จากกรณี อเล็กเซ นาวาลนี นักการเมืองฝ่ายค้านและคู่ปรับของประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียวัย 47 ปีซึ่งถูกจำคุกในข้อหาโจมตีระบอบการปกครองของปูติน และหายตัวไปจากเรือนจำหลายวัน ก่อนจะพบว่านาวาลนีถูกคุมขังอยู่ในคุกที่โหดที่สุดของรัสเซียซึ่งได้รับฉายาว่า ‘หมาป่าขั้วโลก’ (Polar Wolf) ในแถบไซบีเรียใกล้กับขั้วโลกเหนือ
นาวาลนีถูกย้ายอย่างลับๆ จากเรือนจำในชานเมืองมอสโกไปยังทัณฑสถาน ‘IK-3’ ทางตอนเหนือของอาร์กติกเซอร์เคิล ในเมืองคาร์ป ภูมิภาคยามาล-เนเนตส์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงมอสโกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 1,900 กม.
โฆษกหญิงของนาวาลนี คิรา ยาร์มีช กล่าวเมื่อวันจันทร์ (25 ธ.ค.) ว่า ทีมของนาวาลนีขาดการติดต่อกับเขานานกว่า 2 สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 6 ธ.ค.แล้ว “เรือนจำนี้จะเลวร้ายยิ่งกว่าเมื่อก่อนมาก พวกเขากำลังพยายามทำให้ชีวิตของนาวาลนีทนไม่ไหวเท่าที่จะทำได้”
‘คุกโหด’ ของรัสเซีย
คุกรัสเซียในไซบีเรียที่ว่าโหดเป็นที่รู้จักกันในชื่ออาณานิคม ‘หมาป่าขั้วโลก’ ซึ่งถือเป็นเรือนจำที่ทรหดที่สุดแห่งหนึ่งในรัสเซีย เพราะในฤดูหนาวจะมีความหนาวรุนแรง และอุณหภูมิกำลังจะลดลงเหลือประมาณลบ 28 องศาเซลเซียสในสัปดาห์หน้า
นักโทษส่วนใหญ่ที่นั่นมักถูกตัดสินว่ามี ‘ความผิดฐานก่ออาชญากรรมร้ายแรง’ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงภาษี การฟอกเงิน และการฉ้อโกง
ตามรายงานของหนังสือพิมพ์มอสคอฟสกี้ คมโซโมเลตส์ (Moskovsky Komsomolets) ระบุว่า “เรือนจำแห่งนี้อยู่ห่างจากอาร์กติกเซอร์เคิลไปทางเหนือประมาณ 60 กิโลเมตร ก่อตั้งขึ้นในช่วงทศวรรษ 1960 โดยเป็นส่วนหนึ่งของระบบกูลัก (GULAG) ของค่ายแรงงานโซเวียต”
การย้ายภายในระบบเรือนจำของรัสเซียถูกปกปิดไว้เป็นความลับ และผู้ต้องขังอาจหายจากการติดต่อเป็นเวลาหลายสัปดาห์ “สภาพแวดล้อมที่นั่นรุนแรงเป็นชั้นดินเยือกแข็งถาวร…เป็นการยากที่จะสื่อสารกับนักโทษที่ถูกคุมขังในสถานที่ห่างไกล” ลีโอนิด วอลคอฟ ผู้ช่วยของนาวาลนีกล่าว
สื่ออิสระเวียร์สต์กา ‘Vyorstka’ รายงานว่า “นักโทษบางคนบ่นเรื่องการขาดแคลนเสื้อผ้าและสิ่งของจำเป็นอื่นๆ”
นักโทษแม็กซิม บาควาลอฟ ซึ่งรับโทษจำคุกในเรือนจำ IK-3 ตั้งแต่ปี 2017-2020 อ้างว่าเขาได้รับรองเท้าบูทฤดูหนาวเพียงคู่เดียวและชุดสูทที่ชำรุดเท่านั้น ขณะที่ เซอร์เก เชสโนคอฟ นักโทษอีกคนหนึ่งอ้างว่าเขาป่วยบ่อยหลังจากขาดแคลนเสื้อผ้า และฝ่ายบริหารเรือนจำไม่สามารถจัดหาเสื้อผ้าทดแทนให้ได้
นักโทษเซอร์เกย์ ชีคคิน ได้ยื่นฟ้องเรือนจำในปี 2022 โดยบ่นว่าเขาถูกกักขังให้อยู่ในห้องที่ไม่มีแสงธรรมชาติและไม่มีน้ำร้อน นอกจากนี้ นักโทษคนอื่นๆ ยังรายงานว่าพวกเขาประสบความเครียดทางจิต เนื่องจากสภาพร่างกายของพวกเขา และบางคนถึงกับกล่าวหาว่าถูกผู้คุมเรือนจำทรมาน
“เมื่อนักโทษเข้าไปในเรือนจำ พวกเขาจะถูกพาไปที่โรงอาบน้ำ เมื่อทุกคนเปลื้องผ้าและไปอาบน้ำ น้ำจะถูกปิด จากนั้นจะมีคนสวมหน้ากากเข้ามาทุบตีพวกเขาประมาณครึ่งชั่วโมง…”
“พวกเขาพาผมนั่งลงบนพื้นแล้วทุบตีผมด้วยกระบองและหมัดที่บั้นท้าย หัว ใบหน้า และซี่โครงของผม พวกเขาไม่ได้ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ใดๆ เลย” มิโค คูลิลิดเซ นักโทษที่เคยรับโทษจำคุกในเรือนจำ IK-3 กล่าว
นักโทษอาชญากรรม ‘ร้ายแรง’ (อาจ) ต้องมาอยู่ที่นี่

สำหรับเคสของนาวาลนีนั้นเคยถูกจำคุกเพราะถูกมองว่าเป็น ‘ภัยคุกคาม’ จากชนชั้นสูงทางการเมืองของรัสเซีย ในฐานะนักโทษ และไม่สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ แต่เขาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดที่ถูกตัดสินว่ามี ‘ความผิด’ และมองว่าระบบตุลาการของรัสเซียทุจริตอย่างร้ายแรง
อย่างไรก็ดี เมื่อเดือนที่แล้ว นาวาลนีได้คร่ำครวญถึงสภาพ ‘ฟัน’ ที่เลวร้ายของนักโทษในเรือนจำรัสเซียว่า “โภชนาการไม่ดี การขาดอาหารแข็ง (solid food) มีแต่ของหวานเต็มไปหมด (อาหารที่ราคาถูกที่สุด) ชาที่เข้มข้นมาก การสูบบุหรี่ และขาดการดูแลทันตกรรม ซึ่งล้วนเป็นสาเหตุของสิ่งเหล่านี้”
เมื่อช่วงปีที่แล้ว มีการเสนอให้แก้กฎหมายที่อนุญาตให้รัสเซียสามารถจำคุกผู้ที่ใคร่เด็กซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดชีวิตในเรือนจำขั้วโลกที่อากาศหนาวรุนแรง โฆษกรัฐสภาของประเทศกล่าวว่า “นักโทษที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานล่วงละเมิดทางเพศเด็กจะต้องรับโทษจำคุกในเรือนจำที่ใช้แรงงานหนักในอาร์กติก ซึ่งอาจถูกบังคับให้ทำงานในเหมืองไซบีเรีย”
การเสนอแก้กฎหมายนี้มีขึ้นหลังเกิดคดีสะเทือนขวัญของ เดนิส เกราซิมอฟ วัย 44 ปี และวาดิม เบลยาคอฟ วัย 24 ปี ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมที่ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตจากความผิดฐานข่มขืนและสังหารเด็กอายุ 5 ขวบ รวมถึงอำพรางศพในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งกลายเป็นคดีสยดสยอง โดยหนึ่งในผู้ต้องหาสองนี้เป็นอดีตนักโทษคดีใคร่เด็กมาก่อน
“ผู้ที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานก่ออาชญากรรมดังกล่าวควรรับโทษจำคุกตลอดชีวิตในสภาวะที่เลวร้ายที่สุด ทางตอนเหนือสุดของรัสเซีย หรือในเหมือง…ไอ้เลวพวกนี้ควรผ่านการทำงานหนักที่สุด ไม่สามารถเรียกพวกเขาว่า ‘มนุษย์’ ได้” วยาเชสลาฟ โวโลดิน ประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าว
AFP / Dimitar DILKOFF