ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ เป็นที่แน่ชัดแล้ว นั่นก็คือ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จากพรรครีพับลิกัน หลังชนะเลือกตั้งทั้งคะแนน Popular vote และคะแนน Electoral vote ทว่าการกลับมานั่งเก้าอี้ผู้นำอีกครั้งของทรัมป์กลับมีคำถามตามมามากมายถึงทิศทางการดำเนินนโยบายที่กระทบทั่วโลก แน่นอนว่า ‘คดีความทางอาญา 34 คดี’ (ถูกตัดสินว่ามีความผิด) ของเขาก็ถูกพูดถึงด้วยว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป? เขาจะต้องติดคุกไหม? หรือจะพ้นผิดไปโดยปริยาย?
ทรัมป์จะเป็นประธานาธิบดีคนแรกในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ที่จะเข้ารับตำแหน่งในขณะที่มีคดีอาญาติดตัวหลายสิบกระทงและอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีถึง 4 คดี และตอนนี้ชัยชนะของเขาแทบจะรับประกันได้เลยว่าเขาจะไม่ต้องเผชิญความรับผิดทางกฎหมายที่ร้ายแรงจากการกระทำผิดที่ถูกกล่าวหา
ชัยชนะของทรัมป์อาจทำให้ตัวเขาเองพ้นจากคดีอาญาในอนาคตอันใกล้นี้
“หากมองข้ามเรื่องการเมืองไปแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่ทรัมป์ต้องเผชิญในทางกฎหมาย”
นีอามา ราห์มานี อดีตอัยการสหพันธ์ คาดการณ์ในช่วงเช้าของวันเลือกตั้ง (5 พ.ย.)
และนี่คือสิ่งที่อาจเกิดขึ้น...

-ทรัมป์ อาจยังไม่ติดคุกจากคดีจ่ายเงินปิดปากดาราหนังโป๊-
เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ทรัมป์ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานปลอมแปลงเอกสารทางธุรกิจ 34 กระทง หลังปลอมแปลงเอกสารเพื่อปกปิดการจ่ายเงินปิดปากมูลค่า 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.4 ล้านบาท) ให้กับ สตอร์มี แดเนียลส์ ดาราหนังโป๊
เดิมทีการพิพากษาโทษของทรัมป์กำหนดไว้ในวันที่ 11 กรกฎาคม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะศาลฏีกาตัดสินว่าทรัมป์ได้รับการคุ้มครองอย่างสมบูรณ์จากการถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับ ‘การกระทำอย่างเป็นทางการในขณะดำรงตำแหน่ง’ และถูกเลื่อนออกไปอีกครั้งมีกำหนดเป็นวันที่ 26 พฤศจิกายนนี้
แม้ว่าทรัมป์จะได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้ง แต่ผู้พิพากษา ฮวน เมอร์แชน ก็ยังคงสามารถดำเนินการพิพากษาตามแผนเดิมได้ ถึงกระนั้นก็ “ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่ทรัมป์จะถูกตัดสินจำคุกในฐานะผู้กระทำผิดครั้งแรก...” ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย กล่าว
หากเป็นเช่นนั้น ทนายความของทรัมป์จะอุทธรณ์คำพิพากษาทันที โดยให้เหตุผลว่าโทษจำคุกจะทำให้เขาไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ และเขาควรได้รับอิสรภาพในระหว่างพิจารณาอุทธรณ์ “กระบวนการอุทธรณ์ในสถานการณ์เช่นนั้นอาจใช้เวลานานหลายปี” จูลี เรนเดลแมน อดีตอัยการเขตบรู๊คลิน กล่าว
และถึงว่าแม้ผู้พิพากษาเมอร์แชนจะไม่ตัดสินโทษจำคุก แต่อาจสั่งขังในบ้าน หรือทำงานบริการชุมชนแทน ทนายความของทรัมป์ก็จะพยายามยืดเวลาออกไปเหมือนเดิม โดยให้เหตุผลว่าหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญควรป้องกันไม่ให้ประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งหรือประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งถูกลงโทษใดๆ
-อัยการพิเศษ ‘แจ็ค สมิธ’ ที่ฟ้องทรัมป์คดีอาญาอาจถูกไล่ออก-

เมื่อปีที่แล้ว แจ็ค สมิธ ยื่นฟ้องทรัมป์ในคดีอาญาข้อกล่าวหาพยายามพลิกผลการเลือกตั้งในปี 2020 ซึ่งทรัมป์ให้การปฏิเสธ อีกทั้งคดีนี้ยังอยู่ในสถานะที่ไม่แน่นอนทางกฎหมายนับตั้งแต่ศาลฎีกาตัดสินเมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาว่า ทรัมป์ได้รับการคุ้มครองจากการถูกดำเนินคดีในเคสที่เขากระทำขณะดำรงตำแหน่ง แต่หลังจากนั้นในเดือนสิงหาคม สมิธก็ได้ยื่นฟ้องใหม่อีกครั้ง
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาว่าทรัมป์เป็นผู้ชนะ ก็มีแนวโน้มว่า คดีความของเขาจะสิ้นสุดลงได้
“เป็นที่ยอมรับกันดีอยู่แล้วว่าประธานาธิบดีที่อยู่ในตำแหน่งจะไม่สามารถถูกดำเนินคดีได้ ดังนั้นคดีทุจริตการเลือกตั้งในศาลแขวงเขตโคลัมเบียอาจถูกยกฟ้อง”
ราห์มานี กล่าว
หากสมิธปฏิเสธที่จะยกฟ้อง ทรัมป์ก็สามารถกำจัดสมิธออกไปได้ง่ายๆ อย่างที่เขาเคยพูดไว้ว่า “ผมจะไล่เขาออกภายใน 2 วินาที”
-คดีเอกสารลับที่อัยการสมิธยื่นฟ้องอาจ ‘ถูกยกฟ้อง’-
คดีนี้เป็นอีกหนึ่งคดีที่สมิธยื่นฟ้องทรัมป์ในข้อกล่าวหาจัดการเอกสารลับไว้ที่บ้านของเขาที่มาร์อาลาโก หลังจากที่ออกจากตำแหน่งในเดือนมกราคม 2021 และขัดขวางความพยายามของกระทรวงยุติธรรมในการค้นหาเอกสารเหล่านั้นกลับคืนมา
ไอลีน แคนนอน ผู้พิพากษาซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากทรัมป์ ได้รับมอบหมายให้ตัดสินคดีนี้ ก็ได้ยกฟ้องคดีในเดือนกรกฎาคม โดยให้เหตุผลว่า สมิธได้รับการแต่งตั้งอย่างไม่เหมาะสมจากกระทรวงยุติธรรมให้เป็นผู้นำคดีนี้ แต่สมิธอุทธรณ์คำตัดสิน
ทั้งนี้คาดว่าหากทรัมป์เตรียมเข้ารับตำแหน่งก็จะนำไปสู่การเจรจายุติคดี คดีเอกสารลับอาจต้องยกฟ้องเหมือนกับคดีการเลือกตั้ง “หากทรัมป์ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ก็เป็นไปได้โดยปริยายว่าอัยการสูงสุดของเขาและกระทรวงยุติธรรมชุดใหม่จะยกฟ้องคดีที่สมิธอัยการพิเศษยื่นฟ้อง” ริกกี ไคลแมน นักวิเคราะห์กฎหมายของสำนักข่าว CBS News กล่าว
-คดีแทรกแซงการเลือกตั้งในจอร์เจียก็ ‘อาจถูกยกฟ้อง’ ด้วยเหมือนกัน-
คดีแทรกแซงการเลือกตั้งปี 2020 ของเทศมณฑลฟุลตันเคาน์ตี้ รัฐจอร์เจีย เป็นอีกหนึ่งคดีอาญาที่ทรัมป์ต้องเผชิญ หลังจากที่ ฟานี วิลลิส อัยการเขตฟุลตันเคาน์ตี้ ยื่นฟ้องเมื่อเดือนสิงหาคม 2023 เช่นเดียวกับสมิธ ซึ่งกล่าวหาทรัมป์ว่าพยายามโค่นล้มการเลือกตั้งในปี 2020โดยสมคบคิดเพื่อทุจริตกระบวนการรับรองของจอร์เจีย
ทนายความของทรัมป์และจำเลยร่วมอีก 18 คนของเขาโต้แย้งว่าวิลลิสมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในคดีนี้เนื่องจากเธอไม่ได้รับผลประโยชน์อย่างเหมาะสมจากความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นาธาน เวด ทนายความจากแอตแลนตาที่เธอจ้างมาเป็นอัยการพิเศษ
แต่ตอนนี้ที่ทรัมป์กำลังจะดำรงประธานาธิบดีคนต่อไป ก็อาจทำให้คดีนี้ล่าช้าออกไปอีก หรืออาจถูกยกฟ้องก็ได้ “การดำเนินการดังกล่าวจะถูกระงับในระหว่างที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง” ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายคาดการณ์
ขณะที่ผู้พิพากษาถามว่า “หากทรัมป์ได้รับเลือก ทรัมป์ยังสามารถขึ้นศาลได้หรือไม่?”
“คำตอบก็คือ ผมเชื่อว่าภายใต้หลักการอำนาจสูงสุดและหน้าที่ของเขาในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐฯ การพิจารณาคดีนี้จะไม่เกิดขึ้นเลยจนกว่าเขาจะพ้นจากตำแหน่ง” สตีฟ ซาโดว์ ทนายความของทรัมป์ ตอบคำถาม
Photo by KAMIL KRZACZYNSKI / AFP