริงทั้งหมด ไม่เพียงแต่ผมจะได้รับการยกเว้นโทษเท่านั้น แต่ผมยังคงเป็นวุฒิสมาชิกอาวุโสของรัฐนิวเจอร์ซีย์” เมเนนเดซ ซึ่งลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวุฒิสภาด้านความสัมพันธ์ต่างประเทศชั่วคราวภายหลังการฟ้องร้องกล่าวในวันศุกร์
อัยการกล่าวหาเมเนนเดซและนาดีนภรรยาของเขาว่า รับสินบนหลายแสนดอลลาร์ ซึ่งสินบนดังกล่าวรวมถึงเงินสด ทองคำ การชำระค่าจำนองบ้าน ค่าชดเชยว่างงาน รถยนต์หรู และอื่นๆ เช่น สิ่งของมีค่า
คำฟ้องดังกล่าวระบุถึงการติดสินบนโดยนักธุรกิจ 3 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นได้มีการจัดการประชุมระหว่างเมเนนเดซและเจ้าหน้าที่อียิปต์ในปี 2018
อัยการกล่าวว่า ในระหว่างการประชุม เจ้าหน้าที่ได้ซักถามเมเนนเดซเกี่ยวกับสถานะความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ ที่มีต่ออียิปต์ ซึ่งส่วนหนึ่งถูกรัฐบาลของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระงับไว้เนื่องจากข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย
นอกจากนี้ อัยการยังกล่าวหาว่า เมเนนเดซแบ่งปันข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและไม่ข้อมูลลับกับเจ้าหน้าที่อียิปต์ผ่านการติดต่อของเขา
สมาชิกวุฒิสภาและภรรยาของเขาถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการติดสินบน สมรู้ร่วมคิดฉ้อโกง และสมรู้ร่วมคิดขู่กรรโชกภายใต้สิทธิของทางการ อย่างไรก็ตาม เขายังคงรักษาความบริสุทธิ์ของตัวเอง และกล่าวว่าเขาเป็นเหยื่อของการใส่ร้ายป้ายสี
“ตลอดระยะเวลา 30 ปีของผมในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ผมทำงานมาโดยตลอดเพื่อรับผิดชอบต่อประเทศ รวมถึงอียิปต์ สำหรับการละเมิดสิทธิมนุษยชน การปราบปราม ภาคประชาสังคม และอื่นๆ” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าว
แต่ชายวัย 69 ปีรายนี้เผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากกลุ่มจริยธรรมและสมาชิกพรรคของเขาเองให้ลาออก เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ส.ส.อเล็กซานเดรีย โอคาซิโอ-คอร์เตซ ซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต บอกกับ CBS ว่า ข้อกล่าวหาในคำฟ้องนั้นร้ายแรงอย่างยิ่ง
แอนดี คิม จากพรรคเดโมแครตยังได้ประกาศว่าเขาวางแผนที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งวุฒิสภาเพื่อชิงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาจากเมเนนเดซ เมื่อวาระของเขาสิ้นสุดลงในปี 2024
“[นิวเจอร์ซีย์] สมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ เราไม่อาจเป็นตัวอันตรายต่อวุฒิสภา หรือประนีประนอมความซื่อสัตย์ของเราได้” คิมเขียนบนโซเชียลมีเดีย
ก่อนหน้านี้ เมเนนเดซถูกตั้งข้อหาในคดีติดสินบนของรัฐบาลกลางอีกคดีหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาว่าเขายอมรับเที่ยวบินส่วนตัว การบริจาคเพื่อรณรงค์หาเสียง และสินบนอื่นๆ จากผู้มั่งคั่งเพื่อแลกกับความชอบพอ สนิทสนมกันอย่างเป็นทางการ
การพิจารณาคดีในปี 2017 จบลงด้วยการไม่บรรลุคำตัดสินของคณะลูกขุน และเมเนนเดซยังคงรักษาความบริสุทธิ์ของเขาไว้ได้
สินบนสำหรับอิทธิพล
นักธุรกิจ 3 คนที่มีชื่ออยู่ในคำฟ้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้แก่ วาเอล ฮานา, โฆเซ่ อูริเบ และเฟรด ไดเบส ก็เผชิญข้อกล่าวหาร่วมกับเมเนนเดซและภรรยาของเขาเช่นกัน
อัยการกล่าวว่า ฮานาได้จัดการประชุมระหว่างเมเนนเดซและเจ้าหน้าที่อียิปต์ โดยนักธุรกิจรายนี้ส่งข้อความหาเจ้าหน้าที่คนหนึ่งหลังจากการพบปะกับเมเนนเดซในเดือนพฤษภาคม 2018 ว่า การห้ามใช้อาวุธขนาดเล็กและกระสุนปืนในอียิปต์ได้ถูกยกเลิกแล้ว
เมเนนเดซยังถูกกล่าวหาว่า เขียนจดหมายถึงวุฒิสมาชิกอเมริกันโดยอ้างว่ามาจากเจ้าหน้าที่อียิปต์ที่เรียกร้องให้ยกเลิกการอายัดเงินช่วยเหลือ 300 ล้านดอลลาร์ของสหรัฐฯ แก่อียิปต์
ในเวลานั้น ไคโร ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของสหรัฐฯ ในตะวันออกกลาง เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯ รายใหญ่ที่สุด โดยได้รับเงินประมาณ 1.3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ระงับเงินจำนวน 195 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2017 และยกเลิกเงินอีก 65.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จนกว่าประเทศจะสามารถแสดงให้เห็นถึงการปรับปรุงบันทึกสิทธิของตนได้
นอกจากนี้ เมเนนเดซยังถูกกล่าวหาว่าใช้อิทธิพลของรัฐบาลเพื่อช่วยฮานารักษาการผูกขาดการนำเข้าเนื้อฮาลาลจากอียิปต์
หลังจากการฟ้องร้องเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กลุ่มผู้สนับสนุนประชาธิปไตยเพื่อโลกอาหรับ (DAWN) เรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของไบเดนระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดแก่อียิปต์ทันทีระหว่างรอการดำเนินคดี
“คำฟ้องอันน่าตกตะลึงของเมเนนเดซที่เปิดเผยการติดสินบนของอียิปต์เพื่อขอความช่วยเหลือทางทหารน่าจะส่งผลให้ความช่วยเหลือทั้งหมดแก่อียิปต์ถูกระงับโดยสิ้นเชิง จนกว่าทุกการสื่อสารที่อียิปต์มีกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ จะได้รับการสอบสวนอย่างละเอียดและเป็นอิสระ” ซาราห์ ลีอาห์ วิทสัน ผู้บริหารของกลุ่มผู้อำนวยการกล่าว
