หลังจากเกิดเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลอัล-อาห์ลีในเมืองกาซาซึ่งเต็มไปด้วยผู้คนหนาแน่นเมื่อวันอังคาร (17 ต.ค.) ที่ผ่านมา โดยคาดว่าคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายร้อยคน ขณะที่เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ในฉนวนกาซากล่าวโทษอิสราเอลทันทีโดยอ้างว่าเป็นการโจมตีทางอากาศ แต่อิสราเอลออกมาปฏิเสธ
ทว่าท่ามกลางการกล่าวอ้างนั้น การได้รับความจริงนั้นยากกว่า ขณะที่ BBC กำลังพยายามเปิดเผยความจริงโดยอาศัยหลักฐานจากวิดีโอ ภาพนิ่ง และหลักฐานอื่นๆ รวมถึงเรื่องราวของพยาน ถึงขนาดที่นักข่าว BBC ยังเคยไปจุดเกิดเหตุซึ่งมีการเข้าถึงอย่างจำกัดอีกด้วย
สิ่งสำคัญที่ควรทราบก็คือ ความขัดแย้งนี้ยังถือเป็นสงครามข้อมูลเช่นเดียวกับการต่อสู้ทางกายภาพ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางการอิสราเอลและฉนวนกาซารายงานเรื่องราวเหตุระเบิดที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ BBC ยังพิจารณาคำกล่าวอ้างและคำแถลงต่างๆ ของพวกเขาด้วย
หลักฐานทางวิดีโอความยาว 20 วินาทีที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นว่าเหตุระเบิดที่โรงพยาบาลเกิดขึ้นเมื่อวันอังคารเวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นหลักฐานสำคัญชิ้นแรกที่ปรากฏให้เห็นถึงเหตุการณ์ดังกล่าว
ภาพสดจากเครือข่ายสื่อ Al-Jazeera ที่ออกอากาศเมื่อเวลา 18.59 น. ตามเวลาท้องถิ่น แสดงให้เห็นแสงเจิดจ้ากำลังส่องสว่างบนท้องฟ้าเหนือฉนวนกาซา มันกะพริบ 2 ครั้งก่อนที่จะเปลี่ยนทิศทาง จากนั้นก็ระเบิด
BBC ระบุว่า เห็นการระเบิดบนพื้นที่ห่างไกล ซึ่งตามมาด้วยการระเบิดขนาดใหญ่กว่ามาก และมันใกล้กับช่างกล้อง แต่ BBC ได้ระบุตำแหน่งไว้แล้ว ขณะที่นักวิจารณ์บางคนบอกว่ามันมาจากขีปนาวุธที่ดูเหมือนจะระเบิดหรือสลายตัว นอกจากนี้ ภาพอื่นๆ ที่ปรากฏบนช่องทางโซเชียลมีเดียก็เผยให้เห็นสิ่งที่ดูเหมือนจะเป็นการระเบิดแบบเดียวกันจากมุมและระยะทางที่ต่างกันด้วย
ทั้งนี้ BBC ได้ติดต่อกับสถาบันวิจัย มหาวิทยาลัย และบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านอาวุธจำนวน 20 แห่ง พร้อมถามว่าหลักฐานที่มีอยู่ รวมถึงขนาดของการระเบิดและเสียงที่ได้ยินล่วงหน้านั้นสามารถนำมาใช้ในการระบุสาเหตุของการระเบิดในโรงพยาบาลได้หรือไม่
จนถึงขณะนี้ผลการวิจัยก็ยังไม่สามารถสรุปได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญ 3 คนที่ BBC พูดคุยด้วยกล่าวว่า “มันไม่สอดคล้องกับสิ่งที่คุณคาดหวังจากการโจมตีทางอากาศโดยทั่วไปของอิสราเอลด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดใหญ่”
เจ แอนเดรส แกนนอน ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแวนเดอร์บิลต์ในสหรัฐฯ เผยว่า “การระเบิดภาคพื้นดินดูเหมือนมีน้อย ซึ่งหมายความว่าความร้อนที่เกิดจากการกระแทกอาจเกิดจากเชื้อเพลิงขีปนาวุธที่เหลืออยู่ มากกว่าการระเบิดจากหัวรบ”
ขณะที่ จัสติน บรองค์ นักวิจัยอาวุโสของหน่วยงานด้านการป้องกันและความมั่นคง (Royal United Services Institute) ซึ่งตั้งอยู่ในสหราชอาณาจักรก็เห็นด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะเป็นเรื่องยากที่จะแน่ใจได้ในช่วงแรกๆ แต่บรองค์เผยว่า “หลักฐานดูเหมือนว่าการระเบิดมีสาเหตุมาจากส่วนขีปนาวุธที่ล้มเหลวชนเข้ากับที่จอดรถ และทำให้เกิดเพลิงไหม้และระเบิด”
ส่วน วาเลเรีย สกูโต หัวหน้านักวิเคราะห์ตะวันออกกลางที่ Sibylline ซึ่งเป็นบริษัทประเมินความเสี่ยงก็ตั้งข้อสังเกตว่า “อิสราเอลมีศักยภาพในการโจมตีทางอากาศรูปแบบอื่นๆ ด้วยโดรน ซึ่งพวกเขาอาจใช้ขีปนาวุธเฮลล์ไฟร์ (Hellfire missiles) ขีปนาวุธเหล่านี้สร้างความร้อนจำนวนมากแต่ไม่จำเป็นต้องก่อให้เกิดหลุมขนาดใหญ่เสมอไป”
เหตุระเบิดเกิดที่โรงพยาบาล?

BBC จับคู่รายละเอียดของอาคารและแผนผังของโรงพยาบาลอัล-อาห์ลีกับภาพถ่ายดาวเทียมที่เปิดเผยต่อสาธารณะเพื่อยืนยันว่าโรงพยาบาลเป็นสถานที่เกิดเหตุระเบิด
จากหลักฐานที่มีอยู่ ดูเหมือนว่าเหตุระเบิดเกิดขึ้นที่ลานภายในซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ของโรงพยาบาล ขณะที่ภาพถ่ายพื้นดินหลังเหตุระเบิดไม่ได้แสดงให้เห็นความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญต่ออาคารโรงพยาบาลโดยรอบ เพราะสิ่งที่เห็นในภาพคือ ‘รอยไหม้และรถที่ถูกไฟไหม้เท่านั้น’
ชายผู้เห็นเหตุการณ์เล่าให้ฟังว่า “ผู้หญิง เด็ก และคนชราอยู่ในโรงพยาบาลตอนที่เกิดระเบิด” ทั้งนี้ BBC ยังได้วิเคราะห์ภาพและฟุตเทจของเหยื่อเพื่อพิจารณาว่ามันสามารถบอกเกี่ยวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจากอาการบาดเจ็บของพวกเขาได้อย่างไร
สิ่งที่เรา (อาจ) ยังไม่รู้…
กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (IDF) กล่าวว่า “ตัวเลขนี้จงใจสูงเกินจริง…และองค์กรอิสระไม่สามารถเข้าถึงสถานที่เกิดเหตุ จึงเป็นเรื่องยากที่จะตรวจสอบจำนวนผู้เสียชีวิต”
แต่หลักฐานที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งคือธรรมชาติของหลุมระเบิดซึ่งถูกทิ้งไว้หลังจากการระเบิด โดย IDF กล่าวว่า “การไม่มีหลุมระเบิดขนาดใหญ่หรือความเสียหายจากแรงระเบิดต่ออาคารที่อยู่ติดกันพิสูจน์ให้เห็นว่าการระเบิดไม่ได้เกิดจากอาวุธ”
และส่วนสำคัญอีกประการหนึ่งของหลักฐานที่ขาดหายไปคือ ‘เศษขีปนาวุธ ซึ่งแนวการเคลื่อนที่มักจะระบุได้จากซากปรักหักพังของกระสุน และสามารถใช้เพื่อระบุที่มาของการเคลื่อนที่ได้ แต่ในกรณีนี้เรายังไม่เห็นหลักฐานดังกล่าว
ขณะที่ IDF ได้เผยแพร่บันทึกการสนทนาซึ่งถูกดักฟังได้ระหว่างกลุ่มติดอาวุธฮามาส 2 คนที่ทราบว่า ‘โรงพยาบาลถูกโจมตีด้วยกระสุนปืนที่ยิงโดยกองกำลังญิฮาดอิสลามปาเลสไตน์ (PIJ / กลุ่มติดอาวุธใหญ่เป็นอันดับ 2 ในฉนวนกาซา และสนับสนุนการโจมตีอิสราเอลของฮามาส)’
ทั้งนี้ ไม่สามารถตรวจสอบบันทึกการดักฟังนี้ได้ และ PIJ ก็ออกมาปฏิเสธ พร้อมกล่าวโทษอิสราเอลสำหรับเหตุระเบิดด้วย