เปิดตำนานปฏิบัติการบุกชิงตัวประกัน ‘เอนเทบเบ’ ของอิสราเอล

ท่ามกลางการสู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสที่ยังดุเดือด ตัวประกันทั้งหมารและพลเรือนในอิสราเอล รวมทั้งแรงงานไทยหลายร้อยคนตกไปอยู่ในมือกลุ่มฮามาส หลายฝ่ายกำลังจับตาดูว่าอิสราเอลจะแก้วิกฤตตัวประกันครั้งนี้อย่างไร แต่ก่อนหน้านี้ภารกิจบุกชิงตัวประกันของอิสราเอลสะเทือนโลกและสร้างชื่อให้อิสราเอล จนถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ที่ระทึกไม่แพ้เรื่องจริงอย่าง ‘7 Days in Entebbe’ 

ปฏิบัติการที่ว่านี้คือ ‘ปฏิบัติการเอนเทบเบ’ (Operation Entebbe) เป็นชื่อเรียกอย่างเป็นทางการของปฏิบัติการธันเดอร์โบลต์ เป็นภารกิจช่วยเหลือตัวประกันโดยหน่วยคอมมานโดของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล (Israel Defense Forces – IDF) ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในสนามบินเอนเทบเบ ประเทศยูกันดา เมื่อวันที่ 4 ก.ค.ในปี 1976

เครื่องบินของสายการบินแอร์ฟรานซ์ (Air France) ที่บรรทุกผู้โดยสาร 250 คนจากเทลอาวีฟไปปารีส ถูกผู้ก่อการร้ายจี้กลางอากาศ (Hijacked) โดยผู้ก่อการร้ายพาตัวประกันไปยังอาคารสนามบินร้าง และแยกตัวชาวอิสราเอล และชาวยิวที่ไม่ใช่ชาวอิสราเอลออกจากกลุ่มตัวประกัน หลังจากนั้น 2 วัน ตัวประกันที่ไม่ใช่ชาวอิสราเอล 148 คน ได้รับการปล่อยตัว และตัวประกัน 94 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวอิสราเอล พร้อมด้วยลูกเรือแอร์ฟรานซ์ 12 คนยังคงถูกจับเป็นตัวประกัน

เหตุการณ์นี้กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์จนถูกนำไปสร้างภาพยนตร์เรื่อง ‘7 Days in Entebbe’ โดยผู้กำกับ โจเซ่ พาดิลฮา (José Padilha) 

ย้อนรอยเหตุการณ์ระทึกขวัญในประวัติศาตร์  

การปฏิบัติภารกิจชิงตัวประกันกินเวลากว่า 90 นาที และเกิดขึ้นกลางดึก ขณะที่เครื่องบินขนส่งของอิสราเอลบรรทุกหน่วยคอมมานโด 100 หน่วยไปยังยูกันดาเพื่อทำการช่วยเหลือ   

ทีมจู่โจมของอิสราเอลลงจอดที่สนามบินและเข้าใกล้อาคารผู้โดยสารอย่างรวดเร็ว ตัวประกันถูกขังไว้ในห้องโถงใหญ่ของอาคารสนามบิน ซึ่งอยู่ติดกับรันเวย์ เมื่อเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร หน่วยคอมมานโดก็ตะโกนผ่านโทรโข่งว่า “หมอบลง! หมอบลง! นี่คือทหารอิสราเอล” ในภาษาฮีบรู และภาษาอังกฤษ จากนั้นหน่วยคอมมานโดจึงบุกเข้าไปในห้องและวิสามัญผู้ก่อการร้ายที่เหลือ

ปฏิบัติดังกล่าวมีหน่วยคอมมานโด 5 คนได้รับบาดเจ็บ โยนาทัน เนทันยาฮู ผู้บัญชาการหน่วยอิสราเอล และยังเป็นน้องชายของนายกรัฐมนตรีอิสราเอลคนปัจจุบัน เบนจามิน เนทันยาฮู เสียชีวิต อีกทั้งตัวประกันเสียชีวิตรวม 3 ราย และทหารยูกันดาประมาณ 45 นายถูกสังหาร 

จากตัวประกัน 106 คน มีผู้เสียชีวิต 3 คน หนึ่งคนถูกทิ้งไว้ที่ยูกันดาเพื่อรับการรักษา (โดรา โบลช อายุ 74 ปี) และบาดเจ็บ 10 คน ตัวประกันที่ได้รับการช่วยเหลือ 102 คนถูกส่งไปยังอิสราเอลผ่านไนโรบี ประเทศเคนยา ไม่นานหลังจากการจู่โจม

นับเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์อิสราเอล ปฏิบัติการที่กล้าหาญอย่างเอนเทบบี (ภายหลังเรียกว่า ปฏิบัติการโยนาทัน เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ผบ.ที่เสียชีวิต) ช่วยเพิ่มขวัญกำลังใจให้กับประเทศชาติที่ยังคงสั่นคลอนจากการโจมตีของสงครามยมคิปปูร์ (ในสมัยนั้น)  

จนกระทั่งในเดือนสิงหาคม ปี 2012 อิสราเอลและยูกันดาร่วมกันรำลึกถึงการโจมตีที่สนามบินเอนเทบเบ(เก่า) ซึ่งเป็นที่ที่โยนาทันเสียชีวิต  

ขณะที่โศกนาฏกรรมนี้เป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนให้ทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นสัญญาที่จะ ‘ต่อสู้กับการก่อการร้ายและทำงานเพื่อมนุษยชาติ’ ในพิธีวางพวงมาลาและชักธงชาติยูกันดาและอิสราเอลเคียงข้างกัน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เข้มแข็งของทั้ง 2 ประเทศ