ตั้งแต่ความแข็งแกร่งไปจนถึงภาวะอ้วน ‘นิ้วชี้-นิ้วนาง’ บอกอะไรเราได้มากกว่าที่คิด!

5 กุมภาพันธ์ 2567 - 10:03

wha-length-of-your-fingers-says-about-you-SPACEBAR-Hero.jpg
  • ไม่ใช่แค่หมอดูลายมือเท่านั้นที่จะบอกอนาคตของเราได้ เพราะงานนี้ ‘วิทยาศาสตร์’ ยังยืนยันว่าความยาวนิ้วนั้นบอกอะไรเราได้มากกว่าที่เราคิด!

  • นักวิทย์ฯ ได้ศึกษาบางสิ่งที่เรียกว่าอัตราส่วน 2D:4D ซึ่งเป็นอัตราส่วนระหว่างนิ้วชี้และนิ้วนาง

  • สิ่งนี้สามารถบ่งชี้พัฒนาการของคุณขณะอยู่ในครรภ์ได้ อัตราส่วน 2D:4D สัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนของมารดาได้

เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่ ‘หมอดูลายมือ’ บอกว่าอนาคตของคนคนหนึ่งขึ้นอยู่กับเส้นลายมือ แต่นักวิทยาศาสตร์บางคนเองก็เชื่อว่ามือของเราสามารถบอกอะไรเกี่ยวกับตัวเราได้มากมายจริงๆ

และนักวิทย์ฯ ก็ได้ศึกษาบางสิ่งที่เรียกว่าอัตราส่วน 2D:4D ซึ่งเป็นอัตราส่วนระหว่างนิ้วชี้และนิ้วนาง อัตราส่วนนี้เชื่อมโยงกับทุกสิ่งตั้งแต่การเล่นกีฬาและโรคอ้วน ไปจนถึงความก้าวร้าวและแม้แต่แนวโน้มทางจิต แต่ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนที่จะเชื่อเช่นกัน 

เบ็น เซอร์เปล นักวิทยาศาสตร์จากนิวอิงแลนด์แนะนำว่า สิ่งนี้สามารถบ่งชี้พัฒนาการของคุณขณะอยู่ในครรภ์ได้ อัตราส่วน 2D:4D สัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนของมารดา เชื่อกันว่าอัตราส่วน 2D:4D จะเกิดขึ้นในครรภ์ตั้งแต่ช่วงปลายไตรมาส (3 เดือน) แรก และจะได้รับผลกระทบจากฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (Testosterone) ก่อนคลอด  

นิ้วนางใครยาวกว่านิ้วชี้บ้าง?  

หากนิ้วนางของคุณยาวกว่านิ้วชี้มาก แสดงว่าคุณเป็นคนที่มีอัตราส่วน 2D:4D ต่ำ เป็นที่น่าสังเกตว่าผู้ชายมักจะมีอัตราส่วนที่ต่ำกว่าผู้หญิงเกือบทุกครั้ง เพราะพวกเขาได้รับฮอร์โมนเทสโทสเทอโรนก่อนคลอดมากกว่า  

แต่หากคุณมีอัตราส่วน 2D:4D ต่ำเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ก็ถือเป็นเรื่องราวดีๆ เช่นกัน ในงานวิจัยชิ้นหนึ่งของเซอร์เปลบอกว่าอัตราส่วนต่ำเป็นสัญญาณแห่งความสำเร็จของกลุ่มคนที่เล่นรักบี้ ศัลยแพทย์ และนักข่าวสายการเมือง เนื่องจากการตอบสนองของฮอร์โมนเพศชายเชื่อมโยงกับความสามารถในการรับและประมวลผลข้อมูล 

“2D:4D อาจเป็นตัวทำนายความสามารถในการ ‘รักษาสมาธิ’ ซึ่งจะประสบความสำเร็จในงานนั้นๆ มากกว่า” งานวิจัยระบุ แต่การศึกษาอื่นๆ ยังพบความเชื่อมโยงระหว่างอัตราส่วน 2D:4D ที่ต่ำในสมรรถภาพทางกายของนักฟุตบอลอาชีพรุ่นเยาว์ ในปี 2021 ทีมนักวิจัยนานาชาติได้ตีพิมพ์บทความใน BMC Sports Science, Medicine, and Rehabilitation ซึ่งศึกษานักฟุตบอลอายุต่ำกว่า 17 ปี ทั้งหมด 24 คนเพื่อวัดสมรรถภาพและความยาวนิ้วของพวกเขา และสิ่งที่พบคือ ยิ่งนิ้วนางมีขนาดใหญ่นักกีฬาก็จะยิ่งแสดงความแข็งแกร่งและความฟิตมากขึ้นเท่านั้น

wha-length-of-your-fingers-says-about-you-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: Sarah Stier / GETTY IMAGES

แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่ ‘ข่าวดี’ ทั้งหมด เนื่องจากอัตราส่วนที่ต่ำยังเชื่อมโยงกับลักษณะ ‘เชิงลบ’ หลายประการอีกด้วย การศึกษาในปี 2005 กับนักศึกษา 298 คนที่มหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตา พบว่าอัตราส่วน 2D:4D ที่ต่ำกว่านั้นเชื่อมโยงกับระดับ ‘ความก้าวร้าว’ ในผู้ชายที่สูงขึ้น และงานวิจัยบางชิ้นก็มีผลที่น่าตกใจ เพราะอัตราส่วนดังกล่าวมันเชื่อมโยงกับความผิดปกติทางบุคลิกภาพต่อต่านสังคม และแนวโน้มทางจิต เนื่องจากโรคจิตเภทอาจมีพื้นฐานมาจาก ‘ชีวภาพ’  

แม้ว่าลักษณะบางอย่างจะเกี่ยวข้องกับอัตราส่วน 2D:4D ที่ต่ำกว่าอาจถูกมองในแง่ลบบ้าง แต่ในบางครั้งก็เป็นประโยชน์ เช่น ในสถานการณ์ที่มีการแข่งขัน หรือความท้าทายต่างๆ

แล้วถ้านิ้วชี้ยาวกว่านิ้วนางล่ะ? 

ในทางกลับกัน ถ้าคุณมีนิ้วชี้ยาวกว่านิ้วนาง แสดงว่าคุณมีอัตราส่วน 2D:4D สูง ซึ่งเชื่อกันว่าอัตราส่วน 2D:4D ที่สูงขึ้นเป็นตัวบ่งชี้ว่าฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนต่ำ และระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขณะอยู่ในครรภ์ การศึกษาพบว่าอัตราส่วนที่สูงเชื่อมโยงกับระดับความเจ็บปวดที่มากขึ้นในสถานการณ์ต่างๆ

wha-length-of-your-fingers-says-about-you-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: Eakin Howard / GETTY IMAGES

ในรายงานวิจัยฉบับหนึ่งในปี 2017 จาก Medical University of Lodz พบว่าจากชายและหญิง 100 คนที่เข้ารับการผ่าตัดเสริมจมูก คนที่มีอัตราส่วน 2D:4D สูงกว่า มีความสัมพันธ์กับความเจ็บปวดหลังการผ่าตัดมากกว่า (โดยเฉพาะในผู้หญิง) 

แต่ในปี 2015 การศึกษาชิ้นหนึ่งจาก International Headache Centre ของจีนเองก็พบว่าผู้หญิงที่มีอัตราส่วน 2D:4D สูงมีแนวโน้มที่จะประสบกับอาการปวดหัวไมเกรนน้อยกว่า ขณะที่การศึกษาชิ้นหนึ่งในปี 2022 ชี้ไปที่บทบาทของฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนเพศชายในการสร้างการสะสมไขมันเฉพาะทางเพศ 

นักวิจัยกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะกักเก็บไขมันไว้ที่แขน ขา และต้นขามากกว่าผู้ชาย และจากสมมติฐานนี้ นักวิจัยได้ศึกษาอัตราส่วนนิ้วของผู้ใหญ่ 125 คน เพื่อดูว่ามีความสัมพันธ์ใดๆ กับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งพวกเขาพบว่าอัตราส่วน 2D:4D ที่สูงนั้นสัมพันธ์กับการเกิด ‘โรคอ้วน’ ในทั้ง 2 เพศด้วย

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์