ข้อหา 34 กระทงของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ บอกอะไรเราบ้าง?

5 เม.ย. 2566 - 04:41

  • โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกตั้งข้อหา จนกระทั่งถึงตอนนี้ เรารู้แล้วอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้ต้องเผชิญกับข้อหาอาญาร้ายแรง 34 กระทง ในข้อหาปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ

  • ทรัมป์ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดทางอาญา นั่นหมายถึงอาชญากรรมซึ่งอาจรวมถึงโทษจำคุกหากได้รับโทษสูงสุด

What-34-felony-charges-against-Trump-reveal-SPACEBAR-Thumbnail
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราต่างรู้ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ถูกตั้งข้อหา จนกระทั่งถึงตอนนี้ เรารู้แล้วอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้นี้ต้องเผชิญกับข้อหาทางอาญาร้ายแรง 34 กระทง ในข้อหาปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วการปลอมแปลงบันทึกจะถือว่าเป็นความผิดทางอาญาที่ไม่ร้ายแรง (misdemeanours) แต่ทรัมป์กลับถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดทางอาญาร้ายแรง (felony) ซึ่งหมายถึงการกระทำควาผิดอย่างร้ายแรงซึ่งทรัมป์อาจถูกจำคุกหากศาลพิพากษาลงโทษสูงสุด (136 ปี) 

“โดยหลักแล้ว คดีนี้ในปัจจุบันเป็นคดีที่มีข้อกล่าวหาเหมือนกับคดีคอปกขาว (White Collar Crime คือ คดีที่บุคคลรัฐ หรือเอกชนแสวงหาประโยชน์ส่วนตน) ของเราหลายคดี ข้อกล่าวหาที่ว่ามีคนโกหกครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพวกเขา และหลีกเลี่ยงกฎหมายที่เราทุกคนต้องรับผิดชอบ” อัลวิน แบรกก์ อัยการเขตนครนิวยอร์กกล่าว  

แบรกก์ โพสต์บนโซเชียลมีเดียของเขาว่า ‘ทรัมป์ซึ่งให้การว่าไม่มีความผิดต่อข้อกล่าวหาทั้งหมด ยืนกรานหลังออกจากศาลว่าไม่มีคดีให้ตอบ ไม่มีอะไรผิดกฎหมาย!’ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม คงต้องให้คณะลูกขุนเป็นผู้ตัดสิน 

ต่อไปนี้เป็นรายละเอียดของคำฟ้องคดีอาญาครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของอดีตประธานาธิบดี 

ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 34 รายการ ที่ใช้สำหรับ ‘ปิดปาก’   

ทรัมป์เผชิญ 34 ข้อหาเจตนาปลอมบันทึกทางธุรกิจ ข้อกล่าวหาทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการจ่ายเงินจำนวน 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4 ล้านบาท โดยทนายไมเคิล โคเฮน ให้กับดาราหนังโป๊ สตรอมมี่ แดเนียลส์ ก่อนการเลือกตั้งในปี 2016 เพื่อป้องกันไม่ให้เธอพูดถึงข้อกล่าวหาว่าเธอมีความสัมพันธ์กับทรัมป์ในปี 2007  

บรรทัดแรกของเอกสารที่มาพร้อมกับคำฟ้อง ระบุถึงคดีฟ้องร้อง ชื่อจำเลย โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจในนิวยอร์กซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อฉ้อฉล เพื่อปกปิดพฤติกรรมทางอาญาที่ปกปิดข้อมูลที่สร้างความเสียหายจากประชาชนที่ลงคะแนนเสียงในระหว่างการเลือกตั้ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2016 

การปกปิดข้อกล่าวหาของทรัมป์เกิดขึ้นเมื่อเขาเป็นประธานาธิบดี 

ในปี 2017 หลังจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ทรัมป์ได้พบกับโคเฮนในทำเนียบขาว หลังจากนั้นไม่นานและตลอดระยะเวลา 10 เดือน ทรัมป์เริ่มส่งเช็คจากทรัสต์ที่จัดการทรัพย์สินของเขา และต่อจากบัญชีธนาคารของเขาเองไปยังโคเฮน 

เช็คเหล่านั้นถูกบันทึกว่าเป็น ‘ค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย’ 

คำฟ้องของพนักงานอัยการระบุว่า: บันทึกการจ่ายเงินที่ Trump Organization เก็บรักษาและดูแลเป็นบันทึกธุรกิจปลอมในนิวยอร์ก ความจริงแล้วไม่มีข้อตกลงการว่าจ้าง  และทนายความ A (โคเฮน) ไม่ได้รับค่าจ้างสำหรับบริการด้านกฎหมายที่ให้บริการในปี 2017 จำเลยทำให้บันทึกทางธุรกิจของบริษัทของตัวเองถูกปลอมแปลงเพื่อปกปิดการกระทำผิดทางอาญาของเขาและของผู้อื่น 

จากคดีอาญษเล็กน้อยสู่คดีอาญาร้ายแรง 

แบรกก์อ้างว่า ทรัมป์ปลอมแปลงลักษณะที่แท้จริงของการจ่ายเงิน เพราะการจ่ายเงินเหล่านั้นสนับสนุนการก่ออาชญากรรม แม้ว่าการจ่ายเงินเพื่อปิดปากจะไม่ผิดกฎหมายในตัวของมันเอง แต่การใช้จ่ายเงินเพื่อช่วยการหาเสียงของประธานาธิบดีแต่ไม่เปิดเผยถือเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายการเงินการหาเสียงของรัฐบาลกลาง 

โคเฮนถูกตัดสินว่ามีความผิดเพียงเพราะไม่เปิดเผยการชำระเงินของเขาต่อแดเนียลส์ แบรกก์ยืนยันว่าทรัมป์มีส่วนพัวพันกับการก่ออาชญากรรมดังกล่าว เพราะทรัมป์จ่ายเงินก้อนดังกล่าวคืนให้กับโคเฮน และนั่นทำให้การปลอมแปลงบันทึกทางธุรกิจของเขากลายเป็นความผิดร้ายแรง 

ฝ่ายปกป้องทรัมป์โต้แย้งว่าเป็นการตีความเกินขอบเขตของกฎหมาย และเป็นการดำเนินคดีที่มีแรงจูงใจทางการเมือง 

รูปแบบพฤติกรรมอาชญากร 

แบรกก์อ้างถึงอีก 2 ตัวอย่างของการจ่ายเงินเพื่อปิดปากที่เกี่ยวข้องกับการหาเสียงของทรัมป์ เขากล่าวว่าการจ่ายเงินเหล่านี้สนับสนุนคดีฟ้องร้องที่ทรัมป์รู้ว่าการจ่ายเงินให้โคเฮนเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่ผิดกฎหมายที่จะมีอิทธิพลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์