หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้รายงานว่า กองกำลังเกาหลีเหนือในรัสเซียกำลังเสียเปรียบ และสูญเสียเป็นครั้งแรกหลังโจมตีเขตเคิร์สก์ของรัสเซีย เนื่องจากพวกเขาขาดประสบการณ์ในการทำสงครามด้วยโดรน พร้อมเสริมว่า กองกำลังรัสเซียบ่นเกาหลีเหนือว่าเป็น ‘ภาระ’ เพราะพวกเขา ‘ไม่รู้เรื่องอะไร’
อีซุงกวอน สส.เกาหลีใต้ กล่าวโดยอ้างหน่วยข่าวกรองของโซลว่า ทหารเกาหลีเหนืออย่างน้อย 100 นายเสียชีวิตตั้งแต่เริ่มการสู้รบเมื่อต้นเดือนนี้
หน่วยข่าวกรองของยูเครนรายงานว่าทหารเกาหลีเหนือ 30 นายเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บระหว่างการสู้รบในเคิร์สก์เมื่อกลางเดือนธันวาคม เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมยังยืนยันด้วยว่ามีผู้เสียชีวิตด้วย แต่ไม่ได้ระบุตัวเลขที่ชัดเจน
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยว่า ดูเหมือนว่าทหารเหล่านี้ถูกใช้ในบทบาททหารราบบริเวณชายแดนเคิร์สก์ ซึ่งรัสเซียกำลังพยายามยึดคืนจากยูเครน หมายความว่าเป็นไปได้ที่กองกำลังเกาหลีเหนืออาจไม่ได้ถูกส่งไปประจำการที่ชายแดนยูเครน
สหรัฐฯ และยูเครนประมาณการว่ามีทหารเกาหลีเหนือกำลังสู้รบอย่างแข็งขันอยู่ในรัสเซียระหว่าง 10,000-12,000 นาย ส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองเคิร์สก์ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กองกำลังยูเครนยึดครองในเดือนสิงหาคม
“กองกำลังเกาหลีเหนือกำลังถูก ‘โจมตี’ อย่างหนักในแนวหน้าของสนามรบที่ไม่คุ้นเคย และพวกเขาขาดความสามารถในการตอบโต้การโจมตีด้วยโดรน” อีซุงกวอน กล่าว
เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับบทบาทของกองทหารเกาหลีเหนือในสงครามรัสเซีย
\-ทหารเกาหลีเหนือมีประสิทธิภาพขนาดไหน?-
“มันเป็นเรื่องยากที่จะพูด...”
เกาหลีเหนือมีกองทัพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีทหารประจำการอยู่ 1.28 ล้านนาย แต่ต่างจากกองทัพประชาชนเกาหลี (KPA) ที่อยู่ในรัสเซีย ซึ่งไม่มีประสบการณ์การสู้รบในช่วงที่ผ่านมา
“กองทัพของเกาหลีเหนือถูกฝึกซ้อมอย่างหนัก แต่มีความพร้อมต่ำ” มาร์ก แคนเซียน จากศูนย์การศึกษากลยุทธ์และการระหว่างประเทศ (CSIS) กล่าว แต่แคนเซียนไม่ได้มองพวกเขาเป็นแค่ตัวประกอบ
หน่วยข่าวกรองยูเครนและเกาหลีใต้ระบุว่า ทหารที่ประจำการในรัสเซียส่วนใหญ่เป็นทหารชั้นยอดของเกาหลีเหนือ ซึ่งมาจากกองพลที่ 11 หรือที่รู้จักกันในชื่อ ‘กองพลพายุ’ หน่วยนี้ได้รับการฝึกฝนด้านการแทรกซึม การทำลายโครงสร้างพื้นฐาน และการลอบสังหาร
“ทหารเหล่านี้ถูกฝึกฝนให้ทนต่อความเจ็บปวดทางร่างกายและการทรมานทางจิตใจในระดับสูง แม้ว่าพวกเขาจะขาดความพร้อมในการสู้รบ แต่พวกเขาก็ทดแทนด้วยความทนทานทั้งทางร่างกายและจิตใจ” ไมเคิล แมดเดน ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือจากศูนย์สติมสันในวอชิงตัน กล่าว
แคนเซียนเห็นด้วยว่า “หากหน่วยเหล่านี้เป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษ พวกเขาจะมีการเตรียมตัวที่ดีกว่าหน่วยเกาหลีเหนือโดยทั่วไปมาก ดูเหมือนว่ารัสเซียจะฝึกอบรมพวกเขาเพิ่ม ซึ่งน่าจะเกี่ยวกับสถานการณ์พิเศษของสงครามในยูเครน”
“ขณะที่สงครามในยูเครนคืบคลานเข้าสู่ปีที่ 3 กองทหารเกาหลีเหนืออาจเป็น ‘กองทหารที่มีความสามารถดีที่สุด’ ในบรรดากองทหารที่รัสเซียมอยู่” พลโทชุนอินบอม อดีตนายพลกองทัพเกาหลีใต้ กล่าว
ตามข้อมูลของ NATO ระบุว่า รัสเซียได้คัดเลือกทหารใหม่อย่างน้อย 20,000 นายต่อเดือนเพื่อช่วยสนับสนุนความพยายามในการทำสงคราม โดยเฉลี่ยแล้วมีทหารรัสเซียเสียชีวิต หรือบาดเจ็บมากกว่า 1,000 นายต่อวัน
“รัสเซียส่งทหารไปแนวหน้าโดยไม่ได้รับการฝึกฝนอย่างเหมาะสม เมื่อเทียบกับทหารใหม่เหล่านี้ ชาวเกาหลีเหนือได้รับการฝึกฝนและมีแรงจูงใจ พวกเขาไม่ได้ถูกทดสอบ แต่ในไม่ช้านี้จะไม่เป็นเช่นนั้น” พลโทชุน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าอุปสรรคด้านภาษาและความไม่คุ้นเคยกับระบบของรัสเซียทำให้บทบาทการรบมีความซับซ้อนมากขึ้น พวกเขาเผยว่า กองกำลังของเกาหลีเหนือกำลังถูกใช้งานด้านวิศวกรรมและการก่อสร้าง
\-ทำไมเกาหลีเหนือสนับสนุนสงครามรัสเซีย?-
“สำหรับเกาหลีเหนือ การส่งกำลังทหารถือเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้” อังเดรย์ ลานคอฟ ผู้อำนวยการของ ‘Korea Risk Group’ กล่าว
หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้ประมาณการว่า รัสเซียจ่ายเงินให้เกาหลีเหนือ 2,000 ดอลลารสหรัฐ (ราว 69,180 บาท) ต่อทหารหนึ่งนายทุกเดือน และเงินส่วนใหญ่จะเข้ากระเป๋ารัฐบาล นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีทางทหารของรัสเซียได้อีกด้วย
สหรัฐฯ ประมาณการว่าทหารรัสเซียเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บราว 600,000 นาย นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนในปี 2022
“รัสเซียพยายามที่จะลดผลกระทบทางการเมืองในประเทศให้เหลือน้อยที่สุด ด้วยการเสนอโบนัสให้กับทหารอาสาสมัคร และรับสมัครชาวต่างชาติ โดยให้สัญญาว่าจะให้สัญชาติ” แคนเซียน จาก CSIS กล่าว
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียได้ออกคำสั่งเป็นครั้งที่ 3 นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น เพื่อขยายกองทัพของเขา
“มีรายงานว่ารัสเซียสูญเสียทหารมากกว่า 1,000 นายในสมรภูมิรบ ดังนั้นการลดการสูญเสียของพวกเขาอาจช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อระบอบการปกครองของปูตินได้บ้าง” ลามิ คิม ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาด้านความมั่นคงจากศูนย์ศึกษาความมั่นคงแห่งเอเชีย-แปซิฟิกของแดเนียล เค. อิโนอุเอะ กล่าว
Photo by KCNA VIA KNS / AFP
