ถ้าเอาแบบขวานผ่าซากเลย ตลาดลงก็เลิกเล่นก่อนค่ะ นี่คือวิธีเอาตัวรอดที่ง่ายที่สุด คือ ออกจากตลาดให้ไว ให้เร็ว แต่หลายคนติดดอยอยู่ในนั้น หรือ บางคนยังเชื่อมั่นในเทคโนโลยีทางการเงิน อย่างบิตคอยน์ ที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมาเป็นสกุลเงินในอนาคต และพื้นฐานปริมาณเงินในระบบ ที่คนหันมาถือครองบิตคอยน์ระยะยาวมากขึ้น อาจเป็นตัวชี้วัดว่าเราใกล้พ้นหลุมกันแล้ว
นั่นหมายความว่าถ้าเราสามารถเอาตัวรอดจากตลาดหมี หรือ ฤดูหนาว ที่หนาวและเหน็บกว่าปี 2022 ได้หละก็ ยังมีโอกาส To the Moon
ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีเอาตัวรอด ก่อนอื่นเลยเราต้องมี mindset หรือทัศนคติในทางบวก รวมกับเทคนิค 4 ข้อนี้อยู่ในตลาดระยะยาว
มุ่งเน้นแต่คริปโทฯ ที่ได้ Large Market cap หรือ ส่วนแบ่งการตลาดเยอะ
Total Market cap หรือส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของ คริปโทเคอเรนซีปัจจุบันอยู่ที่ราว 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ครึ่งหนึ่งของส่วนแบ่งการตลาดเป็นของเหรียญคริปโทฯ ยักษ์ใหญ่แค่ 2 เหรียญเท่านั้น คือ เป็นของบิตคอยน์ไป 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นของ Ethereum ไปเกือบ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ถ้าเทียบกับหุ้น bitcoin และ ethereum ก็คือหุ้น Blue chips หรือ หุ้นที่มีมูลค่า และความมั่นคงสูง แต่ต้องบอกก่อนว่าทั้งบิตคอยน์ และอีธีเรียม ยังไม่สามารถให้ผลตอบแทน ได้ปลอดภัย มั่นคงเท่าหุ้นบลูชิพจริงๆ ในตลาด แต่ถ้าเทียบกับเหรียญคริปโทฯ อื่นๆ แล้ว สองเหรียญนี้ คือ แหล่งที่รอดตาย และผงาดกลับมาได้หลายครั้ง
ในประวัติศาสตร์คริปโทเคอเรนซี ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา บิตคอยน์ร่วงติดลบ 60 -80% มาแล้ว 5 ครั้ง แต่ทยานพุ่งสูงนับหมื่นเปอร์เซ็นต์มาแล้ว 4 ครั้ง อีธีเรียม ก็ผ่านตลาดหมี และทยาน ได้มาแล้ว เช่นกัน
ในขณะที่ Altcoin หรือ เหรียญอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้นจำนวนมาก ยังไม่เคยผ่าน ช่วงเวลาตลาดขาลง และไม่มีประวัติว่าราคาเหรียญจะทยานกลับไปได้ หรือแม้แต่ตัวเหรียญ จะอยู่รอดในช่วงวิกฤติตลาดขาลง หรือ Crypto winter แบบนี้หรือไม่
2. Diversify กระจายความเสี่ยง
อ่าว ไหนบอกให้ดูเฉพาะตัวที่ได้ Large Market cap หรือ ส่วนแบ่งการตลาดเยอะๆ ก็พูดว่าครึ่งตลาดเป็นของบิตคอยน์ กับ อีธีเรียมแล้ว ก็ถูกส่วนหนึ่งค่ะ
แต่ถ้าคุณจะบอกว่า คุณจะ All-in แค่ เหรียญเดียวอันนี้ก็จะความเสี่ยงสูงเกินไป เพราะเรา ไม่ควรเอาไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตระกร้าใบเดียว
มองหาเหรียญที่ได้ส่วนแบ่งการตลาด 1 ใน 100 อันดับจาก CoinMarketCap ที่เป็นเหรียญ Layer1 เช่น Cardano (ADA), Avalanche (AVAX) ซึ่งความนิยมสูงความเสี่ยงต่ำมาเฉลี่ยสัดส่วนการถือ และอย่าลืมเลือกถือ Stablecoin หรือเหรียญที่มีมูลค่าตรึงที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ กลุ่ม DeFi ไว้บ้าง
3. เลือกเฉพาะเหรียญที่มี การพิสูจน์แล้วว่าทำประโยชน์ให้กับโลกนี้ได้จริง
ถึงเวลาที่ต้องเจาะข้อมูลกันหน่อย แต่ละเหรียญจะมีข้อมูลพื้นฐานหรือ White Paper ออกมาให้ศึกษา อย่าง Ethereum คืออะไรน่าลงทุนไหม เราจะเห็นว่า มีคนใช้งานจริง บนแพลตฟอร์อีธีเรียมจำนวนมาก และสามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้จริง หรือ BITCOIN คืออะไร มันสามารถมาแก้ปัญหาระบบการเงินโลกได้อย่างไร ก็มีการพิสูจน์มาแล้ว
ในขณะที่เหรียญ อย่าง Dogecoin มีประโยชน์ใช้สอยใช้งานไม่ได้จริง Dogecoin ถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์แค่จับจ่ายใช้สอยแทนเงิน แต่กลับผลิตเหรียญขึ้นเท่าไหร่ก็ได้ จึงเป็นเงินที่เฟ้อสูง ยังมีอีกหลายเหรียญในจำนวนพันกว่าเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นมาเฉยๆ คนเข้าซื้อเพราะข่าว
อย่างเช่น Elon Mask ลงทุนในเหรียญนี้ ทำให้ราคามันพุ่งได้ แต่ไม่ใช่ เพราะพื้นฐาน มันทำประโยชน์หรือแก้ปัญหาอะไร ได้ เราจึงต้องหลีกเลี่ยงเหรียญที่ไม่มีพื้นฐานประโยชน์ใช้สอย ในตลาดขาลงให้ไกล เพราะมันพร้อม Rug pull หรือถูกเจ้ามือเทจนกลายเป็นศูนย์ได้ทุกเมื่อ
4. อย่าพยายามจับเวลา หรือกะเกณฑ์ราคาต่ำสุด สูงสุดในตลาด
ไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดหรอกว่า ตลาดขาขึ้นจะขึ้นกี่วัน กี่เดือน และไม่รู้หรอกว่าตลาดขาลง จะลงนานเท่าไหร่ หรือ ราคาก้นหลุมอยู่ที่ไหน
หลักการง่ายๆ ของการเทรด คือ ซื้อที่ถูก ขายที่แพง แต่คนที่พยายามคาดเดาระยะเวลา พยายามพยากรณ์ราคาระยะสั้นๆ กำหนดว่ามันต้องใช้เวลาเท่านี้ มันต้องไปราคาเท่านี้ มีแต่จะเครียดหนัก และจบลงด้วยการซื้อแพงขายถูก ทำให้หมดตัวเอาง่ายๆ
ให้ถอยออกมามองระยะยาว แม้แต่คนที่ดอยบิตคอยน์อยู่ที่ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วขายออกไม่ทัน ลากยาวมาถึงตอนนี้เมื่อดูจากสถิติกราฟระยะยาว บิตคอยน์ ยังเป็นขาขึ้น และถ้าอดทนไม่ต้องสนใจมันอาจจะหลุดดอยได้ แต่น่าจะเป็นปีๆ อยู่ค่ะ
ถ้าคุณรักในพื้นฐานการแก้ปัญหาทางการเงินของบิตคอยน์แล้ว เชื่อว่ามูลค่ามันจะกลับมา ตามพื้นฐานของมัน นี่คือช่วงลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ที่หาได้ยากและน่าซื้อ ภายใต้เงื่อนไขว่าเงินคุณต้องเย็นเจี๊ยบเลยนะคะ
แต่ถ้าคุณหวังผลตอบแทนระยะสั้นเร็วๆ นี้ ไปเลือกผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ตัวอื่นก่อนก็ได้ค่ะ หุ้น กองทุนดีๆ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่จะให้ผลตอบแทนดีกว่าคริปโทเคอเรนซีในช่วงนี้ ระหว่างนี้ถ้าคุณยังสนใจก็เป็นโอกาสดีที่จะศึกษา แล้วกลับมาเล่นตอนตลาดขาขึ้นก็ยังไม่สาย
นั่นหมายความว่าถ้าเราสามารถเอาตัวรอดจากตลาดหมี หรือ ฤดูหนาว ที่หนาวและเหน็บกว่าปี 2022 ได้หละก็ ยังมีโอกาส To the Moon
ดังนั้นเราจึงต้องหาวิธีเอาตัวรอด ก่อนอื่นเลยเราต้องมี mindset หรือทัศนคติในทางบวก รวมกับเทคนิค 4 ข้อนี้อยู่ในตลาดระยะยาว
มุ่งเน้นแต่คริปโทฯ ที่ได้ Large Market cap หรือ ส่วนแบ่งการตลาดเยอะ
Total Market cap หรือส่วนแบ่งการตลาดโดยรวมของ คริปโทเคอเรนซีปัจจุบันอยู่ที่ราว 8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ครึ่งหนึ่งของส่วนแบ่งการตลาดเป็นของเหรียญคริปโทฯ ยักษ์ใหญ่แค่ 2 เหรียญเท่านั้น คือ เป็นของบิตคอยน์ไป 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นของ Ethereum ไปเกือบ 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ถ้าเทียบกับหุ้น bitcoin และ ethereum ก็คือหุ้น Blue chips หรือ หุ้นที่มีมูลค่า และความมั่นคงสูง แต่ต้องบอกก่อนว่าทั้งบิตคอยน์ และอีธีเรียม ยังไม่สามารถให้ผลตอบแทน ได้ปลอดภัย มั่นคงเท่าหุ้นบลูชิพจริงๆ ในตลาด แต่ถ้าเทียบกับเหรียญคริปโทฯ อื่นๆ แล้ว สองเหรียญนี้ คือ แหล่งที่รอดตาย และผงาดกลับมาได้หลายครั้ง
ในประวัติศาสตร์คริปโทเคอเรนซี ตลอด 13 ปีที่ผ่านมา บิตคอยน์ร่วงติดลบ 60 -80% มาแล้ว 5 ครั้ง แต่ทยานพุ่งสูงนับหมื่นเปอร์เซ็นต์มาแล้ว 4 ครั้ง อีธีเรียม ก็ผ่านตลาดหมี และทยาน ได้มาแล้ว เช่นกัน
ในขณะที่ Altcoin หรือ เหรียญอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงตลาดขาขึ้นจำนวนมาก ยังไม่เคยผ่าน ช่วงเวลาตลาดขาลง และไม่มีประวัติว่าราคาเหรียญจะทยานกลับไปได้ หรือแม้แต่ตัวเหรียญ จะอยู่รอดในช่วงวิกฤติตลาดขาลง หรือ Crypto winter แบบนี้หรือไม่
2. Diversify กระจายความเสี่ยง
อ่าว ไหนบอกให้ดูเฉพาะตัวที่ได้ Large Market cap หรือ ส่วนแบ่งการตลาดเยอะๆ ก็พูดว่าครึ่งตลาดเป็นของบิตคอยน์ กับ อีธีเรียมแล้ว ก็ถูกส่วนหนึ่งค่ะ
แต่ถ้าคุณจะบอกว่า คุณจะ All-in แค่ เหรียญเดียวอันนี้ก็จะความเสี่ยงสูงเกินไป เพราะเรา ไม่ควรเอาไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตระกร้าใบเดียว
มองหาเหรียญที่ได้ส่วนแบ่งการตลาด 1 ใน 100 อันดับจาก CoinMarketCap ที่เป็นเหรียญ Layer1 เช่น Cardano (ADA), Avalanche (AVAX) ซึ่งความนิยมสูงความเสี่ยงต่ำมาเฉลี่ยสัดส่วนการถือ และอย่าลืมเลือกถือ Stablecoin หรือเหรียญที่มีมูลค่าตรึงที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ กลุ่ม DeFi ไว้บ้าง
3. เลือกเฉพาะเหรียญที่มี การพิสูจน์แล้วว่าทำประโยชน์ให้กับโลกนี้ได้จริง
ถึงเวลาที่ต้องเจาะข้อมูลกันหน่อย แต่ละเหรียญจะมีข้อมูลพื้นฐานหรือ White Paper ออกมาให้ศึกษา อย่าง Ethereum คืออะไรน่าลงทุนไหม เราจะเห็นว่า มีคนใช้งานจริง บนแพลตฟอร์อีธีเรียมจำนวนมาก และสามารถเอามาใช้ประโยชน์ได้จริง หรือ BITCOIN คืออะไร มันสามารถมาแก้ปัญหาระบบการเงินโลกได้อย่างไร ก็มีการพิสูจน์มาแล้ว
ในขณะที่เหรียญ อย่าง Dogecoin มีประโยชน์ใช้สอยใช้งานไม่ได้จริง Dogecoin ถูกสร้างขึ้นเพื่อประโยชน์แค่จับจ่ายใช้สอยแทนเงิน แต่กลับผลิตเหรียญขึ้นเท่าไหร่ก็ได้ จึงเป็นเงินที่เฟ้อสูง ยังมีอีกหลายเหรียญในจำนวนพันกว่าเหรียญที่ถูกสร้างขึ้นมาเฉยๆ คนเข้าซื้อเพราะข่าว
อย่างเช่น Elon Mask ลงทุนในเหรียญนี้ ทำให้ราคามันพุ่งได้ แต่ไม่ใช่ เพราะพื้นฐาน มันทำประโยชน์หรือแก้ปัญหาอะไร ได้ เราจึงต้องหลีกเลี่ยงเหรียญที่ไม่มีพื้นฐานประโยชน์ใช้สอย ในตลาดขาลงให้ไกล เพราะมันพร้อม Rug pull หรือถูกเจ้ามือเทจนกลายเป็นศูนย์ได้ทุกเมื่อ
4. อย่าพยายามจับเวลา หรือกะเกณฑ์ราคาต่ำสุด สูงสุดในตลาด
ไม่มีใครรู้อย่างแน่ชัดหรอกว่า ตลาดขาขึ้นจะขึ้นกี่วัน กี่เดือน และไม่รู้หรอกว่าตลาดขาลง จะลงนานเท่าไหร่ หรือ ราคาก้นหลุมอยู่ที่ไหน
หลักการง่ายๆ ของการเทรด คือ ซื้อที่ถูก ขายที่แพง แต่คนที่พยายามคาดเดาระยะเวลา พยายามพยากรณ์ราคาระยะสั้นๆ กำหนดว่ามันต้องใช้เวลาเท่านี้ มันต้องไปราคาเท่านี้ มีแต่จะเครียดหนัก และจบลงด้วยการซื้อแพงขายถูก ทำให้หมดตัวเอาง่ายๆ
ให้ถอยออกมามองระยะยาว แม้แต่คนที่ดอยบิตคอยน์อยู่ที่ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐ แล้วขายออกไม่ทัน ลากยาวมาถึงตอนนี้เมื่อดูจากสถิติกราฟระยะยาว บิตคอยน์ ยังเป็นขาขึ้น และถ้าอดทนไม่ต้องสนใจมันอาจจะหลุดดอยได้ แต่น่าจะเป็นปีๆ อยู่ค่ะ
นักลงทุนหน้าใหม่ควรลงทุนในบิตคอยน์ที่กำลังราคาลงอยู่ไหม
ถ้าคุณรักในพื้นฐานการแก้ปัญหาทางการเงินของบิตคอยน์แล้ว เชื่อว่ามูลค่ามันจะกลับมา ตามพื้นฐานของมัน นี่คือช่วงลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์ ที่หาได้ยากและน่าซื้อ ภายใต้เงื่อนไขว่าเงินคุณต้องเย็นเจี๊ยบเลยนะคะ
แต่ถ้าคุณหวังผลตอบแทนระยะสั้นเร็วๆ นี้ ไปเลือกผลิตภัณฑ์สินทรัพย์ตัวอื่นก่อนก็ได้ค่ะ หุ้น กองทุนดีๆ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาผลิตภัณฑ์ที่จะให้ผลตอบแทนดีกว่าคริปโทเคอเรนซีในช่วงนี้ ระหว่างนี้ถ้าคุณยังสนใจก็เป็นโอกาสดีที่จะศึกษา แล้วกลับมาเล่นตอนตลาดขาขึ้นก็ยังไม่สาย
