เหตุกราดยิงใจกลางรัสเซียในงานแสดงคอนเสิร์ตวงดนตรีร็อค ‘ปิคนิค’ (Picnic) ที่โครคัสซิตี้ฮอล์ (Crocus City Hall) กรุงมอสโกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 133 ราย และบาดเจ็บกว่า 145 ราย ได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วโลกถึงความโหดร้ายท่ามกลางสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่กำลังดำเนินไปอย่างไม่รู้จบ
ทางการรัสเซียรายงานว่ามือปืน 11 คนถูกจับกุมแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง ‘ผู้ก่อการร้าย’ 4 คนที่ทำการโจมตีดังกล่าว ขณะเดียวกันกลุ่มก่อการร้ายไอซิสเค (ISIS-K) ก็ออกมาอ้างว่ากราดยิงครั้งนี้เป็นฝีมือของพวกเขาเอง
แล้ว ‘ISIS-K’ คือใคร? SPACEBAR จะพาไปทำความรู้จัก และเปิดเหตุผลที่ว่าทำไมกลุ่มนี้ต้องโจมตี ‘รัสเซีย’ ด้วย?
กลุ่มก่อการร้าย ‘ISIS-K’ คือใคร?
กลุ่มรัฐอิสลามโคราซาน (ISIS-K) หรือที่รู้จักในชื่อ ‘ไอซิสเค’ หรือ ‘ISKP’ (Islamic State in Khorasan Province) ตั้งชื่อตามคำเก่าที่ใช้เรียกภูมิภาคนี้ซึ่งรวมถึงบางส่วนของอิหร่าน เติร์กเมนิสถาน และอัฟกานิสถาน กำเนิดขึ้นในอัฟกานิสถานตะวันออกเมื่อปลายปี 2014 ประกอบด้วยนักรบที่แยกตัวออกจากกลุ่มตอลิบานในปากีสถาน และนักรบในท้องถิ่นที่ให้คำมั่นว่าจะจงรักภักดีต่อ ‘อาบู บักร์ อัล-บักดาดี’ ผู้นำกลุ่มไอเอสผู้ล่วงลับ
ตั้งแต่นั้นมา ‘ISIS-K’ เป็นที่เลื่องลืออันน่าหวาดกลัวจากการกระทำที่ ‘โหดร้ายสุดขั้ว’
แม้ว่ากลุ่มนี้จะมีจำนวนสมาชิกลดลงตั้งแต่ปี 2018 แต่ยังคงเป็นหนึ่งในกลุ่มพันธมิตรระดับภูมิภาคที่ปฏิบัติการแข็งแกร่งมากที่สุดของกลุ่มรัฐอิสลาม
สหรัฐฯ มองว่ากลุ่มนี้เป็น ‘ภัยคุกคาม’ โดยสภาคองเกรสบอกเมื่อเดือนมีนาคม 2023 ว่า “ ‘ISIS-K’ กำลังพัฒนาความสามารถในการดำเนินการ ‘ปฏิบัติการภายนอก’ ในยุโรปและเอเชีย”
พล.อ.ไมเคิล คูริลลา ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า
“กลุ่มนี้สามารถโจมตีผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกนอกอัฟกานิสถานได้ในเวลาเพียง 6 เดือนโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้าหรือแทบไม่มีเลย”
ขณะที่ มูรัต อัสลาน นักวิเคราะห์ทางทหารและอดีตพันเอกกองทัพตุรกีบอกกับสำนักข่าว Al Jazeera ว่า “กลุ่มพันธมิตร ‘ISIS-K’ ในอัฟกานิสถานขึ้นชื่อในเรื่อง ‘วิธีการที่รุนแรงและโหดร้าย”
“ผมคิดว่าอุดมการณ์ของพวกเขาเป็นแรงบันดาลใจในการเลือกเป้าหมาย ก่อนอื่นเลย รัสเซียอยู่ในซีเรียและต่อสู้กับกลุ่มไอเอส เช่นเดียวกับสหรัฐฯ นั่นหมายความว่าพวกเขามองว่าประเทศเหล่านี้เป็นศัตรู…ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่มอสโกแล้ว ก่อนหน้านี้พวกเขาอยู่ในอิหร่าน และเราจะได้เห็นการโจมตีมากขึ้น อาจจะเป็นในเมืองหลวงอื่นๆ”
อัสลานกล่าวเสริม
การโจมตีครั้งก่อนๆ ของ ‘ISIS-K’
- พฤษภาคม 2020 กลุ่ม ‘ISIS-K’ ถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุโจมตีนองเลือดที่แผนกสูติกรรมแห่งหนึ่งในกรุงคาบูล ทำให้มีผู้เสียชีวิต 24 ราย รวมถึงผู้หญิงและทารก
- ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกันนั้น กลุ่มนี้ยังได้โจมตีมหาวิทยาลัยคาบูล ส่งผลให้ครูและนักศึกษาเสียชีวิตอย่างน้อย 22 ราย
- ปี 2021 นักรบ ‘ISIS-K’ ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีนอกสนามบินคาบูล อัฟกานิสถาน เป็นเหตุให้พลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 175 ราย ทหารสหรัฐฯ เสียชีวิต 13 ราย และบาดเจ็บอีกหลายสิบราย
- กันยายน 2022 ‘ISIS-K’ อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่สถานทูตรัสเซียในกรุงคาบูล
- เมื่อปีที่แล้ว อิหร่านกล่าวโทษกลุ่ม ‘ISIS-K’ ว่าทำการโจมตี ‘ชอฮ์แชรอซ’ (Shah Cheragh) มัสยิดใหญ่ทางตอนใต้ของชีรอซ 2 ครั้ง ชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 14 รายและบาดเจ็บมากกว่า 40 ราย
- มกราคม 2024 สหรัฐฯ อ้างว่าได้ขัดขวางการสื่อสารที่ยืนยันว่ากลุ่ม ‘ISIS-K’ กำลังเตรียมโจมตีก่อนที่จะร่วมกันวางระเบิดฆ่าตัวตายในอิหร่าน คร่าชีวิตผู้คนไปเกือบ 100 รายในเมืองเคอร์มานทางตะวันออกเฉียงใต้ของอิหร่าน และ ‘ISIS-K’ ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว
- เปิดไทม์ไลน์ตั้งแต่ปี 1999 กรุงมอสโกเคยตกเป็นเป้าโจมตีเกือบ 10 ครั้ง
ทำไมต้องโจมตีรัสเซีย?
นักวิเคราะห์ด้านกลาโหมและความมั่นคงกล่าวว่า “ ‘ISIS-K’ มุ่งเป้าการทำสงครามโฆษณาชวนเชื่อต่อประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ โดยกล่าวหารัสเซียว่ากดขี่ชาวมุสลิม”
“นโยบายต่างประเทศของรัสเซียเป็นหนึ่งในสัญญาณอันตรายใหญ่สำหรับ ‘ISIS’...การรุกรานอัฟกานิสถานของสหภาพโซเวียตในอดีต การกระทำของรัสเซียในเชชเนีย ความสัมพันธ์ใกล้ชิดของมอสโกกับรัฐบาลซีเรียและอิหร่าน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการรณรงค์ทางทหารที่รัสเซียได้ดำเนินการต่อสู้กับนักรบ ISIS ในซีเรีย ตลอดจนการรับจ้างกลุ่มนักรบวากเนอร์ในบางส่วนของแอฟริกา” ไมเคิล คูเกลแมนผู้อำนวยการสถาบันเอเชียใต้ที่สถาบันวิจัยวิลสันเซนเตอร์ (Wilson Center) ในวอชิงตันบอกกับ Al Jazeera
“ทั้งหมดทั้งมวลนี้จึงหมายความว่า ‘มอสโก’ ได้กลายเป็นจุดสนใจของ ‘สงครามโฆษณาชวนเชื่อที่กว้างขวาง’ ของ ‘ISIS-K’ ” อามีรา จาดูน ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยเคลมสัน ในเซาท์แคโรไลนากล่าว
“การมีส่วนร่วมของรัสเซียในการต่อสู้กับ ‘ISIS’ และบริษัทในเครือทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านการปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย และความพยายามในการสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มตอลิบานในอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นคู่แข่งของ ‘ISIS-K’ ได้ทำการหมายหัวว่า ‘รัสเซียเป็นศัตรูเบอร์สำคัญของ ‘ISIS-K’ ”
จาดูนบอกกับ Al Jazeera
“การโจมตีที่มอสโกมีสาเหตุมาจาก ‘ISIS-K’ อย่างแน่นอน กลุ่มนี้หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนและพัฒนาเป้าหมายของตัวเองในการเป็นองค์กรก่อการร้ายที่มีอิทธิพลระดับโลก โดยการแสดงให้เห็นว่าพวกเขาสามารถโจมตีภายในดินแดนรัสเซียได้”
“ ‘ISIS-K’ แสดงให้เห็นอย่างต่อเนื่องถึงความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาไปสู่องค์กรระดับภูมิภาคที่น่าเกรงขาม … ด้วยการกำกับการรุกรานต่อประเทศต่างๆ เช่น อิหร่านและรัสเซีย ‘ISIS-K’ ไม่เพียงแต่เผชิญหน้ากับกลุ่มใหญ่ในภูมิภาคเท่านั้น แต่ยังตอกย้ำความเกี่ยวข้องทางการเมืองและการเข้าถึงการปฏิบัติการในเวทีโลกด้วย” จาดูนเสริม
นอกจากนี้ กาบีร์ ตาเนจา จากโครงการศึกษาเชิงยุทธศาสตร์ของมูลนิธิวิจัยผู้สังเกตการณ์ ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองในกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย บอกกับ Al Jazeera ว่า “ISIS-K และกลุ่มอื่นๆ ในเครือมองว่า ‘รัสเซียเป็นมหาอำนาจที่ต่อต้านมุสลิม…รัสเซียตกเป็นเป้าของ ‘ISIS’…”
“แรงจูงใจที่น่าสนใจที่สุดในปัจจุบันสำหรับ ‘ISIS-K’ ในการโจมตีรัสเซียคือ ‘ปัจจัยตอลิบาน’ ซึ่งกลุ่มตอลิบานเป็นคู่แข่งอันขมขื่นของ ‘ISIS’ และ ‘ISIS’ มองว่ารัสเซียเป็นเพื่อนของกลุ่มตอลิบาน” คูเกลแมนกล่าว
ตาเนจาเสริมว่า “ความสัมพันธ์ใกล้ชิดของมอสโกกับอิสราเอลยังเป็นการดูหมิ่นอุดมการณ์ของ ‘ISIS-K’ ความขัดแย้งนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในเชิงอุดมการณ์ แต่เป็นเชิงกลยุทธ์”
“ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งเช่นกัน กลุ่มติดอาวุธนี้อยู่ห่างจากความสนใจของโลกไปมาก และได้รวมกลุ่มใหม่เป็นกองกำลังที่น่าเกรงขามหลังจากพ่ายแพ้ในซีเรียและอิหร่าน…‘ISIS-K’ ในอัฟกานิสถานแข็งแกร่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ…และไม่ใช่แค่ ‘ISIS-K เท่านั้น ‘ISIS’ ในภูมิภาคปฏิบัติการดั้งเดิมอย่างซีเรียและอิรักก็มองเห็นความสามารถในการปฏิบัติการเพิ่มขึ้นเช่นกัน”
“นั่นถือเป็นความท้าทายสำหรับโลกที่กำลังตื่นระหนก”
“วิธีต่อสู้กับสิ่งนี้ถือเป็นคำถามใหญ่ในช่วงเวลาที่การแข่งขันของมหาอำนาจและความปั่นป่วนทางภูมิรัฐศาสตร์โลกได้ส่งผลกระทบต่อการต่อต้านการก่อการร้าย” ตาเนจากล่าว
Photo by STRINGER / AFP