วันที่ 11 เมษายน ธ.ก.ส.ได้โพสต์ในเพจเฟซบุ๊กของธนาคารเนื้อหาว่า…
ธ.ก.ส. เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ มีวัตถุประสงค์ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตร ภายใต้กรอบ พ.ร.บ. ธ.ก.ส.
โครงการต่างๆของรัฐบาลที่ผ่านมา ธ.ก.ส.ได้เข้าไปสนับสนุน ทั้งในมิติของการให้สินเชื่อและเป็นแหล่งทุนในการดำเนินการ โดย ธ.ก.ส.ยังคงสามารถบริหารสภาพคล่องและความแข็งแรง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสถาบันการเงิน
‘โครงการดิจิทัล วอลเล็ต’ ตามที่ได้มีการแถลงฯ นั้น ก็เป็นอีกหนึ่งในโครงการของรัฐบาล ที่เกี่ยวข้องในมิติของเกษตรกรผู้รับที่ ธ.ก.ส.อยู่ระหว่างประสานงานในรายละเอียดที่จะดำเนินการ ภายใต้กรอบกฎหมายและการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสม
โดยผู้ที่มาแสดงความเห็นในโพสต์นี้ มีทั้งที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันคือไม่เห็นด้วย และมีบางรายแสดงความวิตกกับเงินที่ฝากไว้กับธนาคารในรูปแบบของสลาก ธ.ก.ส. และจะขอไถ่ถอนก่อนกำหนดด้วย
การที่ลูกค้าของธนาคารฯ มีความคิดไถ่ถอนสลากออมทรัพย์ก่อนกำหนด เทียบเคียงกับเหตุการณ์ในปี 2557 ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำโครงการรับจำนำข้าว โดยใช้เงินส่วนหนึ่งจากธนาคารออมสิน ทำให้ลูกค้าธนาคารออมสินบางส่วนที่ไม่เห็นด้วย และกังวลเรื่องเงินฝาก พากันถอนเงิน และไถ่ถอนสลากออมสินก่อนกำหนด อาจเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์นี้อาจจะเกิดซ้ำรอยอีกครั้ง
จากกรณีที่รัฐบาลเดินหน้าโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท วงเงินรวม 500,000 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินส่วนหนึ่งจะใช้จากงบประมาณปี 68 ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) โดยใช้มาตรา 28 แห่งพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง จำนวน 172,300 ล้านบาทให้กับเกษตรกร 17 ล้านคน