ขณะนี้ทีมกู้ภัยต้องทำงานแข่งกับ 'เวลา' ที่เหลือน้อยกว่า 30 ชั่วโมง หลังจากนักท่องเที่ยว 5 คนหายไปพร้อมกับเรือดำน้ำที่พาไปชมซากเรือไททานิค
อ่านข่าวนี้: ลุ้นระทึก! เร่งค้นหา ‘เรือดำน้ำไททัน’ พาชมซากเรือไททานิคสูญหาย
หน่วยกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเรือดำน้ำไททันที่หายไปเข้าวันที่ 3 วัน ในมหาสมุทรแอตแลนติก และพบกับความท้าทายมากมายที่พวกเขาต้องเผชิญ
อ่านข่าวนี้: ลุ้นระทึก! เร่งค้นหา ‘เรือดำน้ำไททัน’ พาชมซากเรือไททานิคสูญหาย
หน่วยกู้ภัยกำลังเร่งค้นหาเรือดำน้ำไททันที่หายไปเข้าวันที่ 3 วัน ในมหาสมุทรแอตแลนติก และพบกับความท้าทายมากมายที่พวกเขาต้องเผชิญ

การค้นหา ‘เน้น’ ไปที่ใด?
ลูกเรือของเรือดำน้ำไททันขาดการติดต่อกับเรือบนผิวน้ำที่ชื่อว่า เจ้าชายขั้วโลก(the Polar Prince) เป็นเวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที หลังจากเริ่มดำน้ำเพื่อดูซากเรือไททานิค ที่ความลึกประมาณ 3,800 เมตรซากเรือไททานิคอยู่ห่างจากเมืองเซนต์จอห์น รัฐนิวฟันด์แลนด์ไปทางใต้ประมาณ 700 กิโลเมตร แม้ว่าภารกิจกู้ภัยกำลังดำเนินการจากเมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ หลายหน่วยงานของสหรัฐฯ และแคนาดา กองทัพเรือ และบริษัทพาณิชย์ใต้ทะเลลึกต่างช่วยเหลือปฏิบัติการกู้ภัย โดยใช้เครื่องบินทหาร เรือดำน้ำ และทุ่นโซนาร์
เจมมี่ เฟรดเดอริก จาก US Coast Guard กล่าวว่า ลูกเรือจากสหรัฐฯ และแคนาดาทำงานตลอดเวลาในระหว่างความพยายามในการค้นหาที่ซับซ้อน
ศ. อลิสแตร์ เกรก ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือดำน้ำจาก University College London กล่าวว่าปัญหาใหญ่ประการหนึ่งคือการที่นักกู้ภัยไม่รู้ว่าควรมองที่ผิวน้ำหรือก้นทะเล ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะอยู่ระหว่างนั้น
การค้นหาบนพื้นผิว
หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ (USCG) กล่าวว่า เรือ Polar Prince ซึ่งใช้ในการขนส่งเรือดำน้ำไปยังซากเรือและเป็นเรือสนับสนุนในการสำรวจนักท่องเที่ยว ได้ทำการค้นหาบนพื้นผิวน้ำในเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมา เครื่องบิน C-130 Hercules จากสหรัฐฯ และอีกลำจากแคนาดา ก็มีส่วนร่วมในการค้นหาบนพื้นผิวด้วยเช่นกันในวันเดียวกันนั้น ในช่วงเวลา 18.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ขณะนี้ได้ทำการค้นหาไปแล้วกว่า 19,683 ตารางเมตร (7,600 ตารางไมล์)แฟรงก์ โอเว่น อดีตผู้อำนวยการโครงการกู้ภัยและเรือดำน้ำของออสเตรเลีย บอกกับ BBC ว่า เรือดำน้ำอาจสามารถแจ้งเตือนหน่วยกู้ภัยได้หากสามารถขึ้นถึงผิวน้ำได้ เนื่องจากจะมีเครื่องส่งสัญญาณวิทยุ สัญญาณ GPS และจะมีแฟลชพร้อมตัวสะท้อนแสงเรดาร์ เพื่อช่วยในการระบุตำแหน่งของเรือดำน้ำ
แต่ ศ.เกรกบอกว่า มันไม่สามารถส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม และด้วยขนาดของมันมีขนาดประมาณรถตู้ขนส่งขนาดใหญ่สีขาว ดังนั้นการพยายามมองเห็นจากอากาศจะเป็นความท้าทายอย่างแท้จริง รวมถึงสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงและทัศนวิสัยที่ย่ำแย่ก็เป็นความท้าทายที่ทีมต้องเผชิญเช่นกัน
การค้นหาในมหาสมุทรลึก
อย่างไรก็ตาม หน่วยกู้ภัยยังต้องค้นหาในมหาสมุทรที่มีความลึกเกือบ 4 กม. สำหรับเรือดำน้ำไททัน ขนาดยาว 6.7 ม. เนื่องจากสัญญาณวิทยุและ GPS ไม่สามารถเดินทางผ่านน้ำได้ ด้านหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ ยืนยันว่า กำลังขยายการค้นหาไปยังน่านน้ำที่ลึกขึ้นขณะที่เครื่องบิน P3 Aurora ของแคนาดามาถึงที่เกิดเหตุเพื่อทำการค้นหาด้วยทุ่นโซนาร์** และการนำทุ่นโซนาร์ไปไว้ในพื้นที่เช่นกัน (**ทุ่นโซนาร์ เป็นอุปกรณ์ตรวจจับ และระบุวัตถุที่เคลื่อนไหวในน้ำมักจะใช้ในการตามล่าหาเรือดำน้ำของข้าศึก)
อย่างไรก็ตาม แม้ GPS จะใช้งานไม่ได้ แต่จะมีการฟังเสียงที่ออกมาจากตัวเรือ ไม่ว่าจะเป็นใบพัด และเครื่องจักรใดๆ ก็ตาม รวมถึง 'ปิง (Ping)' หรือการตรวจจับแบบแอคทีฟ และคอยฟังเสียงที่จะสะท้อนกลับมา
โอเว่นเตือนว่า การค้นหาเรือดำน้ำนี้เป็นเรื่องยากมาก เพราะมันอยู่ใต้น้ำ ด้วยขนาดของมัน และตำแหน่งที่ไปอยู่ นั่นก็คือท่ามกลางเศษซากของไททานิคอีก มันเหมือนกับการค้นหาทุ่นระเบิดในทุ่งระเบิด จึงเป็นเรื่องยากที่จะรู้ว่าอะไรคือหิน และอะไรไม่ใช่
แล้วเรือดำน้ำไททันมีเครื่องมือฉุกเฉินอะไรบ้าง?
ตามข้อมูลของ National Oceanic and Atmospheric Administration ระบุว่า เรือดำน้ำสามารถปล่อยตัวเองลงสู่มหาสมุทรจากท่าเรือได้โดยอิสระ ขณะที่เรือดำน้ำจะมีพลังงานสำรองที่ ‘จำกัด’ มาก ดังนั้นจำเป็นต้องมีเรือแม่ที่สามารถปล่อย และกู้เรือได้เมื่อปีที่แล้ว เดวิด โพค จาก CBS ของสหรัฐฯ ได้เข้าร่วมการสำรวจเรือไททานิกโดยเรือจากโอเชียน เกทต์ (OceanGate หรือเจ้าของเรือไททันนี่แหละ) และบอกว่า เรือดำน้ำมีระบบความปลอดภัยทั้งหมด 7 ระบบ ที่จะช่วยให้เรือกลับสู่ผิวน้ำได้
ท่อน้ำหนัก 3 ชิ้น
ตัวเรือจะมีท่อ 3 ท่อที่สามารถสละตัวเองออกไปได้ โดยใช้ระบบไฮดรอลิกเพื่อเพิ่มการลอยตัวของเรือ
ตุ้มน้ำหนักแบบม้วน
หากระบบไฮดรอลิกล้มเหลว กัปตันสามารถเอียงตุ้มน้ำหนักดังกล่าวเพื่อถ่ายน้ำหนักที่ยึดไว้ในแต่ละด้านได้
ถุงบัลลาสต์
สามารถใช้มอเตอร์เพื่อปลดถุงที่เต็มไปด้วยโลหะที่ห้อยอยู่ใต้เรือดำน้ำ
ฟิวซิเบิลลิงค์
สิ่งที่จะสลายตัวหลังจากผ่านไป 16 ชั่วโมงในน้ำทะเล เพื่อทำให้ถุงบัลลาสต์หล่นลงไปเอง หากระบบไฟฟ้าและระบบไฮดรอลิกล้มเหลว
ทรัสเตอร์
ปล่อยแรงดันเพื่อช่วยผลักเรือดำน้ำไปที่พื้นผิวน้ำ
ขาของเรือดำน้ำ
กัปตันสามารถทิ้งขาของเรือดำน้ำออกไปได้เช่นกันเพื่อผ่อนน้ำหนักของเรือ
ถุงลมนิรภัย
ลูกเรือสามารถขยายถุงลมนิรภัยเพื่อให้เรือลอยตัวได้
หน่วยกู้ภัยจะทำอย่างไร ถ้าเรืออยู่บนก้นทะเล?
หน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ กล่าวเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า USCG จะต้องการหน่วยงานที่เชี่ยวชาญเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือเรือจากกองทัพเรือสหรัฐฯ และภาคเอกชน จากข้อมูลของ OceanGate เรือไททันเป็นหนึ่งในเรือดำน้ำไร้คนขับเพียง 5 ลำในโลกที่สามารถเข้าถึงเรือไททานิคได้ ซึ่งอยู่ลึกลงไปใต้พื้นผิว 3,800 เมตร“หากไททันอยู่ที่ก้นทะเล และไม่สามารถกลับขึ้นมาได้ด้วยกำลังของมันเอง ทางเลือกก็มีจำกัดมาก”
ศ.เกรก กล่าวว่า เรือดำน้ำอาจยังคงไม่บุบสลาย หากอยู่ลึกกว่า 200 เมตร แน่นอนว่ามันมีเรือไม่กี่ลำที่สามารถลงไปได้ลึกขนาดนั้น และไม่ใช่คนเป็นๆ อย่างนักดำน้ำแน่นอน เรือที่ออกแบบมาสำหรับการช่วยเหลือเรือดำน้ำของกองทัพเรือเองก็ไม่สามารถลงไปได้ หากอยู่ในความลึกเดียวกับซากไททานิค
ความพยายามในการค้นหาพื้นมหาสมุทรในบริเวณนั้นอาจดำเนินการโดยยานควบคุมระยะไกลไร้คนขับ (หรือ ROV) ซึ่งในเวลานี้เรือลำอื่นที่มีความสามารถแบบ ROV กำลังเดินทางไปที่เกิดเหตุ
กองทัพเรือสหรัฐฯ มี ROV ที่สามารถปฏิบัติการในระดับความลึกนั้น และใช้มันเพื่อค้นหาและกู้เครื่องบินขับไล่ที่ตกจากความลึก 3,780 เมตร ในทะเลจีนใต้เมื่อปีที่แล้ว
เดวิด มาร์น ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้คืนมหาสมุทรกล่าวว่า หาก ROV สามารถระบุตำแหน่งไททันได้ก็จะสามารถกู้คืนได้ โดยจะต้องค่อยๆ ดึงขึ้นมาจากก้นมหาสมุทร
ศ.เกรก กล่าวว่า เรือดำน้ำอาจยังคงไม่บุบสลาย หากอยู่ลึกกว่า 200 เมตร แน่นอนว่ามันมีเรือไม่กี่ลำที่สามารถลงไปได้ลึกขนาดนั้น และไม่ใช่คนเป็นๆ อย่างนักดำน้ำแน่นอน เรือที่ออกแบบมาสำหรับการช่วยเหลือเรือดำน้ำของกองทัพเรือเองก็ไม่สามารถลงไปได้ หากอยู่ในความลึกเดียวกับซากไททานิค
ความพยายามในการค้นหาพื้นมหาสมุทรในบริเวณนั้นอาจดำเนินการโดยยานควบคุมระยะไกลไร้คนขับ (หรือ ROV) ซึ่งในเวลานี้เรือลำอื่นที่มีความสามารถแบบ ROV กำลังเดินทางไปที่เกิดเหตุ
กองทัพเรือสหรัฐฯ มี ROV ที่สามารถปฏิบัติการในระดับความลึกนั้น และใช้มันเพื่อค้นหาและกู้เครื่องบินขับไล่ที่ตกจากความลึก 3,780 เมตร ในทะเลจีนใต้เมื่อปีที่แล้ว
เดวิด มาร์น ผู้เชี่ยวชาญด้านการกู้คืนมหาสมุทรกล่าวว่า หาก ROV สามารถระบุตำแหน่งไททันได้ก็จะสามารถกู้คืนได้ โดยจะต้องค่อยๆ ดึงขึ้นมาจากก้นมหาสมุทร