‘วลาดิเมียร์ ปูติน’ ประสบกับการคุกคามที่สั่นคลอนเก้าอี้ประธานาธิบดี และถือเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ที่สุดในการปกครองของเขาที่ยาวนานกว่า 23 ปี หลังจากที่ ‘เยฟกินี ปริโกชิน’ อดีตพันธมิตร และหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ (Wagner) ลุกขึ้นมาก่อกบฏ
คำถามต่อมาคือ จะเหลือคนที่ปูตินสามารถ ‘ไว้ใจ’ อีกกี่คน?
คำถามต่อมาคือ จะเหลือคนที่ปูตินสามารถ ‘ไว้ใจ’ อีกกี่คน?
หุ่นเชิด ‘ดิมิทรี เมดเวเดฟ’

ดิมิทรี เมดเวเดฟ รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย เคยก้าวเข้ามาสวมบทบาทประธานาธิบดีแทนปูตินในปี 2008 เป็นเวลา 4 ปี ในช่วงเวลานั้น ปูตินกลายเป็นนายกรัฐมนตรีรัสเซีย เรียกได้ว่าเป็นเหมือน ‘หุ่นเชิด’ ของปูติน เนื่องจากปูตินก็ยังเป็นคนที่รักษาอำนาจสูงสุด
อย่างไรก็ตาม การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเมดเวเดฟ ทำให้เกิดความหวังเล็กๆ ว่ารัสเซียอาจจะใกล้ชิดกับชาติตะวันตกมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากเมดเวเดฟเคยสัญญาว่าจะปรับปรุงรัสเซียให้ทันสมัย เสรี และหลงใหลในเทคโนโลยี ถึงขั้นที่ว่าเดินทางไปท่องเที่ยวในแคลิฟอร์เนียและรับ iPhone 4 จากสตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้ง Apple
จนกระทั่งในปี 2012 ปูตินกลับขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง และเมดเวเดฟกลายเป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงปี 2020 เขาก็ได้รับตำแหน่งรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย
นับตั้งแต่ที่รัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022 เมดเวเดฟก็เอาแต่ก่นด่าตะวันตกผ่านทางเทเลแกรม (Telegram) เหล่าผู้สังเกตการณ์ต่างบอกกันว่า บุคลิกใหม่ของเขาเป็นความ ‘พยายาม’ รักษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับรัฐบาลรัสเซียซึ่งดูแล้วค่อนข้างจะสิ้นหวัง ขณะที่ก็มีข่าวลือออกมาด้วยว่า เมดเวเดฟดื่มแอลกอฮอล์หนักขึ้น
การเคลื่อนไหวของเมดเวเดฟล่าสุดหลังจากที่มีการก่อจลาจลของกลุ่มทหารวากเนอร์ เมดเวเดฟซึ่งหวาดกลัวอย่างมากว่าวากเนอร์จะมายึดอำนาจรัฐบาลไป จนมีการตั้งข้อสังเกตว่าเขาบินออกจากมอสโกไปยังโอมานทันทีหลังเกิดเหตุ ซึ่งรายละเอียดของการประชุมอย่างเป็นทางการของเขาในโอมานยังไม่เปิดเผย และไม่มีใครรู้ว่าบินไปทำไม
อย่างไรก็ตาม การดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของเมดเวเดฟ ทำให้เกิดความหวังเล็กๆ ว่ารัสเซียอาจจะใกล้ชิดกับชาติตะวันตกมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากเมดเวเดฟเคยสัญญาว่าจะปรับปรุงรัสเซียให้ทันสมัย เสรี และหลงใหลในเทคโนโลยี ถึงขั้นที่ว่าเดินทางไปท่องเที่ยวในแคลิฟอร์เนียและรับ iPhone 4 จากสตีฟ จ็อบส์ ผู้ก่อตั้ง Apple
จนกระทั่งในปี 2012 ปูตินกลับขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง และเมดเวเดฟกลายเป็นนายกรัฐมนตรี จนถึงปี 2020 เขาก็ได้รับตำแหน่งรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย
นับตั้งแต่ที่รัสเซียรุกรานยูเครนในปี 2022 เมดเวเดฟก็เอาแต่ก่นด่าตะวันตกผ่านทางเทเลแกรม (Telegram) เหล่าผู้สังเกตการณ์ต่างบอกกันว่า บุคลิกใหม่ของเขาเป็นความ ‘พยายาม’ รักษาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเองกับรัฐบาลรัสเซียซึ่งดูแล้วค่อนข้างจะสิ้นหวัง ขณะที่ก็มีข่าวลือออกมาด้วยว่า เมดเวเดฟดื่มแอลกอฮอล์หนักขึ้น
การเคลื่อนไหวของเมดเวเดฟล่าสุดหลังจากที่มีการก่อจลาจลของกลุ่มทหารวากเนอร์ เมดเวเดฟซึ่งหวาดกลัวอย่างมากว่าวากเนอร์จะมายึดอำนาจรัฐบาลไป จนมีการตั้งข้อสังเกตว่าเขาบินออกจากมอสโกไปยังโอมานทันทีหลังเกิดเหตุ ซึ่งรายละเอียดของการประชุมอย่างเป็นทางการของเขาในโอมานยังไม่เปิดเผย และไม่มีใครรู้ว่าบินไปทำไม
เครื่องด่า ‘เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ’

เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศของปูตินมาเกือบ 2 ทศวรรษ หนึ่งในสมาชิกของซิลโลวิก (Silovik - วงในของปูติน) หรือหมายถึงบุคคลที่ทำงานให้กับองค์กรของรัฐที่ได้รับอนุญาตให้ใช้กำลังกับพลเรือน และลาฟรอฟเป็นอีกหนึ่งคนที่ผลักดันโฆษณาชวนเชื่อต่างๆ ของรัสเซียสู่สายตาชาวโลก เขามักจะออกโรงด่า และกล่าวหาตะวันตกว่ากระทำการละเมิดต่อรัสเซีย แม้จะเห็นได้ชัดว่ารัสเซียเป็นฝ่ายรุกรานก่อนก็ตาม
แม้ว่าชายวัย 73 ปีคนนี้จะไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะในช่วงการจลาจลของวากเนอร์ แต่เขาก็ไม่วายติดเครื่องด่า โดยบอกว่า พันธมิตรตะวันตกของยูเครนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจลาจลของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ซึ่งรัสเซียกำลังสืบสวนว่าหน่วยข่าวกรองตะวันตกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกบฏของปริโกชินหรือไม่
เมื่อถูกถามว่ามีหลักฐานใดๆ ที่แสดงว่าทั้งหน่วยข่าวกรองของยูเครนและตะวันตกไม่เกี่ยวข้องกับการก่อกบฏหรือไม่ ลาฟรอฟกลับตอบว่า ตัวเขาทำงานในแผนกที่ไม่ได้รวบรวมหลักฐาน และทุกคนก็รู้ๆ กันดีอยู่แล้ว
แม้ว่าชายวัย 73 ปีคนนี้จะไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณะในช่วงการจลาจลของวากเนอร์ แต่เขาก็ไม่วายติดเครื่องด่า โดยบอกว่า พันธมิตรตะวันตกของยูเครนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจลาจลของกลุ่มทหารรับจ้างวากเนอร์ ซึ่งรัสเซียกำลังสืบสวนว่าหน่วยข่าวกรองตะวันตกมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกบฏของปริโกชินหรือไม่
เมื่อถูกถามว่ามีหลักฐานใดๆ ที่แสดงว่าทั้งหน่วยข่าวกรองของยูเครนและตะวันตกไม่เกี่ยวข้องกับการก่อกบฏหรือไม่ ลาฟรอฟกลับตอบว่า ตัวเขาทำงานในแผนกที่ไม่ได้รวบรวมหลักฐาน และทุกคนก็รู้ๆ กันดีอยู่แล้ว
รถถัง ‘เซอร์เกย์ ชอยกู’

ในการก่อจลาจลปริโกชินอ้างว่า การกระทำของเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมของรัสเซียเป็นหนึ่งในความคับข้องใจของเขา ซึ่งข้อเรียกร้องของปริโกชินคือการให้ชอยกูถูกไล่ออกพร้อมกับนายพลระดับสูงของรัสเซีย โดยอ้างว่าพวกเขาล้มเหลวในการทำสงคราม และมีการทุจริตภายในกองทัพ
ในฐานะหัวหน้ากองทัพรัสเซีย เขาได้ดูแลสงครามในยูเครน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีแต่ความ ‘หายนะ’ เกิดขึ้นนับตั้งแต่กองกำลังของรัสเซียพยายามยึดกรุงเคียฟของยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 แต่ถึงอย่างนั้น ปูตินก็ยังคงเก็บเขาไว้ พร้อมทั้งขอบคุณพวกเขาสำหรับการทำงานในช่วงที่มีการจลาจล
ในฐานะหัวหน้ากองทัพรัสเซีย เขาได้ดูแลสงครามในยูเครน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่ามีแต่ความ ‘หายนะ’ เกิดขึ้นนับตั้งแต่กองกำลังของรัสเซียพยายามยึดกรุงเคียฟของยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 แต่ถึงอย่างนั้น ปูตินก็ยังคงเก็บเขาไว้ พร้อมทั้งขอบคุณพวกเขาสำหรับการทำงานในช่วงที่มีการจลาจล
ปืนใหญ่ ‘นายพล วาเรรี่ เกอร์ราซิโมฟ’

ถ้าชอยกูเป็นรถถัง คนคนนี้ก็เปรียบเสมือนกับปืนใหญ่ของปูติน นายพลวาเรรี่ เกอร์ราซิโมฟ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ทั่วไปที่ตกเป็นเป้าหมายของปริโกชินเช่นกัน โดยปริโกชินได้ด่าทอ และสบประมาทเขาผ่านวิดีโอที่เผยแพร่ขณะเข้ายึดรอสตอฟ ออน-ดอน โดยบอกว่านายพลผู้นี้ล้มเหลวในการจัดหากระสุนให้กับวากเนอร์ ระหว่างที่วากเนอร์กำลังต่อสู้ในยูเครน
เกอร์ราซิโมฟ ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนในวันที่มีการจลาจลเช่นกัน โดยมีการคาดเดาไปจนถึงขั้นว่าเขาอาจถูกกลุ่มวากเนอร์จับตัวไปแล้ว
เกอร์ราซิโมฟ ไม่ปรากฏตัวต่อสาธารณชนในวันที่มีการจลาจลเช่นกัน โดยมีการคาดเดาไปจนถึงขั้นว่าเขาอาจถูกกลุ่มวากเนอร์จับตัวไปแล้ว
คนภักดี(ย์) ‘มิคาอิล มิชูสติน’

มิชูสตินเป็นนายกรัฐมนตรีของรัสเซียตั้งแต่ปี 2020 โดยเข้ารับตำแหน่งต่อจากเมดเวเดฟ เขาไม่ได้แสดงความคิดเห็นทันทีในตอนที่มีการก่อจลาจล แต่หลังจากที่เขา ‘แน่ใจ’ ว่าวากเนอร์ไม่ได้ต้องการทำรัฐประหาร เขาก็ออกมาเรียกร้องให้ชาวรัสเซียที่ออกมาชุมนุมต่อต้านปูตินสามัคคีกันเข้าไว้ พร้อมยอมรับว่า รัสเซียกำลังเผชิญความท้าทายต่อเสถียรภาพ ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ประชาชนทุกคน ‘แสดงความจงรักภักดี’
หลุมหลบภัย ‘อเล็กซานเดอร์ บอร์ทนิคอฟ’

บอร์ทนิคอฟ ผู้อำนวยการของหน่วยข่าวกรอง Federal Security Service (FSB) ซึ่งสืบทอดมาจาก KGB (หน่วยงานความมั่นคงของอดีตประเทศสหภาพโซเวียต ทำหน้าที่เป็นตำรวจลับและหน่วยงาน สืบราชการ กับ กรมข่าวกรองของรัฐบาลโซเวียต)
บอร์ทนิคอฟ เปรียบเสมือนหลุมหลบภัยของปูติน ที่มีท่าทีนิ่งเฉยขณะเกิดจลาจล แม้ว่าหน่วยงานของเขาจะเป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาต่อวากเนอร์
สถาบัน Think Tank Institute for the Study of War ของสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลรัสเซียเผชิญกับดุลยภาพที่ ‘ไม่เสถียรอย่างยิ่ง’ หลังข้อตกลงเพื่อยุติการก่อจลาจล ความน่าประหลาดใจที่เห็นได้ชัดของรัสเซียต่อการกบฏของปริโกชินไม่ได้ส่งผลใดๆ ถึง FSB เลยแม้แต่น้อย จนท้ายที่สุดแล้ว FBS สืบสวนคดีความดังกล่าว และถอนฟ้องวากเนอร์ทั้งหมด
บอร์ทนิคอฟ เปรียบเสมือนหลุมหลบภัยของปูติน ที่มีท่าทีนิ่งเฉยขณะเกิดจลาจล แม้ว่าหน่วยงานของเขาจะเป็นผู้แจ้งข้อกล่าวหาต่อวากเนอร์
สถาบัน Think Tank Institute for the Study of War ของสหรัฐฯ ระบุว่า รัฐบาลรัสเซียเผชิญกับดุลยภาพที่ ‘ไม่เสถียรอย่างยิ่ง’ หลังข้อตกลงเพื่อยุติการก่อจลาจล ความน่าประหลาดใจที่เห็นได้ชัดของรัสเซียต่อการกบฏของปริโกชินไม่ได้ส่งผลใดๆ ถึง FSB เลยแม้แต่น้อย จนท้ายที่สุดแล้ว FBS สืบสวนคดีความดังกล่าว และถอนฟ้องวากเนอร์ทั้งหมด
เหยี่ยวข่าว ‘นิโคไล ปาทุสเชฟ’

ปาทุสเชฟ เลขาธิการคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ที่ได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘สายเหยี่ยวเจ้าเล่ห์’ ที่สุดของรัสเซีย เขาเป็นบุคคลที่ได้รับใช้ปูตินมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 ในเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ด้านผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียกล่าวว่า มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่มีอิทธิพลเหนือผู้นำรัสเซียเหมือนกับปาทุสเชฟ
ในแผนการรุกรานยูเครนของปูติน ปาทุสเชฟได้ผลักดันแนวคิดที่ว่าตะวันตกกำลังซุ่มโจมตีรัสเซีย และสหรัฐฯ ต้องการทำให้รัสเซียแตกแยก และเร่ขายทฤษฎีสบคบคิดนี้ไปมากมาย
ในแผนการรุกรานยูเครนของปูติน ปาทุสเชฟได้ผลักดันแนวคิดที่ว่าตะวันตกกำลังซุ่มโจมตีรัสเซีย และสหรัฐฯ ต้องการทำให้รัสเซียแตกแยก และเร่ขายทฤษฎีสบคบคิดนี้ไปมากมาย
มิตรภาพโซเวียต ‘เซอร์เกย์ นาริชกิน’

นาริชกินเป็นอีกคนที่อยู่เคียงปูตินมาตั้งแต่สมัยทำงานให้กับ FBS โดยเขาแสดงความคิดเห็นต่อการก่อจลาจลของวากเนอร์ว่า ปริโกชินพยายามทำให้สังคมไม่มั่นคงและจุดชนวนสงครามกลางเมือง
พีอาร์ ‘มาร์การิตา ซีโมนยาน’

ซีโมนยานหัวหน้า Russia Today ซึ่งเป็นหนึ่งในสื่อโฆษณาชวนเชื่อที่โดดเด่นที่สุดของรัสเซีย และครั้งหนึ่งได้ยกย่องปริโกชิน วากเนอร์ และความโหดร้ายของพวกเขาเกี่ยวกับการทำสงครามในยูเครน
เธอเก็บตัวเงียบหลังจากที่มีการเกิดจลาจลกลางเมือง และอ้างภายหลังว่า เธอพลาดเหตุการณ์ดังกล่าวไปเนื่องจากออกทริปไปล่องเรือตามแม่น้ำในท้องถิ่น
เธอเก็บตัวเงียบหลังจากที่มีการเกิดจลาจลกลางเมือง และอ้างภายหลังว่า เธอพลาดเหตุการณ์ดังกล่าวไปเนื่องจากออกทริปไปล่องเรือตามแม่น้ำในท้องถิ่น
หัวหน้าพีอาร์ ‘วลาดิมีร์ โซโลฟยอฟ’

นอกจากซิโมนยานแล้ว โซโลฟยอฟถูกมองว่าเป็นนักโฆษณาชวนเชื่อของปูตินมาเนิ่นนาน ผ่านรายการโทรทัศน์ของเขาชื่อช่อง Russia-1 เขาเป็นเจ้าภาพในการเรียกร้องให้รัสเซียยกระดับการทำสงครามกับยูเครนและโจมตีฝ่ายตะวันตกที่สนับสนุนยูเครน
โซโลฟยอฟ เปิดเผยว่า ตกใจกับการจัดการของกองกำลังรัสเซีย ที่ปล่อยให้มีการปิดล้อมของกองกำลังวากเนอร์ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ชื่นชมเจ้าหน้าที่รัสเซียที่หลีกเลี่ยงการนองเลือด
โซโลฟยอฟ เปิดเผยว่า ตกใจกับการจัดการของกองกำลังรัสเซีย ที่ปล่อยให้มีการปิดล้อมของกองกำลังวากเนอร์ แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็ชื่นชมเจ้าหน้าที่รัสเซียที่หลีกเลี่ยงการนองเลือด
ขุนศึก ‘รามซาน คาดีรอฟ’

คาดีรอฟ ขุนศึกสาธารณรัฐเชเชน ก่อนเกิดสงคราม นักสู้ของเขาได้รับการกล่าวขานว่าเป็นทหารชั้นยอด แม้ว่าการต่อสู้ในยูเครนจะเผยให้เห็นว่าพวกเขามีประสิทธิภาพน้อยกว่าที่คิดไว้ในตอนแรก คาดีรอฟประกาศว่า การกบฏจำเป็นต้องหยุด และได้ส่งกองกำลังเชเชนไปยังรอสตอฟเพื่อเตรียมต่อสู้กับวากเนอร์หากมีการเริ่มสงครามนองเลือด
มิตรอาวุโส ‘วิกเตอร์ โซโลตอฟ’

โซโลตอฟ ผู้อำนวยการกองกำลังพิทักษ์ชาติรัสเซีย บุคคลอาวุโสอีกคนหนึ่งที่อยู่เคียงข้างปูติน
The Times เขียนว่า เขาไม่น่าจะมีความกล้าพอที่จะวางแผนทำรัฐประหารกับปูติน และการปรากฏตัวของเขาในที่ประชุมบ่งชี้ว่าเขาไม่ได้เสียเปรียบใดๆ เลยสำหรับการบุกเมืองของวากเนอร์
อีกทั้งเขาบอกกับนักข่าวว่า ทุกคนพร้อมที่จะสละชีวิตเพื่อปกป้องรัสเซียจากวากเนอร์ และยังมีกองกำลังที่ภักดีต่อรัฐ จะมุ่งเน้นไปที่การเสริมการป้องกันเมืองหลวง โดยจะรวบรวมกองกำลังทั้งหมดไว้ที่มอสโก
The Times เขียนว่า เขาไม่น่าจะมีความกล้าพอที่จะวางแผนทำรัฐประหารกับปูติน และการปรากฏตัวของเขาในที่ประชุมบ่งชี้ว่าเขาไม่ได้เสียเปรียบใดๆ เลยสำหรับการบุกเมืองของวากเนอร์
อีกทั้งเขาบอกกับนักข่าวว่า ทุกคนพร้อมที่จะสละชีวิตเพื่อปกป้องรัสเซียจากวากเนอร์ และยังมีกองกำลังที่ภักดีต่อรัฐ จะมุ่งเน้นไปที่การเสริมการป้องกันเมืองหลวง โดยจะรวบรวมกองกำลังทั้งหมดไว้ที่มอสโก