ในช่วงเวลาที่บ้านเรากำลังฟอร์มทีมจัดตั้งรัฐบาลใหม่กันอยู่นั้น เมนูเครื่องดื่มทั่วๆ ไปอย่าง ‘ช็อกมินต์’ และ ‘ประชาช็อก’ กลายเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองและเป็นไวรัลในชั่วข้ามคืน
เรื่องนี้ในสหรัฐฯ ถึงกับลงมือเก็บข้อมูลทำการวิจัยและพบว่า ความชอบและรสนิยมของเครื่องดื่มเป็นตัวชี้วัดความชอบทางการเมือง รวมถึงแนวโน้มการออกไปใช้สิทธิใช้เสียงลงคะแนนได้ด้วย
บริษัทที่ปรึกษาด้านการเมือง National Media Research, Planning & Placement ลงมือวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคที่รวบรวมโดย GFK MRI โดยการทำชาร์ตแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไวน์แบรนด์หลักๆ กว่า 50 แบรนด์โดยแบ่งตามการลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประวัติการออกมาลงคะแนน
พบว่าฝั่งเดโมแครตจะเลือกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสีใส อาทิ วอดกา จิน ส่วนฝั่งรีพับลิกันมักชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสีน้ำตาลเข้มอย่างวิสกี เบอร์เบิน สกอตช์ และหากลงลึกถึงยี่ห้อ เจนนิเฟอร์ ดูบ หัวหน้าทีมวิจัยเผยว่า ชาวเดโมแครตจะเลือกวอดกายี่ห้อ Grey Goose, Absolut และ Smirnoff ขณะที่ชาวรีพับลิกันจะเลือก Jim Bean Whiskey และ Wild Turkey
การวิจัยนี้ยังพบว่า ความชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับรูปแบบการลงคะแนนเสียงในระหว่างการเลือกตั้ง คนที่ชอบดื่มไวน์มีแนวโน้มอกมาลงคะแนนในวันเลือกตั้งมากกว่า ส่วนคนที่ชอบเหล้าสมุนไพรเยเกอร์ไมสเตอร์ (Jagermeister) ของเยอรมนี เตกิลาดอนฮูลิโอ (Don Julio) ของเม็กซิโก มีแนวโน้มออกไปเลือกตั้งน้อยกว่า
ความชอบไวน์ยี่ห้อต่างๆ ก็แตกต่างกันตามความเชื่อทางการเมือง โดยพบว่า คนที่ชอบ Kendall-Jackson หรือ Robert Mondavi มีแนวโน้มจะโหวตให้พรรครีพับลิกันมากกว่า ส่วนชาวเดโมแครตจะเลือกดื่มแชมเปญหรือสปาร์กกลิงไวน์อื่นๆ
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่ารัมจะเป็นเครื่องดื่มที่โปรดปรานของทั้งฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกัน และหากดูที่ความหนาแน่นของการดื่มพบว่าชาวเดโมแครตดื่มมากกว่าชาวรีพับลิกัน
นอกจากนี้ การวิจัยเมื่อปี 2012 ของ Scarborough Research ยังพบความสัมพันธ์กันระหว่างแอลกอฮอล์และความเชื่อทางการเมือง โดยรีพับลิกันมักจะดื่มเบียร์ยี่ห้อ Sam Adam ที่ผลิตในเมืองบอสตัน ส่วนคนที่ดื่มเบียร์ Heineken มีแนวโน้มลงตะแนนให้พรรคเดโมแครต
เรื่องนี้ในสหรัฐฯ ถึงกับลงมือเก็บข้อมูลทำการวิจัยและพบว่า ความชอบและรสนิยมของเครื่องดื่มเป็นตัวชี้วัดความชอบทางการเมือง รวมถึงแนวโน้มการออกไปใช้สิทธิใช้เสียงลงคะแนนได้ด้วย
บริษัทที่ปรึกษาด้านการเมือง National Media Research, Planning & Placement ลงมือวิเคราะห์ข้อมูลผู้บริโภคที่รวบรวมโดย GFK MRI โดยการทำชาร์ตแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์และไวน์แบรนด์หลักๆ กว่า 50 แบรนด์โดยแบ่งตามการลงทะเบียนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งและประวัติการออกมาลงคะแนน
พบว่าฝั่งเดโมแครตจะเลือกดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสีใส อาทิ วอดกา จิน ส่วนฝั่งรีพับลิกันมักชอบดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีสีน้ำตาลเข้มอย่างวิสกี เบอร์เบิน สกอตช์ และหากลงลึกถึงยี่ห้อ เจนนิเฟอร์ ดูบ หัวหน้าทีมวิจัยเผยว่า ชาวเดโมแครตจะเลือกวอดกายี่ห้อ Grey Goose, Absolut และ Smirnoff ขณะที่ชาวรีพับลิกันจะเลือก Jim Bean Whiskey และ Wild Turkey
การวิจัยนี้ยังพบว่า ความชอบเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับรูปแบบการลงคะแนนเสียงในระหว่างการเลือกตั้ง คนที่ชอบดื่มไวน์มีแนวโน้มอกมาลงคะแนนในวันเลือกตั้งมากกว่า ส่วนคนที่ชอบเหล้าสมุนไพรเยเกอร์ไมสเตอร์ (Jagermeister) ของเยอรมนี เตกิลาดอนฮูลิโอ (Don Julio) ของเม็กซิโก มีแนวโน้มออกไปเลือกตั้งน้อยกว่า
ความชอบไวน์ยี่ห้อต่างๆ ก็แตกต่างกันตามความเชื่อทางการเมือง โดยพบว่า คนที่ชอบ Kendall-Jackson หรือ Robert Mondavi มีแนวโน้มจะโหวตให้พรรครีพับลิกันมากกว่า ส่วนชาวเดโมแครตจะเลือกดื่มแชมเปญหรือสปาร์กกลิงไวน์อื่นๆ
อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่ารัมจะเป็นเครื่องดื่มที่โปรดปรานของทั้งฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกัน และหากดูที่ความหนาแน่นของการดื่มพบว่าชาวเดโมแครตดื่มมากกว่าชาวรีพับลิกัน
นอกจากนี้ การวิจัยเมื่อปี 2012 ของ Scarborough Research ยังพบความสัมพันธ์กันระหว่างแอลกอฮอล์และความเชื่อทางการเมือง โดยรีพับลิกันมักจะดื่มเบียร์ยี่ห้อ Sam Adam ที่ผลิตในเมืองบอสตัน ส่วนคนที่ดื่มเบียร์ Heineken มีแนวโน้มลงตะแนนให้พรรคเดโมแครต
