เราทุกคนต่างรู้กันดีว่า ‘ออกซิเจน’ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต เพราะ 21% ของชั้นบรรยากาศโลกเป็นก๊าซออกซิเจนไงล่ะ ส่วนที่เหลืออีก 78% เป็นก๊าซไนโตรเจน และ 1% เป็นก๊าซอาร์กอน แม้ว่าออกซิเจนจะไม่ใช่ก๊าซที่มีมากที่สุดในชั้นบรรยากาศของเรา แต่ก็ถือเป็นก๊าซที่สำคัญที่สุดที่หากขาดออกซิเจนไปก็คงจะทำให้ พืช สัตว์ น้ำ สิ่งมีชีวิตอื่นๆ และมนุษย์อย่างเราอยู่ไม่ได้ในทุกวันนี้และตายในที่สุด
นอกจากนี้เปลือกโลกยังประกอบด้วยก๊าซออกซิเจนมากที่สุดอีกด้วยคิดเป็น 46.6% ของเปลือกโลก ส่วนออกซิเจนในร่างกายของเราคิดเป็น 65% ของร่างกายมนุษย์
ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าออกซิเจนทั้งหมดของโลกหายไป ไม่ใช่ตลอดกาลนะ ‘แต่แค่ 5 วินาที’ อาจฟังดูเหมือนน้อยไม่มีอะไร แต่มันจะเกิดขึ้นเร็วเกินกว่าที่ร่างกายของคุณจะสังเกตเห็นได้ แม้การหายใจของคุณจะยังคงเป็นปกติก็ตาม แต่สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกล่ะ? มันจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกนะ? ชั้นบรรยากาศจะเป็นยังไง? ตัวเรา พืช และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ล่ะจะได้รับผลกระทบอะไรไหม?
นี่คือสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากโลกสูญเสียออกซิเจนไปเพียงแค่ 5 วินาที
ท้องฟ้าในตอนกลางวันจะ ‘มืด’ ลง
ท้องฟ้าจะกลายเป็น ‘สีดำ’ ในทันที เนื่องจากสีฟ้าของท้องฟ้าเกิดจากการมีโอโซนในบรรยากาศชั้นบนซึ่งประกอบด้วยออกซิเจน เพราะก่อนที่แสงจากดวงอาทิตย์จะตกกระทบมายังพื้นโลก มันจะสะท้อนอนุภาคหลายตัว (ฝุ่น โมเลกุลออกซิเจน สิ่งเจือปนอื่นๆ ในอากาศ) ในอากาศ ซึ่งการไม่มีออกซิเจนนั้นหมายความว่าแสงจะสะท้อนผ่านอนุภาคได้น้อยลง ดังนั้นท้องฟ้าจึงดูมืดเกือบดำจริงๆ
นอกจากนี้ ชั้นโอโซนจะหายไป ทำให้รังสีที่เป็นอันตรายของดวงอาทิตย์เข้ามายังโลก และเราจะถูกแดดเผา แต่ที่แย่ไปกว่านั้นมันจะเกิดการทำลายล้างขึ้น
เปลือกโลก-โครงสร้างทุกอย่างพังทลาย!
โลกเบื้องล่างของเราจะไม่เพียงแค่แตกร้าว แต่ยังกลายเป็นฝุ่น จนไม่มีผืนดินให้เรายืนหยัดได้ เพราะออกซิเจนเป็นองค์ประกอบหลักของเปลือกโลกถึง 46.6% ดังนั้นหากขาดองค์ประกอบหลักไป โลกเบื้องล่างของเราก็จะสูญสลาย เราจะเริ่มตกลงสู่แกนกลางของโลก
ตึกระฟ้าทั้งหมดที่เราสร้าง รวมถึงโครงสร้างที่ทำจากคอนกรีตก็จะพังทลายลงทันที เนื่องจากออกซิเจนเป็นสารยึดเกาะที่สำคัญในโครงสร้างคอนกรีต หากไม่มีออกซิเจน สารประกอบก็จะไม่คงความแข็งไว้ และโครงสร้างทั้งหมดนี้ก็จะพังทลายเหมือนทรายแห้ง
ยานพาหนะเชื้อเพลิงทุกชนิดจะ ‘หยุดทำงาน’
รถยนต์ทุกคัน หรือ เครื่องจักรที่ใช้เชื้อเพลิงประเภทใดก็ตามที่ต้องอาศัยเครื่องยนต์สันดาปภายใน (ทุกอย่างยกเว้นรถยนต์ไฟฟ้า) จะหยุดทำงานในทันทีเนื่องจากไม่มีออกซิเจนสำหรับกระบวนการเผาไหม้ แน่นอนว่าพอรถทุกคันหยุดกะทันหันก็อาจส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุจำนวนมาก
การขนส่งรูปแบบใดก็ตามที่ไม่ใช้ไฟฟ้าจะล้มเหลวโดยอัตโนมัติ อีกทั้งเครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ หรือแม้กระทั่งกระสวยอวกาศก็จะสูญเสียการควบคุมจนตกลงมาจากท้องฟ้า และไม่ว่าไฟจะลุกอยู่ที่ใดในโลก ไฟก็จะดับทันที
มหาสมุทรและแหล่งน้ำอื่นๆ จะเริ่มระเหยสู่อวกาศ
น้ำประกอบด้วย 2 องค์ประกอบหลัก ได้แก่
- ไฮโดรเจน 2 อะตอม
- ออกซิเจน 1 อะตอม
หากไม่มีออกซิเจน 33% น้ำก็จะกลายเป็นก๊าซไฮโดรเจนอิสระ ซึ่งเป็นก๊าซที่เบาที่สุดในบรรดาก๊าซทั้งหมด และจะลอยขึ้นสู่ชั้นโทรโพสเฟียร์ตอนบนและค่อยๆ ระเหยขึ้นสู่อวกาศ ดังนั้น มีความเป็นไปได้ว่าโลกของเราในเวลานั้นอาจเป็นดาวเคราะห์ในจักรวาลเพียงแห่งเดียวที่กลายเป็นทะเลทรายเพราะน้ำระเหยขึ้นไปหมด
‘แก้วหู’ ของทุกคนจะแตก…
หากสูญเสียออกซิเจนไป 5 วินาที เราจะสูญเสียความกดอากาศประมาณ 21% ไปในทันที ซึ่งคล้ายกับการกระโดดจากระดับน้ำทะเลเกือบ 2,000 เมตร เราจะประสบกับสิ่งที่เรียกว่า ‘บาโรทรามา’ (barotrauma) อาการบาดเจ็บที่เกิดจากความล้มเหลวในการปรับความดันของพื้นที่ที่มีอากาศให้เท่ากันกับสภาพแวดล้อมโดยรอบ
‘บาโรทรามา’ มักเกิดขึ้นเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงความดันกะทันหัน ตัวอย่างเช่น ระหว่างการดำน้ำลึกหรือการเดินทางทางอากาศ ทำให้รู้สึกราวกับว่าหูของเราอุดตัน หากไม่มีออกซิเจน เราก็จะประสบเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ผลข้างเคียงจะหนักกว่าถึงขั้น ‘สูญเสียการได้ยินอย่างรุนแรง’ และในไม่ช้าเราทุกคนจะสูญเสียประสาทสัมผัสทั้ง 5 ไปด้วยเช่นกัน
เมื่อรู้เช่นนี้แล้วเราคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้กับโลกของเราแน่ๆ เพราะในเวลาเพียงแค่ 5 วินาทีเท่านั้นที่ขาด ‘ออกซิเจน’ ไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็เหมือนกับจะดับสูญไปทันควัน แต่เรารักษาให้ก๊าซออกซิเจนอยู่กับโลกได้นานๆ ด้วยการลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ ปลูกต้นไม้ รักษาป่า เป็นต้น
เพราะออกซิเจนสำคัญต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคุณในระยะยาวนะ!
