ดูเหมือนว่าการเลี้ยงน้องหมาน้องแมวจะธรรมดาเกินไปสำหรับคนรุ่นใหม่ที่รักสัตว์ในจีน เพราะตอนนี้หลายคนเปลี่ยนจากเลี้ยงเจ้าสี่ขามาเป็นการเลี้ยงของแปลกอย่าง “เม็ดมะม่วง” (ใช่ค่ะ คุณอ่านไม่ผิด) เป็นสัตว์เลี้ยงแทน
เทรนด์นี้สร้างความตะลึงในโลกโซเชียลมีเดียของจีนหลังจากสำนักข่าวออนไลน์ Jiupai News รายงานข่าวเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว ส่วน “คนเลี้ยง” หลายๆ คนบอกว่าจ้าเม็ดมะม่วงขนฟูพวกนี้ให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจเช่นเดียวกับการเลี้ยงหมาและแมว แถมยังช่วยบำบัดโรคได้อีกด้วย
หลิว นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 19 ปีจากเมืองเทียนจินเป็นหนึ่งในคนเลี้ยงเม็ดมะม่วง เธอเริ่มเลี้ยงเม็ดมะม่วง 2 เม็ด (หรือจะเรียกเป็นตัวดีล่ะ) ที่ตั้งชื่อให้อย่างน่ารักว่า “ต้าเหมา” และ “เอ้อเหมา” (แปลว่า เจ้าขนฟู 1 เจ้าขนฟู 2) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และยังทำ “ไดอารี่เม็ดมะม่วง” ลงในแอปฯ เสี่ยวหงซู หรืออินสตาแกรมในเวอร์ชันจีนมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มีทั้งหมด 11 ไดอารี่แล้ว
หลิวยังทำคลิปบันทึกการเปลี่ยนแปลงสัมผัสของขนเม็ดมะม่วง พร้อมเล่ารายละเอียดว่ามันเปลี่ยนจากขนที่แห้งๆ แข็งๆ มาเป็นขนที่นุ่มเนียนน่าสัมผัสได้อย่างไร ไปจนถึงพัฒนาการการเปลี่ยนสีของขนจากเหลืองเป็นขาว
เสี่ยวเหมิง คนเลี้ยงเม็ดมะม่วงอีกรายหนึ่งบอกกับ Jiupai News ว่า การจะเลี้ยงเม็ดมะม่วงที่สวยๆ ต้องเริ่มจากการซื้อมะม่วงให้ถูกชนิดก่อน และบอกว่า การเลี้ยงดู "สัตว์เลี้ยง" ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เนื่องจากเม็ดมะม่วงไม่เพียงต้องล้างและแปรงขนเท่านั้น แต่ยังต้องใช้เวลาตากแดดเพื่อป้องกันเชื้อราอีกด้วย โดยเสี่ยวเหมิงจะใช้ไดร์เป่าผมเป่าตอนที่หวีเส้นขนเม็ดมะม่วงเพื่อให้มันฟูฟ่องขึ้นมา
ใต้โพสต์ของหลิวนั้นปรากฏว่ามีคนเข้ามาคอมเม้นต์ขอเป็นคุณน้าคุณอาของเจ้า 2 เม็ดมะม่วงของเธอกันล้นหลาม คนหนึ่งถามว่า “ครีมนวดผมกับโลชั่นจะช่วยให้ขนน้องนุ่มขึ้นมั้ย” อีกคนหนึ่งบอกว่า “ฉันว่าต้าเหมาดูจะเงียบกว่า ส่วนเอ้อเหมาดูมีชีวิตชีวานะ” อีกคนหนึ่งบอกว่า “ช่างดีเหลือเกินที่พวกเขาสามารถพาสัตว์เลี้ยงกลับบ้านหลังเรียนจบ แล้วเราก็ไม่ต้องมาเห็นหมาแมวถูกทิ้ง”
นอกจากเทรนด์เลี้ยงเม็ดมะม่วงนี้แล้ว เมื่อปีที่แล้วซึ่งหลายมหาวิทยาลัยในจีนถูกล็อกดาวน์สกัดโควิดอยู่นั้น นักศึกษาทั่วประเทศพากันเลี้ยงน้องหมาน้องแมวที่ทำจากกล่องกระดาษเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจระหว่างที่ออกไปไหนไม่ได้
เทรนด์นี้สร้างความตะลึงในโลกโซเชียลมีเดียของจีนหลังจากสำนักข่าวออนไลน์ Jiupai News รายงานข่าวเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว ส่วน “คนเลี้ยง” หลายๆ คนบอกว่าจ้าเม็ดมะม่วงขนฟูพวกนี้ให้ความรู้สึกอิ่มเอมใจเช่นเดียวกับการเลี้ยงหมาและแมว แถมยังช่วยบำบัดโรคได้อีกด้วย
หลิว นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 19 ปีจากเมืองเทียนจินเป็นหนึ่งในคนเลี้ยงเม็ดมะม่วง เธอเริ่มเลี้ยงเม็ดมะม่วง 2 เม็ด (หรือจะเรียกเป็นตัวดีล่ะ) ที่ตั้งชื่อให้อย่างน่ารักว่า “ต้าเหมา” และ “เอ้อเหมา” (แปลว่า เจ้าขนฟู 1 เจ้าขนฟู 2) ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และยังทำ “ไดอารี่เม็ดมะม่วง” ลงในแอปฯ เสี่ยวหงซู หรืออินสตาแกรมในเวอร์ชันจีนมาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้มีทั้งหมด 11 ไดอารี่แล้ว
หลิวยังทำคลิปบันทึกการเปลี่ยนแปลงสัมผัสของขนเม็ดมะม่วง พร้อมเล่ารายละเอียดว่ามันเปลี่ยนจากขนที่แห้งๆ แข็งๆ มาเป็นขนที่นุ่มเนียนน่าสัมผัสได้อย่างไร ไปจนถึงพัฒนาการการเปลี่ยนสีของขนจากเหลืองเป็นขาว
เสี่ยวเหมิง คนเลี้ยงเม็ดมะม่วงอีกรายหนึ่งบอกกับ Jiupai News ว่า การจะเลี้ยงเม็ดมะม่วงที่สวยๆ ต้องเริ่มจากการซื้อมะม่วงให้ถูกชนิดก่อน และบอกว่า การเลี้ยงดู "สัตว์เลี้ยง" ต้องใช้ความพยายามอย่างมาก เนื่องจากเม็ดมะม่วงไม่เพียงต้องล้างและแปรงขนเท่านั้น แต่ยังต้องใช้เวลาตากแดดเพื่อป้องกันเชื้อราอีกด้วย โดยเสี่ยวเหมิงจะใช้ไดร์เป่าผมเป่าตอนที่หวีเส้นขนเม็ดมะม่วงเพื่อให้มันฟูฟ่องขึ้นมา
ใต้โพสต์ของหลิวนั้นปรากฏว่ามีคนเข้ามาคอมเม้นต์ขอเป็นคุณน้าคุณอาของเจ้า 2 เม็ดมะม่วงของเธอกันล้นหลาม คนหนึ่งถามว่า “ครีมนวดผมกับโลชั่นจะช่วยให้ขนน้องนุ่มขึ้นมั้ย” อีกคนหนึ่งบอกว่า “ฉันว่าต้าเหมาดูจะเงียบกว่า ส่วนเอ้อเหมาดูมีชีวิตชีวานะ” อีกคนหนึ่งบอกว่า “ช่างดีเหลือเกินที่พวกเขาสามารถพาสัตว์เลี้ยงกลับบ้านหลังเรียนจบ แล้วเราก็ไม่ต้องมาเห็นหมาแมวถูกทิ้ง”
นอกจากเทรนด์เลี้ยงเม็ดมะม่วงนี้แล้ว เมื่อปีที่แล้วซึ่งหลายมหาวิทยาลัยในจีนถูกล็อกดาวน์สกัดโควิดอยู่นั้น นักศึกษาทั่วประเทศพากันเลี้ยงน้องหมาน้องแมวที่ทำจากกล่องกระดาษเพื่อช่วยเยียวยาจิตใจระหว่างที่ออกไปไหนไม่ได้